วิกฤตไวรัส ทำผู้คนหวาดวิตกแห่ซื้อสินค้า-อาหารเกลี้ยงซูเปอร์มาเก็ต ส่วนช็อปออนไลน์ยอดทะลัก Amazon เตรียมจ้างงานอีก 100,000 อัตรา
Amazon บริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลกที่ก่อตั้งขึ้นโดยมหาเศรษฐี Jeff Bezos ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า บริษัทเตรียมจ้างพนักงานคลังสินค้าและพนักงานขนส่งในสหรัฐอเมริกาเพิ่ม 100,000 อัตรา เพื่อรับมือกับยอดคำสั่งซื้อออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก วิกฤตไวรัส ที่ทำให้ผู้บริโภคแห่ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้นซึ่งรวมไปถึงช่องทางออนไลน์
ด้วยความหวั่นวิตกว่าเมืองจะถูกล็อกดาวน์ หรือเกิดภาวะขาดแคลนสินค้า ทำให้ประชาชนในสหรัฐฯ แห่ซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตจนเกลี้ยงชั้นวาง ขณะที่ร้านค้าปลีกต่างกำลังแข่งขันกันคงยอดอาหารและสินค้าเพื่อสุขอนามัยในสต็อก รวมถึงพยายามมีจำนวนพนักงานในร้านและพนักงานเดลิเวอรี่ที่เพียงพอ
เช่นเดียวกับ Amazon เชนซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐฯ อย่าง Albertsons, Kroger และ Raley ได้จ้างพนักงานใหม่ในส่วนที่ต้องการสรรพกำลัง และส่วนการซื้อขายออนไลน์ โดยตั้งเป้าหาพนักงานจากกลุ่มคนที่เคยทำงานในธุรกิจร้านอาหาร, ท่องเที่ยว และบันเทิง ซึ่งพิษจากไวรัสโคโรน่าทำให้กลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่กำลังหางานอยู่
“เราต้องการให้พวกเขารู้ว่าเรายินดีต้อนรับพวกเขาเข้ามาเป็นทีมเดียวกันกับเรา จนถึงช่วงเวลาที่ทุกสิ่งเข้าสู่ภาวะปกติ และอดีตนายจ้างของพวกเขาสามารถดึงพวกเขากลับไปได้” Amazon ระบุในโพสต์ของบริษัท
ด้านบริษัทขนส่งรายใหญ่อย่าง United Parcel Service ระบุว่า การขนส่งทางอากาศและการขนส่งผ่านรถบรรทุกยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ แม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะมีกฎเกณฑ์เพิ่มมากขึ้นในกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ขณะที่ภาพรวมของบริษัทยังมีพนักงานเพียงพอต่อดีมานด์ที่มีเข้ามา
ทั้งนี้ ไวรัสโคโรน่าที่เป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกไปแล้วกว่า 7,900 ราย ผู้คนจำนวนมากอยู่ในสถานการณ์ล็อกดาวน์ของเมือง การระบาดของไวรัสนี้ยังนำไปสู่ภาวะสต็อกสินค้าหลายรายการใน Amazon หมดเกลี้ยง และการขนส่งบางรอบก็ใช้เวลานานกว่าปกติ
สำหรับจำนวนพนักงานของ Amazon นั้นมีความผันผวนตามฤดูกาล โดยจำนวนพนักงานสูงสุดครั้งล่าสุดคือในช่วงวันหยุดในไตรมาสที่ผ่านมา ที่มีพนักงานทั้งหมด (ทั้งฟูลไทม์และพาร์ทไทม์) รวม 798,000 คน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่า หลังจากจ้างงานใหม่ 100,000 อัตราแล้ว Amazon จะมีพนักงานทั้งหมดกี่คน
และเพื่อดึงดูดพนักงานใหม่ Amazon ระบุว่าจะเพิ่มค่าจ้างอีก 2 เหรียญ จากค่าแรงขั้นต่ำของชาวอเมริกันที่อยู่ที่ชั่วโมงละ 15 เหรียญ ซึ่งนโยบายเพิ่มค่าจ้างนี้จะใช้ไปจนถึงเดือนเมษายน ทำให้คาดว่าค่าจ้างพิเศษที่ Amazon ต้องจ่ายสำหรับพนักงานที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงในอเมริกาเหนือและยุโรป จะอยู่ที่ประมาณ 350 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่ากฎเกณฑ์ใหม่ของรัฐบาลในเรื่องการจำกัดพื้นที่ อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซหรือไม่ มากน้อยเพียงใด โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการของ San Francisco ได้ประกาศห้ามประชาชนออกนอกบ้าน ยกเว้นต้องเดินทางเพื่อจุดประสงค์ที่จำเป็นบางอย่าง เช่น งานที่เป็นธุรกิจขนส่งสินค้า, อาหาร หรือบริการที่ส่งตรงไปยังที่อยู่ของผู้รับ
แปลและเรียบเรียงจาก Amazon is hiring 100,000 workers to cope with coronavirus demand