Meituan Dianping ผู้เอาชนะ Alibaba ในสมรภูมิส่งอาหารเดลิเวอรี่ของจีน หุ้นพุ่ง 80% - Forbes Thailand

Meituan Dianping ผู้เอาชนะ Alibaba ในสมรภูมิส่งอาหารเดลิเวอรี่ของจีน หุ้นพุ่ง 80%

ในสงครามการแข่งขันของตลาดส่งอาหารเดลิเวอรี่ของประเทศจีน Alibaba ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยนั่นคือการตกเป็นรองคู่แข่ง ผู้ชนะ (ในขณะนี้) คือ Meituan Dianping แอพฯ ที่ครองใจลูกค้านับร้อยล้านคนไว้ได้

แปลและเรียบเรียงจาก Food-Delivery Tycoon Adds $2.4 Billion To Fortune By Beating Out Alibaba เขียนโดย Yue Wang ตีพิมพ์ครั้งแรกที่ forbes.com

แอพพลิเคชั่น Meituan ก่อตั้งและนำทัพโดยมหาเศรษฐี Wang Xing บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ใน Beijing แห่งนี้เพิ่งจะกินส่วนแบ่งทางการตลาดการจัดส่งอาหารเดลิเวอรี่เพิ่มเป็น 65% ของตลาดมูลค่า 8.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในประเทศจีน ทิ้งห่างแอพฯ Ele.me ของ Alibaba ซึ่งมีมาร์เก็ตแชร์ 27% เท่านั้น (ข้อมูลจาก Trustdata บริษัทที่ปรึกษาและข้อมูลทางการตลาด)

ราคาหุ้นของ Meituan Dianping ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงทะยานขึ้นถึง 80% หลังทำเซอร์ไพรส์รายงานผลกำไรในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ นับเป็นการเติบโตที่สวนทิศทางตลาดหุ้นฮ่องกง หลังดัชนีฮั่งเส็งลดลง 9% ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจากสถานการณ์ประท้วงรัฐบาลที่คุกรุ่น

Wang ผู้สร้างความมั่งคั่งจากแอพฯ Meituan จึงได้อานิสงส์เป็นความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นทันที จากเดิมที่มีทรัพย์สินสุทธิ 3.8 พันล้านเหรียญช่วงต้นปี 2019 ขณะนี้เขามีความมั่งคั่ง 6.2 พันล้านเหรียญ

Wang-Xing-Meituan Dianping
Wang Xing ผู้ก่อตั้งแอพฯ Meituan (PHOTO CREDIT: AFP)

หลายคนมองบวกกับ Meituan มากขึ้น เพราะพวกเขาพิสูจน์แล้วว่าตลาดจัดส่งอาหารเดลิเวอรี่นั้นทำเงินได้Wang Xiaoyan นักวิเคราะห์จาก 86 Research ใน Shanghai กล่าวจะมีความผันผวนในการทำกำไร แต่บริษัทจะหยุดเลือดที่ไหลออกจากการทุ่มเงินสร้างตลาดได้ดีกว่าเดิม

เมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา Meituan รายงานกำไรสุทธิที่ 877.4 ล้านหยวน ซึ่งพลิกผันอย่างมากเมื่อเทียบกับการขาดทุน 7.7 พันล้านหยวนเมื่อปีก่อน ด้านรายได้ก็เติบโตขึ้น 51% เป็น 2.27 หมื่นล้านหยวน หลังจากที่บริษัทสามารถแย่งมาร์เก็ตแชร์มาจาก Ele.me ได้สำเร็จ รวมถึงได้รายได้เฉพาะงวดมาจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์การจัดการสินทรัพย์

ผลของความสำเร็จนี้เกิดจากความสามารถของบริษัทในการให้บริการที่ดีกว่า และกลยุทธ์ให้เงินสนับสนุน (subsidy) ที่ทรงประสิทธิภาพ

Meituan รุกหนักกว่า Alibaba ในการเซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์เอ็กซ์คลูซีฟเพื่อจัดส่งอาหารให้กับบรรดาร้านค้า ขณะเดียวกัน ยังลดเวลาการจัดส่งอาหาร และลดต้นทุนด้วยการจัดการข้อมูลเพื่อให้คนส่งอาหารรับออเดอร์และสินค้าจากหลายร้านได้ในเที่ยวเดียว

สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้ติดหนึบอยู่กับแอพฯ Meituan แม้ว่า Alibaba จะแจกคูปองส่วนลดมูลค่ารวมหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อจูงใจให้ลูกค้าหันมาใช้ Ele.me ก็ตาม

รถขนส่งอาหารของ Ele.me ในเครือ Alibaba

David Dai นักวิเคราะห์จาก Bernstein Research ในฮ่องกง มองว่า ความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ของผู้ใช้ Meituan นั้นแข็งแรงเกินกว่าที่ Alibaba คาดคิด

หลายคนบอกว่าพวกเขา (ผู้ใช้) มีความอ่อนไหวต่อราคา แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเปิดแอพฯ สองตัวแล้วมาเทียบราคากันก่อนสั่งอาหารเขากล่าว “Meituan มีจำนวนร้านอาหารมากกว่า มีผู้ใช้เยอะกว่าซึ่งทำให้การจัดส่งอาหารมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งสร้างวัฏจักรเชิงบวกให้กับแอพฯ

ปัจจุบัน เมื่อการแข่งขันคลายความร้อนแรงลง Meituan จึงเริ่มหันไปมุ่งหารายได้เพิ่มจากการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มที่เข้าถึงผู้ใช้ประจำ (active users) ปีละ 422.6 ล้านคน ร้านอาหารสามารถจ่ายเงินเพื่อแปะโฆษณาแบนเนอร์ของตัวเองไว้ในแอพฯ หรือจ่ายเพื่อให้ร้านอาหารของตนอยู่ในลำดับบนๆ เมื่อลูกค้ากดค้นหา

แม้ว่าตำแหน่งผู้นำตลาดของ Meituan นั้นยากจะโค่นลงได้ แต่ Alibaba ส่งสัญญาณแล้วว่าพวกเขายังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นักวิเคราะห์กล่าวว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอี-คอมเมิร์ซรายนี้มองว่าธุรกิจจัดส่งอาหารเดลิเวอรี่เป็นชิ้นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ภาพรวมของเครือ เพราะธุรกิจนี้เป็นบริการที่มีความถี่การใช้งานสูงซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับระบบนิเวศของ Alibaba เพื่อสนับสนุนธุรกิจบริการอื่น เช่น อี-เพย์เมนต์

กลยุทธ์ตีตลาดคู่แข่งของ Alibaba คือการหันไปมุ่งเน้นตลาดในเมืองที่อยู่ในเทียร์ล่างลงมา ซึ่งเป็นป้อมปราการแหล่งรายได้หลักของ Meituan

ถ้า Ele.me จะก่อสงครามราคา Meituan ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตาม Steven Zhu นักวิเคราะห์จาก Pacific Epoch ใน Shanghai กล่าว

กลยุทธ์นี้อาจจะได้เห็นในช่วงท้ายปี เมื่อยักษ์ใหญ่ Alibaba เปิดแคมเปญลดกระหน่ำในวันคนโสด และใช้ส่วนลดเป็นตัวดึงดูดนักช็อป ช่วงนั้น Meituan อาจจะต้องอัดฉีดเงินมากขึ้นเพื่อดึงผู้ใช้เอาไว้ โดยเฉพาะเมื่อเป็นช่วงฤดูหนาวที่การใช้งานเดลิเวอรี่ส่งอาหารจะถี่ยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังมองบวกว่าตลาดมีพื้นที่พอให้ทุกบริษัทเติบโต และน่าจะทำให้มาร์จิ้นดีขึ้นในอนาคตด้วย

การพัฒนาผลกำไรจะมาจากการเพิ่มรายได้มากกว่าการตัดต้นทุน” Dai จาก Bernstein Research กล่าวพวกเขาสามารถเพิ่มเที่ยวการส่งและพัฒนารายได้จากโฆษณา ดังนั้นพื้นที่การเติบโตของรายได้จึงยังกว้างมาก

 
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine