ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน มูลค่าของทรัพย์สินรวมจากการจัดอันดับของ 50 มหาเศรษฐีญี่ปุ่นที่มั่งคั่งที่สุดประจำปี 2020 โดย Forbes ลดลงเพียง 5% เท่านั้น
จนถึงเวลานี้บรรดามหาเศรษฐีญี่ปุ่นผู้มั่งคั่งยังไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 มากนัก โดยมูลค่าทรัพย์สินรวมของทั้ง 50 มหาเศรษฐีญี่ปุ่นลดลงเพียง 5% อยู่ที่ 1.68 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ ของนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ในช่วงต้นเมษายนที่ผ่านมาถูกนำมาใช้ต่อสู้กับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากไวรัสโคโรน่าซึ่งช่วยให้ประเทศญี่ปุ่นสามารถต้านทานเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ระดับหนึ่ง แต่จากการตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วทั้งประเทศและการเลื่อนมหกรรมกีฬาโอลิมปิคเกมส์ 2020 ออกไปเป็นเวลา 1 ปี ทำให้หลากหลายธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่มูลค่าสกุลเงินของญี่ปุ่นยังคงแข็งค่าต่อเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2019 ส่วนมูลค่ารวมของ Nikkei 225 stock index ลดต่ำลงเป็นจำนวน 11% จากที่จุดสูงสุดที่เคยทำไว้ จากรายชื่อมหาเศรษฐีทั้ง 50 อันดับ เราพบว่าการจัดอันดับมหาเศรษฐีญี่ปุ่นประจำปี 2020 มีมหาเศรษฐีมากกว่าครึ่งหนึ่ง คิดเป็นจำนวน 28 รายที่มูลค่าทรัพย์สินของพวกเขาลดลง หนึ่งในจำนวนนั้นคือ Tadashi Yanai มหาเศรษฐีค้าปลีกสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น โดยมูลค่าทรัพย์สินของเขาลดลง 2.6 พันล้านเหรียญ แต่เขายังคงครองความเป็นหนึ่งด้วยการเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 เป็นปีที่สองติดต่อกัน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมที่ 2.23 หมื่นล้านเหรียญ มูลค่าที่ลดลงเป็นไปตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในทั่วโลกที่ทำให้สาขาต่างๆ ของยูนิโคล่ ไม่ว่าจะเป็นในจีน สหรัฐฯ ยุโรป ต้องปิดการบริการลงชั่วคราว แม้เพิ่งจะมีสัญญาณที่ดีจากจีนหลังร้านค้าต่างๆ เริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้งก็ตาม ด้านมหาเศรษฐีอันดับที่ 2 Masayoshi Son ผู้ก่อตั้ง SoftBank ได้รับผลกระทบกับอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาลดลงไป 3.5 พันล้านเหรียญ ส่งให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ 2.05 หมื่นล้านเหรียญ ส่วนหนึ่งที่ทำให้มูลค่าความมั่งคั่งของเขาลดลงเนื่องมาจากมูลค่าหุ้นที่ดิ่งลงในตลาดหลักทรัพย์ของ WeWork ธุรกิจโคเวิร์คกิ้งสเปซที่ SoftBank เป็นผู้ถือหุ้นหลัก สำหรับการจัดอันดับในปีนี้ถือเป็นขาขึ้นของมหาเศรษฐีอีก 17 ราย อาทิ Takemitsu Takizaki มหาเศรษฐีอันดับที่ 3 ผู้ก่อตั้ง Keyence ผู้สร้างระบบเซ็นเซอร์ ที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1.2 พันล้านเหรียญ ทำให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของเขาขึ้นมาที่ 1.98 หมื่นล้านเหรียญ อันเนื่องจากผลประกอบการที่ดีจากโรงงานผลิตรถยนต์หรูที่สถานการณ์ยังดีอยู่ท่ามกลางยอดขายตลาดรวมที่ลดลง ด้าน Nobutada Saji แห่งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค Suntory Holdings ยังครองอันดับที่ 4 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 9.4 พันล้านเหรียญ แม้ความมั่งคั่งของเขาจะถูกแบ่งส่วนไปยังคนในครอบครัวแล้วก็ตาม และเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามูลค่าทรัพย์สินของเขาลดลง 1.4 พันล้านเหรียญ ด้านมหาเศรษฐีอันดับที่ 5 Takahisa Takahara ประธานและซีอีโอ Unicharm ตามที่ความต้องการในสินค้ามาส์กบำรุงผิวและแผ่นจำกัดเชื้อโรคของเขาพุ่งสูง ทำให้สามารถครองสัดส่วนในตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่า 11% จากปีที่ผ่านมา และส่งให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มสูงถึง 13% อยู่ที่ 5.9 พันล้านเหรียญ มหาเศรษฐีอันดับที่ 16 Masahiro Noda ผู้ก่อตั้ง Obic บริษัทด้านไอทีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทำให้ Obic กินส่วนแบ่งของตลาดมากถึง 32% ส่งให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้นที่ 3.14 พันล้านเหรียญ สวนทางกับเจ้าพ่อปาจิงโกะ Kazuo Okada อันดับที่ 34 ผู้ก่อตั้ง Universal Entertainment ถือเป็นหนึ่งมหาเศรษฐีมูลค่าทรัพย์สินร่วงอย่างรุนแรง มูลค่าทรัพย์สินของเขาลดลง 42% ที่ 1.19 พันล้านเหรียญ สำหรับในปีนี้ขอต้อนรับ 3 มหาเศรษฐีหน้าใหม่ได้แก่ Yoshio Tsuchiya มหาเศรษฐีอันดับที่ 12 ถือเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่เข้ามาด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่สูงที่สุดที่ 3.3 พันล้านเหรียญ หลังบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ผลิตเครื่องแต่งกายแฟชั่น Workman ได้รับความนิยมมากขึ้นรวมไปถึงชุดแต่งกายสำหรับการทำงานในโรงงาน ด้าน Shigefumi Wada มหาเศรษฐีหน้าใหม่ติดเข้ามาในอันดับที่ 31 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.25 พันล้านเหรียญ Wada ผู้ร่วมก่อตั้ง Obic Business Consultants บริษัทที่ให้บริการและที่ปรึกษาด้านซอฟต์แวร์การจัดการ โดยร่วมก่อตั้งกับบริษัทของ Masahiro Noda มหาเศรษฐีอันดับที่ 16 และปิดท้ายมหาเศรษฐีหน้าใหม่ได้แก่ Masaru Wasami มหาเศรษฐีลำดับที่ 43 ผู้ก่อตั้งธุรกิจโลจิสติกส์ Maruwa Unyu Kikan ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมที่ 940 ล้านเหรียญ ซึ่งหนึ่งในลูกค้าของเขาคือ Amazon สำหรับมหาเศรษฐีที่กลับมาติดในรายชื่อ 50 มหาเศรษฐีญี่ปุ่นอีกครั้งมี 2 ราย ได้แก่ Hirokazu Sugiura ผู้ก่อตั้งเชนร้านขายยา Sugi Holdings ในอันดับที่ 45 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่ 910 ล้านเหรียญ และ Yoji Sato เจ้าพ่อปาจิโกะ ที่ติดในอันดับที่ 50 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 810 ล้านเหรียญ และจากการเสียชีวิตของ Minoru Mori เมื่อกันยายนปีที่ผ่านมา ส่งให้บุตรชายของเขา "Yuji Otsuka และครอบครัว" เข้ามาแทนที่ในอันดับที่ 17 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3.13 พันล้านเหรียญ โดย 5 มหาเศรษฐีที่หลุดจากการจัดอันดับมหาเศรษฐีญี่ปุ่นประจำปี 2020 หนึ่งในมหาเศรษฐีเหล่านั้นคือ Nobutoshi Shimamura มหาเศรษฐีจากธุรกิจเสื้อผ้าลดราคา สำหรับในการจัดอับดับในปีนี้เส้นแบ่งมูลค่าทรัพย์สินของผู้ติดที่ติดใน 50 รายชื่อมหาเศรษฐีอยู่ที่ 810 ล้านเหรียญ ต่ำกว่าการจัดอันดับปีที่ผ่านมาที่ 900 ล้านเหรียญ10 อันดับมหาเศรษฐีญี่ปุ่นที่ร่ำรวยที่ประจำปี 2020
อันดับที่ 1 Tadashi Yanai มูลค่าทรัพย์สิน 2.23 หมื่นล้านเหรียญ อันดับที่ 2 Masayoshi Son มูลค่าทรัพย์สิน 2.05 หมื่นล้านเหรียญ อันดับที่ 3 Takemitsu Takizaki มูลค่าทรัพย์สิน 1.98 หมื่นล้านเหรียญ อันดับที่ 4 Nobutada Saji มูลค่าทรัพย์สิน 9.4 พันล้านเหรียญ อันดับที่ 5 Takahisa Takahara มูลค่าทรัพย์สิน 5.9 พันล้านเหรียญ อันดับที่ 6 Hiroshi Mikitani มูลค่าทรัพย์สิน 5.4 พันล้านเหรียญ อันดับที่ 7 Yasumitsu Shigeta มูลค่าทรัพย์สิน 4.7 พันล้านเหรียญ อันดับที่ 8 Hideyuki Busujima มูลค่าทรัพย์สิน 4.1 พันล้านเหรียญ อันดับที่ 9 Akio Nitori มูลค่าทรัพย์สิน 4 พันล้านเหรียญ อันดับที่ 10 Akira Mori มูลค่าทรัพย์สิน 3.9 พันล้านเหรียญ *มูลค่าทรัพย์สินในบริษัทมหาชนเป็นการคำนวณจากราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 10 เมษายน 2020ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine