TimeVallée Bangkok King Power Rangnam อาณาจักรเรือนเวลาลักซ์ชัวรีแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ เปิดบทสัมภาษณ์สุดเอ็กคลูซีฟ CEO, TimeVallée Asia Pacific พร้อมด้วย CCO, King Power Group - Forbes Thailand

TimeVallée Bangkok King Power Rangnam อาณาจักรเรือนเวลาลักซ์ชัวรีแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ เปิดบทสัมภาษณ์สุดเอ็กคลูซีฟ CEO, TimeVallée Asia Pacific พร้อมด้วย CCO, King Power Group

เกือบหนึ่งทศวรรษเต็มที่สร้างแบรนด์จนได้รับความไว้วางใจจากผู้คนที่หลงใหลในกลไกขั้นสูงของ "เรือนเวลา" จากทั่วทุกมุมโลก ไปจนถึง Maisons ผู้ผลิตเรือนเวลาแบรนด์ต่างๆ ในฐานะพาร์ทเนอร์ มาวันนี้ "TimeVallée (ไทม์วัลเลย์)" รีเทลมัลติแบรนด์เรือนเวลาระดับลักซ์ชัวรีก็ได้เข้ามารุกตลาด Luxury Watch ไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้การจับมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง คิง เพาเวอร์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเข้าถึงเรือนเวลาที่คุณจะต้องมนตร์สะกดชนิดถอนตัวไม่ขึ้น!

ภายใต้พื้นที่กว่า 447 ตาราเมตร บนชั้น 2 ของอาคาร คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พื้นที่แห่งนี้ได้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นบูทีคสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทยของ TimeVallée รีเทลมัลติแบรนด์เรือนเวลาระดับลักซ์ชัวรีเป็นที่เรียบร้อย ภายใต้ชื่อ "TimeVallée Bangkok King Power Rangnam"

"สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนเกาะขุมทรัพย์มหาสมบัติที่รายล้อมไปด้วยอัญมณีเลอค่า (Maison ทั้ง 8 แบรนด์ผู้ผลิตเรือนเวลา) ที่รอให้คุณได้เข้ามาเยือน" Antares Cheng (อันทาเรส เชง) Chief Commercial Officer, King Power Group ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในการพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลกมาร่วมงานกับ คิง เพาเวอร์ บอกกับ Forbes ระหว่างให้สัมภาษณ์

​คำเปรียบเปรยของ Antares หาใช่คำกล่าวอ้างเกินจริงแต่อย่างใด เพราะ TimeVallée Bangkok King Power Rangnam แห่งนี้ ได้รวบรวมเอา Watchmaking ทั้ง 8 Maisons ชื่อดังระดับโลกมาไว้รวมกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์และนิยามความเป็น Luxury Multi-brand Watches Destination Store อย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอย ชนิดที่แฟนเรือนเวลา และเหล่านักสะสมจะต้องอดใจที่จะเดินทางไปสำรวจขุมทรัพย์แห่งนี้ไม่ได้แน่นอน!

ทั้ง 8 Maisons ที่อยู่ภายในอาณาจักร TimeVallée Bangkok King Power Rangnam แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ประกอบไปด้วย Baume & Mercier, Cartier, IWC Schaffhausen, Jaeger-LeCoultre, Panerai, Piaget, Roger Dubuis และ Vacheron Constantin โดยที่บางแบรนด์ยังได้นำสินค้าในไลน์จิวเวอร์รีเข้ามาจำหน่ายควบคู่ไปกับตัวเรือนเวลาด้วย

เพื่อลงลึกไปในความตั้งใจที่แท้จริง สำรวจมุมมองที่ TimeVallée มีต่อการตัดสินใจมาเปิดแฟล็กชิปบูทีกแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ รวมไปถึงประสบการณ์ด้านเรือนเวลาที่พวกเขาพร้อมจะส่งต่อให้กับเหล่าแฟนเรือนเวลาในไทยได้สัมผัสกัน Forbes จึงถือโอกาสนี้ชวนทั้ง Antares Cheng (อันทาเรส เชง) CCO ของ King Power Group และ Eddie Han (เอ็ดดี ฮาน) CEO ของ TimeVallée, Asia Pacific มาบอกเล่าเรื่องราวสุดเอ็กคลูซีฟนี้ไปพร้อมกัน

Eddie Han, Chief Executive Officer of TimeVallée Asia Pacific

เหตุผลที่เลือก King Power พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาวที่ติ๊กถูกทั้งสถานที่ ผู้คน และ "เวลา"

ไทยถือเป็นหนึ่งในหมุดหมายปลายทางที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่นักท่องเที่ยวทุกคนต่างก็หวังที่จะเดินทางมาเยี่ยมเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต โดยจากการคาดการณ์ของ Euromonitor International บริษัทรีเสิร์ชข้อมูลด้านการตลาด อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจระดับโลกได้ประเมินไว้ว่า "กรุงเทพฯ" น่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดเป็นลำดับที่ 7 ของโลก ตลอดทั้งปี 2024 นี้

​ไม่เพียงเท่านั้น แต่ตลาด Luxury Product Segments ในประเทศไทยช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ขยายตัวค่อนข้างมาก วัดได้จากการที่สโตร์แบรนด์เนมดังในห้างใจกลางกรุงเทพฯ มีภาพนักท่องเที่ยวต่อคิวยืนเข้าแถวรอเข้าร้านพลางถือถุงใบใหญ่ปรากฏให้เห็นจนชินตา รวมถึงการที่แบรนด์ระดับลักซ์ชัวร์อีกมากก็กำลังทะยอยต่อคิวรอตั้งสโตร์รูปแบบใหม่ของตัวเองกันไม่หวาดไม่ไหว

​เมื่อประกบรวมทั้งสองเหตุผลข้างต้นนี้ จึงกลายเป็นที่มาที่ทำให้ TimeVallée ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการขยายสาขาลำดับที่ 51 ของพวกเขาต่อจากสโตร์สาขาอื่นๆ ใน สาธารณรัฐประชาชนจีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง, ยุโรป และอเมริกาเหนือ

"เหตุผลที่เราตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการขยายสาขาใหม่ของ TimeVallée ก็เพราะว่า ไทยถือเป็นปลายทางยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกต่างก็มุ่งหวังและตั้งตารอคอยที่จะได้เดินทางมาเยือน ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่ยากเลยด้วยซ้ำที่เราเลือกจะพา TimeVallée ออกเดินทางในครั้งนี้" Eddie Han เริ่มเล่า

"การทำงานร่วมกับ King Power ถือเป็นรูปแบบความร่วมมือระยะยาวที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเกิดขึ้นบนความตั้งใจของ TimeVallée ที่ไตร่ตรอง ใช้เวลาอย่างยาวนานในการมองหาพาร์ทเนอร์ที่ใช่ที่สุด บนทำเลที่ถูกต้อง (ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางเข้าถึงสะดวก) ภายใต้จังหวะเวลาที่เหมาะสม

"ด้วยการทำงานร่วมกับ King Power นี้เองก็จะช่วยให้ TimeVallée สามารถบรรลุเป้าประสงค์ในการให้บริการลูกค้าในประเทศไทยทุกราย รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย เพื่อให้พวกเขาได้เข้าถึงเรือนเวลาคุณภาพสูงที่หลงรักในทุกๆ คอลเลกชันได้อย่างไร้ข้อจำกัด"

​Antares Cheng, Chief Commercial Officer of King Power

Antares เสริมต่อในประเด็นนี้ว่า ในบรรดาประเทศกลุ่มอาเซียน ไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตเชิงเศรษฐกิจอย่างรุดหน้า รวดเร็ว นั่นจึงหมายความว่า ตลาดประเทศไทยโดยเฉพาะตลาดรีเทลกลุ่ม Luxury เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงเป็นอย่างมากในมุมมองของแบรนด์ เช่นเดียวกันกับเหตุผลเรื่องการเป็น Best Destination ของเหล่านักท่องเที่ยว

"ความร่วมมือกันในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทั้งลูกค้าจากต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาที่ไทย รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบนาฬิกาหรูในประเทศไทยที่จะเดินทางออกไปท่องเที่ยวยังประเทศอื่นๆ ก็จะได้เข้ามาสัมผัสกับเรือนเวลาระดับลักซ์ชัวรีที่ TimeVallée  สาขาแรกของไทย

"ไม่เพียงเท่านั้น โปรเจกต์การตั้ง Flagship Store ของ TimeVallée ยังเป็นเครื่องยืนยันที่พิสูจน์ถึงเคมีที่ลงตัวภายใต้การทำงานร่วมกันกับ TimeVallée บนความตั้งใจของเรา King Power ซึ่งเชื่อมั่นและมี DNA แห่งการปรับตัวอย่างรวดเร็ว การคิดก้าวหน้าอยู่เสมอ เพราะเรามุ่งมั่นจะนำเสนอสินค้า บริการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราทุกคน"


ส่งมอบประสบการณ์สุดยูนิคแบบหรูหรา แต่ขณะเดียวกันก็ต้อง "เข้าถึงง่าย" และไร้ซึ่งความกดดัน (Pressure Free)

หนึ่งในสิ่งที่เราคาดหวังได้อยู่แล้วจาก TimeVallée Bangkok King Power Rangnam แห่งนี้ก็คือเรือนเวลาคุณภาพสูงจาก Maisons ชื่อดังระดับโลกทั้ง 8 แห่งที่เราได้กล่าวไปข้างต้น บวกรวมด้วยประสบการณ์การให้บริการที่โดดเด่น แตกต่าง เหนือระดับและไม่เหมือนใคร

​และถึงแม้จะ Position ตัวเองเป็น Luxury Multibrand Watches Boutique Stores แต่รากฐานหรือจิตวิญญาณที่สำคัญที่ TimeVallée เฝ้าย้ำกับตัวเองเสมอคือการพัฒนาบรรยากาศและประสบการณ์การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ให้ลูกค้าทุกคนรู้สึกเข้าถึงได้ไม่ยาก และไร้ซึ่งความกดดันในยามที่พวกเขาตบเท้าเข้ามายังสโตร์แห่งนี้

"คียเวิร์ดแรกๆ ที่ผมนึกถึงคือ 'ความสามารถในการเข้าถึงได้ (Approachable)'" Eddie บอกกับ Forbes เมื่อเราถามถึงแรงบันดาลใจการดีไซน์เลย์เอาท์ของสโตร์แห่งนี้ที่ Watchmaking ทั้ง 8 Maisons อยู่รวมกันแบบไร้ฉากกั้น หรือผนังปิดทึบ

"ถึงเราจะวางตัวเองเป็น Multibrand สำหรับเรือนเวลากลุ่ม Luxury แต่เราก็มีเรือนเวลาให้คุณเลือกขึ้นข้อด้วยราคาที่หลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มเริ่มต้นหัดสะสม กำลังจะเข้าสู่วงการ (Entry Level) ที่มีกลุ่มเรือนเวลาสนนราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 ยูโร หรือประมาณ 182,000 บาท ไปจนถึงกลุ่มเรือนเวลาที่เป็นสินค้า Exclusive ของแต่ละ Maisons ซึ่งมีราคาสูงถึงราว 500,000 ยูโรหรือประมาณ 18.2 ล้านบาท โดยที่ทั้งหมดจะวางจำหน่ายในราคา Duty free หรือปลอดภาษี"

อีกประการหนึ่งคือจะเห็นได้ว่า อินไซท์และอุปสรรคก้อนใหญ่ของคนที่อยากจะเริ่มสะสมเรือนเวลาส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นภายใต้รูปแบบของความรู้สึกอัดอัด หรือ "ความกดดัน" ในยามที่พวกเขาอยากไปศึกษาเรือนเวลาเรือนจริงของแต่ละแบรนด์จากร้านค้า Monobrand ทีละร้านก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คุณจะไม่มีวันรู้สึกเป็นอันขาดในยามที่ได้เดินทางไปที่ TimeVallée


โดย Eddie บอกว่า "ความตั้งใจในส่วนนี้สะท้อนให้เห็นได้จากการออกแบบ ดีไซน์ตัวร้านด้วยแนวคิดแบบเปิดรับ (Openness Concept) ทำให้ลูกค้าทุกคนสามารถเดินทางมาเยี่ยมเยือนยังบูทีกของเราโดยไม่รู้สึกกดดัน (Pressure-Free Environment) ภายใต้การให้ความช่วยเหลือโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเรือนเวลาของเรา หรือ King Power เพื่อให้พวกเขาได้ค้นพบเรือนเวลาแบรนด์ใหม่ๆ ที่พวกเขาเองอาจจะยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์ที่แท้จริงที่ TimeVallée อยากจะส่งต่อให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัส"

ซีอีโอ TimeVallée ยังเผยกับ Forbes อีกด้วยว่า TimeVallée ยังเตรียมจัดกิจกรรมเวิร์กช้อปสุดพิเศษให้กับลูกค้า หรือผู้ที่หลงรักในเรือนเวลาตลอดทั้งปี ภายใต้การทำงานร่วมกับผู้ผลิตเรือนเวลาจากทั้ง 8 Maisons แบบเอ็กคลูซีฟเพื่อนำเสนอความประทับใจและประสบการณ์อันเลอค่าให้กับผู้คนที่เดินทางมายัง TimeVallée Bangkok King Power Rangnam

​ตัวอย่าง เช่น การจัดคลาสสอนถอดและประกอบชิ้นส่วนของเรือนเวลาโดยผู้เชี่ยวชาญของ Maison นั้นๆ ซึ่งจะจัดขึ้นแบบเอ็กคลูซีฟให้เฉพาะลูกค้าของ TimeVallée โดยเฉพาะอาทิ กิจกรรม IWC Master Class โดยการจัดกิจกรรมเวิร์กช้อปแบบ Exclusive นี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะ TimeVallée ได้ถอดความสำเร็จมาจากประสบการณ์ และบทเรียนที่เกิดขึ้นกับสโตร์ของพวกเขาในประเทศจีน ทั้งยังเกิดขึ้นภายใต้สายสัมพันธ์อันดีและการทำงานที่ใกล้ชิดกับ Maison ผู้ผลิตเรือนเวลาคุณภาพสูงจากแบรนด์ต่างๆ

อย่างห้องที่ Forbes ได้เข้ามาเยือนระหว่างพูดคุยกับ Eddie และ Antares ผ่านบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ก็มีชื่อว่า "L'Atelier" ซึ่งก็จะเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของ TimeVallée Bangkok King Power Rangnam  ที่ถูกใช้สำหรับการจัดกิจกรรมเวิร์กช้อป และการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ แบบเอ็กคลูซีฟให้กับลูกค้าของพวกเขาโดยเฉพาะ

​จุดหมายปลายทางที่คนรักเรือนเวลาทุกช่วงวัย ทุกเพศและทุกความชื่นชอบจะหลงรักชนิดถอนตัวไม่ขึ้น

ขึ้นชื่อว่าเป็นสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแห่งแรกของประเทศไทยทั้งที มีหรือที่ TimeVallée จะทำให้คนรักเรือนเวลาต้องผิดหวัง?

​แน่นอนว่า TimeVallée Bangkok King Power Rangnam จะได้สิทธิ์ในการจำหน่ายเรือนเวลาของทั้ง 8 Maisons ชื่อดังอย่าง Baume & Mercier, Cartier, IWC Schaffhausen, Jaeger-LeCoultre, Panerai, Piaget, Roger Dubuis และ Vacheron Constantin โดยที่บางเรือนก็จะเป็นการวางจำหน่ายแบบเอ็กคลูซีฟที่มีขายเฉพาะสโตร์แห่งนี้ในประเทศไทยเท่านั้น!

​นับรวมถึงคอลเลกชันพิเศษที่เป็นสินค้ากลุ่ม Limited ของทั้ง 8 Maisons ที่ก็จะมีวางจำหน่ายใน TimeVallée Bangkok King Power Rangnam อีกด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่าง TimeVallée และผู้ผลิตเรือนเวลาชื่อดังที่ทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนาน

ที่สำคัญ ภายใน TimeVallée Bangkok King Power Rangnam แห่งนี้ พวกเขาจะมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกในหลากหลายกลุ่มราคาดังที่ Eddie ได้เล่าไปในตอนต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการ และความสนใจของลูกค้าที่มีอยู่อย่างมากมายในปัจจุบัน

Eddie เล่าว่า "TimeVallée มีกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างหลากหลายมาก หากแบ่งในเชิงกรอบอายุ เราจะมีกลุ่มลูกค้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มชัดๆ คือ ช่วงกลุ่มอายุ 25-45 ปี และกลุ่มอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป ซึ่งถ้าเรามองในเชิงมิติความรู้ ความคลั่งไคล้ที่ผู้บริโภคแต่ละคนมีต่อเรือนเวลาก็ค่อนข้างมีความปัจเจกแตกต่างหลากหลายกันออกไปอย่างมหาศาล

ดังนั้นสิ่งที่ TimeVallée เรายึดมั่นที่จะทำให้ได้คือ การให้บริการลูกค้าที่มีความหลายหลากเหล่านั้นให้ได้อย่างเหมาะสมและครบถ้วนทุกความต้องการภายใต้พื้นที่ 447 ตารางเมตรของบูทีกแห่งนี้ ทั้งการนำเสนอข้อมูลความรู้ของเรือนเวลาแต่ละเรือนให้ได้แบบถึงแก่นแท้ สินค้าที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายรวมไปถึงกลุ่มสินค้าที่เป็น Exclusive และ Limited คอลเล็กชัน โดยที่ในท้ายที่สุด ลูกค้าทุกคนจะสามารถเลือกเรือนเวลาที่ตรงกับความสนใจ ความต้องการ และความชื่นชอบของพวกเขาได้อย่างอิสระและไร้ซึ่งความกดดัน

สิ่งหนึ่งที่เรากล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยคือ แบรนด์ที่ TimeVallée Bangkok King Power Rangnam แห่งนี้นำเสนอ บางผลิตภัณฑ์ถือเป็นสินค้าเอ็กคลูซีฟที่คุณอาจจะไม่ได้เห็นในร้านค้าปลีกแห่งอื่นในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ และการที่เราเป็น Multi Brand Luxuray Watches Retail นี่เองจึงทำให้เราสามารถส่งต่อประสบการณ์แบบ Lifetime Value ให้กับลูกค้าของเราทุกคนได้

"ไม่ว่าในแต่ละช่วงเวลาหรือแต่ละจังหวะชีวิต ความชื่นชอบและความหลงใหลที่คุณมีต่อเรือนเวลาจะแปรผันเปลี่ยนไปอย่างไร แต่คุณก็สามารถกลับมาหาเรือนเวลาที่ใช่ในแต่ละโมเมนต์ของชีวิตตัวเองได้ที่ TimeVallée เสมอ"

ด้าน Antares กล่าวเสริมอย่างแยบคายไว้ว่า เขามอง "เวลา" เป็นสิ่งที่มีค่าเสมอ มีความยูนีกสูง ทั้งยังมีอยู่อย่างจำกัด เขาจึงมักย้ำเตือนผู้คนรอบตัวให้ดื่มด่ำทุกช่วงเวลาสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของทุกคนอย่างเต็มที่ ซึ่งการจะบันทึกหรือดื่มด่ำช่วงเวลาเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำคือการมีเรือนเวลาดีๆ สักเรือนเอาไว้บอกเวลา

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ TimeVallée เลือกนำเสนอเรือนเวลาที่หลากหลาย รวมไปถึงคอลเลกชันกลุ่ม Exclusive และ Limited หรือรุ่นหายาก เพื่อให้ทุกคนสามารถบันทึกช่วงเวลาของตัวเองได้แบบเที่ยงตรง


"สมมติว่า มีครอบครัวหนึ่งเดินทางมายัง TimeVallée Bangkok King Power Rangnam สมาชิกในครอบครัวนี้อาจจะมีความชื่นชอบ ความต้องการที่แตกต่างหลากหลาย แม่และลูกสาวอาจจะมองหาเรือนเวลาที่เป็นสินค้ากลุ่ม Exclusive ได้ที่ Maison ของ Cartier ซึ่งตั้งอยู่ใน TimeVallée แห่งนี้ ขณะที่พ่อหรือลูกชายที่เป็นแฟนของแบรนด์ Panerai ก็จะได้ใช้เวลาของพวกเขามองหาเรือนเวลาโมเดล Limited ของ Panerai ได้ที่นี่ไม่ต่างกัน"

ท้ายสุดนี้ Eddie ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ TimeVallée ยังได้ฝากถึงผู้อ่าน Forbes ที่เป็นกลุ่มคนรักเรือนเวลา ทั้งกลุ่มที่เป็นนักสะสมและนักลงทุน รวมไปถึงคนที่กำลังอยากเข้าสู่วงการไว้ว่า

"การก้าวเท้าเข้ามายังแวดวงเรือนเวลาสุดหรูนี้อาจจะเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ ทำให้หลายคนรู้สึกประหม่าในการเริ่มนับหนึ่ง แต่เชื่อผมเถอะว่า TimeVallée ให้สัญญาว่าเราจะทำให้ดีที่สุดทั้งด้าน Hardware (นาฬิกาที่มีให้เลือกซื้อ) และ Software (ประสบการณ์ภายในร้าน) เพื่อสรรค์สร้างประสบการณ์ที่สามารถเข้าถึงได้ให้ลูกค้าทุกท่าน ช่วยให้คุณได้รู้สึกสบายใจและใช้เวลาไปกับการเลือกเรือนเวลาที่ใช่ได้อย่างเต็มที่ที่สุดที่ TimeVallée Bangkok King Power Rangnam"

ร่วมสัมผัสอาณาจักรแห่งเรือนเวลาระดับเวิลด์คลาสและพบกับประสบการณ์การเลือกชมเรือนเวลา ที่คุณชื่นชอบแบบเอ็กคลูซีฟด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ที่ TimeVallée Bangkok King Power Rangnam ชั้น 2 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มได้ที่ www.timevallee.com หรือ Instagram: @timevallee