ตลอดระยะเวลายาวนานแห่งมิตรภาพความไว้วางใจ และการส่งต่อคุณค่าแห่งเวลาจากพันธมิตรทางธุรกิจ สู่การร่วมมือกันเพื่อยกระดับวัฒนธรรมการสะสมนาฬิกา
ความร่วมมือระหว่าง PMT The Hour Glass และ Patek Philippe ได้วางรากฐานมั่นคงในประเทศไทย เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของงานฝีมือที่มีเอกลักษณ์ ความประณีตและคุณค่าที่แสดงถึงวิถีของการสร้างสรรค์นาฬิกา ซึ่งอยู่เหนือกระแสนิยม
บทพิสูจน์แห่งความร่วมมืออันยั่งยืน ที่ก่อร่างขึ้นจากความเชื่อมั่นและความเคารพซึ่งกันและกัน ทั้ง PMT The Hour Glass และ Patek Philippe เดินทางเคียงข้างด้วยวิสัยทัศน์เดียวกันในการสืบสานศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาให้เป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลา แต่คือวัฒนธรรมที่บันทึกเรื่องราวที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
จาก Prima Times สู่ PMT The Hour Glass
เรื่องราวของความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่าง Patek Philippe และ Prima Times เริ่มต้นขึ้นในปี 1995 เมื่อคุณณรงค์ ธรรมาวรานุคุปต์ ได้รับเกียรติให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมเปิดสาขาแห่งแรกที่ เพนนินซูลา พลาซ่า ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่นำศิลปะแห่งเวลาจากเจนีวาสู่ของกรุงเทพฯ
ความร่วมมือครั้งนั้นไม่เพียงวางรากฐานให้กับตลาดนาฬิกาชั้นสูงในประเทศ แต่ยังปลูกฝังแนวคิดเรื่อง "การสะสมนาฬิกา" ให้เป็นมากกว่าการครอบครอง เข้าใจคุณค่าและเจตนารมณ์ของงานฝีมือ ต่อมาในปี 2005 เมื่อ Patek Philippe สยามพารากอน ถือกำเนิดขึ้นภายใต้การบริหารของ Prima Times ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ให้ขยายบทบาทในการส่งเสริมวัฒนธรรมการสะสมนาฬิกาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2008 จุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ Prima Times จับมือกับ The Hour Glass จากสิงคโปร์ ภายใต้การบริหารของตระกูล Tay ร่วมกันก่อตั้ง PMT The Hour Glass เพื่อยกระดับมาตรฐานการนำเสนอและประสบการณ์การเลือกชมนาฬิกาในประเทศไทยให้เท่าเทียมกับระดับสากล พร้อมส่งต่อคุณค่าของ "เวลา งานฝีมือ และความไว้วางใจ"
ปัจจุบัน คุณณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ ในฐานะผู้บริหารรุ่นที่สองของตระกูลธรรมาวรานุคุปต์ และกรรมการผู้จัดการของ PMT The Hour Glass ได้สืบสานพันธกิจด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งยกระดับวัฒนธรรมการสะสมนาฬิกาให้เติบโตอย่างมั่นคงและมีเอกลักษณ์ พร้อมสร้างประสบการณ์อันลึกซึ้งและน่าจดจำสำหรับผู้หลงใหลในศิลปะแห่งเวลา
"ความสำเร็จของ Patek Philippe ไม่ได้เกิดจากความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาเพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนคุณค่าที่ฝังลึกในจิตวิญญาณ การเป็นแบรนด์อิสระที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้สามารถมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์ โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งตามกระแสนิยม" คุณณรัณกล่าว
บทพิสูจน์แห่งความสัมพันธ์: จากไอคอนสยามสู่การเริ่มต้นบทใหม่
การเปิดตัวแฟล็กชิปบูติกของ Patek Philippe ที่ไอคอนสยามในปี 2018 ภายใต้การบริหารของ PMT The Hour Glass ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการนาฬิกาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยพื้นที่กว่า 220 ตารางเมตร พื้นที่แห่งนี้ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ถ่ายทอดจิตวิญญาณของแบรนด์ได้อย่างงดงาม พร้อมผสานความสง่างามแบบสวิสเข้ากับความอบอุ่นแบบไทยได้อย่างกลมกลืน ทำให้ผู้มาเยือนสัมผัสได้ถึงเจตจำนงอันแน่วแน่ในการสร้างประสบการณ์ที่มีความหมาย
ก้าวสู่ปี 2025 ความสัมพันธ์อันยาวนานกว่าสามทศวรรษ ระหว่าง PMT The Hour Glass และ Patek Philippe จะได้รับการเฉลิมฉลองผ่านการเปิดบูติกแห่งใหม่ที่สยามพารากอน การพัฒนาที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ Patek Philippe ที่มีต่อวงการนาฬิกาและนักสะสมนาฬิกาชาวไทยเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึงความร่วมมือและความไว้วางใจซึ่งสืบทอดต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 30 ปี
Legacy of Time: จากรุ่นสู่รุ่น
สิ่งที่ทำให้ Patek Philippe ยืนหยัดเหนือกาลเวลาไม่ได้อยู่เพียงในกลไกอันซับซ้อนหรือดีไซน์ที่สวยงาม แต่คือปรัชญาที่เป็นแก่นแท้ของแบรนด์ "You never actually own a Patek Philippe, you merely look after it for the next generation." คำกล่าวนี้ไม่ใช่เพียงสโลแกนทางการตลาด หากแต่เป็นแนวคิดที่สะท้อนจิตวิญญาณของครอบครัว Stern ที่ยึดมั่นในคุณภาพและความเป็นเลิศของงานฝีมือมายาวนานกว่า 180 ปี
สำหรับ Patek Philippe ภายใต้การบริหารของ Thierry Stern ประธานรุ่นที่สี่ แบรนด์ยังคงยึดมั่นในหลักการ นั่นคือ การผลิตและประกอบทุกชิ้นส่วนภายในฐานการผลิตของตนเอง ด้วยวิสัยทัศน์นี้ ทำให้ Patek Philippe มีอิสระในการสร้างสรรค์งานฝีมือ และควบคุมคุณภาพสูงสุด การดำเนินงานเช่นนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียด แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการส่งมอบผลงานที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณค่า ความประณีต และความหมายแก่ผู้ครอบครองในทุกยุคสมัย
PMT The Hour Glass สืบสานมรดกแห่งเวลา
ตลอดระยะเวลากว่าสามทศวรรษที่ผ่านมา PMT The Hour Glass และ Patek Philippe ได้ดำเนินตามปรัชญาเดียวกันอย่างแน่วแน่ บริษัทไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ส่งเสริมวัฒนธรรมนาฬิกาในประเทศไทย ด้วยวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าในทุกมิติ ไปจนถึงการถ่ายทอดเรื่องราวและคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในแต่ละผลงาน
ความมุ่งมั่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการสะสมที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่เพียงการครอบครองนาฬิกา หากแต่คือการเข้าใจและเคารพใน "เรื่องราวเบื้องหลัง" ของนาฬิกา Patek Philippe แต่ละเรือน ทั้งในด้านงานฝีมือ แรงบันดาลใจ และนวัตกรรมที่หลอมรวมกัน
สำหรับผู้หลงใหลในศิลปะแห่งเวลา ประสบการณ์เหล่านี้มอบสิ่งที่ล้ำค่ากว่าการเป็นเจ้าของ หากแต่คือการได้สัมผัสถึงคุณค่า เจตนารมณ์ และความตั้งใจที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น สายสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างและผู้สะสม ที่ทำให้นาฬิกาทุกเรือนมี "คุณค่า" อยู่เหนือกาลเวลา