TTB เผย คนไทยเป็นหนี้ส่วนบุคคลและบัตรเครดิตมากสุด พร้อมแนะ 4 วิธี 'พิชิตหนี้' เพื่อชีวิตการเงินที่ดีกว่าเดิม - Forbes Thailand

TTB เผย คนไทยเป็นหนี้ส่วนบุคคลและบัตรเครดิตมากสุด พร้อมแนะ 4 วิธี 'พิชิตหนี้' เพื่อชีวิตการเงินที่ดีกว่าเดิม

​หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนหนี้ต่อครัวเรือนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และถือเป็นปัญหาระดับประเทศที่ต้องได้รับการแก้ไข วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ ขอพาทุกคนไปสำรวจ 7 อันดับหนี้ของคนไทย พร้อมหาวิธี "พิชิตหนี้ " ให้ทุกคนสามารถจัดการและรับมือการเป็นหนี้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น


7 อันดับหนี้ของคนไทย มีหนี้อะไรบ้าง

คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าเป็นหนี้บ้านหรือรถ แต่ความจริงแล้ว จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยประจำปี 2565 กลับพบว่า คนไทยเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลมากที่สุด คิดเป็น 39% ของหนี้ทั้งหมดในครัวเรือนไทย รองลงมาคือหนี้บัตรเครดิต คิดเป็น 29% โดยจะสังเกตเห็นว่าหนี้ทั้งสองประเภทนี้มักเกิดจากค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคในชีวิตประจำวันมากกว่าการลงทุนหรือสร้างโอกาสทางการเงินในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีหนี้อันดับอื่น ๆ ของคนไทย ได้แก่

• สินเชื่อส่วนบุคคล 39%

• บัตรเครดิต 29%

• การเกษตร 12%

• รถยนต์ 10%

• บ้าน 4%

• ธุรกิจ 4%

• มอเตอร์ไซค์ 2%


วิธีการ 'พิชิตหนี้' เพื่อชีวิตการเงินที่ดีขึ้น

1. จดรายการหนี้สิน เริ่มต้นจากการระบุรายการหนี้ที่มีทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง และใส่รายละเอียดเกี่ยวกับหนี้แต่ละรายการ ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระต่อเดือน อัตราค่าปรับในกรณีชำระผิดนัด ยอดหนี้สุทธิ ระยะเวลาผ่อนชำระ และอื่น ๆ

2. วางแผนชำระหนี้อย่างเป็นระบบ โดยทั่วไปแล้ว ควรเริ่มชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เช่น หนี้สินเชื่อส่วนบุคคลหรือหนี้นอกระบบ และเมื่อจ่ายหนี้ก้อนนี้เรียบร้อยแล้ว ให้เริ่มชำระหนี้ก้อนเล็กที่สุดเป็นลำดับต่อมา จากนั้นนำเงินไปใช้ชำระหนี้ก้อนถัดไปที่เหลือน้อยที่สุด และให้ทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 18 - 24 เดือน จึงจะเริ่มเห็นสภาพการเงินที่ดีขึ้น

3. แบ่งเงินออมหรือเงินก้อนมาชำระหนี้ หากมีเงินออม อัตราดอกเบี้ยที่จะได้จากเงินออมมักอยู่ที่ราว 0.25% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยสินเชื่ออยู่ที่ 10-25% ดังนั้น การเลือกแบ่งเงินออมบางส่วนมาชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน จะช่วยลดภาระหนี้สินที่หนักให้เบาลงได้

4. การรวบหนี้ (Debt Consolidation) คือ การนำหนี้จากหลาย ๆ ที่ มารวมไว้เป็นก้อนเดียว ไม่ว่าจะเป็นหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อนำไปขอสินเชื่อกับธนาคาร โดยใช้ทรัพย์สินที่มี เช่น บ้าน หรือ รถยนต์ มาใช้ค้ำประกัน ซึ่งธนาคารจะนำเงินที่ได้ไปปิดหนี้ต่าง ๆ โดยที่ยังสามารถใช้บ้าน หรือ รถยนต์ ได้ตามปกติ ทำให้การรวบหนี้ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สามารถจ่ายหนี้ได้ง่ายขึ้น และช่วยลดภาระการจ่ายหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ๆ รวมทั้งยังเหมาะกับคนที่มีหนี้หลายก้อน เพราะการรวบหนี้จะช่วยให้จ่ายเงินค่างวดต่อเดือนลดลง และมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น

    ดังนั้น หากเรารู้จักวิธีการวางแผนอย่างเป็นระบบและใช้เครื่องมือบริหารการเงินที่ถูกต้อง การ "พิชิตหนี้" เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ก็จะสามารถเกิดขึ้นได้จริงและสำเร็จอย่างแน่นอน



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : รับเทรนด์สังคมสูงวัย! “ทิสโก้” เปิดตัวโปรแกรมออกแบบแผนการเงิน ช่วยลูกค้าวางแผนเกษียณ

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine