สภาอุตสาหกรรมฯ รับการที่บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนหั่นราคารถยนต์ไฟฟ้าลง อาจทำให้คนชะลอซื้อรถฯ เพราะหวังราคาถูกลง ส่วนยอดการผลิตรถยนต์ เดือนพ.ค. 67 ร่วงแรงที่ 16.19% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ 5 เดือนแรกยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ ลดลง 23.80% เผยเดือนหน้าเตรียมปรับประมาณการทั้งปี
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มฯ และโฆษกกลุ่มฯ ยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาจากที่มีข่าวการลดราคารถยนต์ไฟฟ้าลง มองว่ามีผลกระทบทำให้ลูกค้าบางราย ไม่ตัดสินใจซื้อทันที เพราะหวังว่า ในระยะต่อไปจะมีการลดราคาอีก แม้ว่าแบรนด์นี้จะไม่ลด แต่ค่ายรถอาจต้องปรับลดราคาในวันข้างหน้า
ขณะที่ กระแสข่าวการลดการผลิตมองว่า เป็นการปรับภาคการผลิตเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของค่ายรถยนต์ แม้จะมีการผลิตน้อยลง แต่ยังมีส่วนการบริการ และมีการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อส่งออกจากประเทศไทย
ทั้งนี้ ในเดือนหน้าทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อาจมีการปรับลดประมาณการต่างๆ ลง ส่วนหนึ่งเพราะหลายภาคส่วนมีการปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2567 ลง ขณะเดียวกันยังต้องติดตามผลของมาตรการรัฐบาล และการเบิกจ่ายภาครัฐที่จะเกิดขึ้นจริงว่ามีมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม ในเดือน พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา ยอดการผลิตรถยนต์ อยู่ที่ 126,161 คัน ลดลง 16.19% สาเหตุเพราะการผลิตรถกระบะขายในประเทศที่ลดลง ส่วนยอดขายภายในประเทศอยู่ที่ 49,871 คัน ลดลง 23.38% เป็นผลจากเศรษฐกิจที่เติบโตในอัตราที่ต่ำ และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่พร้อมเต็มที่ การผลิตเพื่อส่งออกอยู่ที่ 89,284 คัน เพิ่มขึ้น 3.39% ส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 865 คัน เพิ่มขึ้น 7,763.64% ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) อยู่ที่ 5,117 คัน ลดลง 30.94%
ขณะที่ช่วง 5 เดือนแรก (เดือน ม.ค. - พ.ค.) ของปี 2567 นี้ จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้มีจำนวน 644,951 คัน ลดลง 16.88% จากปี 2566 ส่วนยอดผลิตเพื่อส่งออกได้ 434,416 คัน ลดลง 2.54% จากปี 2566 ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ อยู่ที่ 260,365 คัน ลดลง 23.80% จากปี 2566 ส่วนมูลค่าส่งออกรถยนต์มีมูลค่า 401,637.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.23% จากปีก่อน
ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าช่วง 5 เดือนแรก (เดือน ม.ค. - พ.ค.) ของปี 2567 ทั้งนี้ มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 43,921 คัน เพิ่มขึ้น 31.64% ขณะที่ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 59,317 คัน เพิ่มขึ้น 53.48% จากปีก่อน
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ทำตลาดยากขึ้น-ขาดทุนสะสม สาเหตุ Subaru-Suzuki หยุดผลิตในไทย
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine