สมาคมประกันวินาศภัยไทยมองธุรกิจประกันยังท้าทายเพราะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้า แต่แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัย ปี 2568 ยังคาดว่าจะเติบโต 1.5 - 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมอยู่ในช่วงประมาณ 291,000 - 294,000 ล้านบาท
ดร.สมพร สืบถวิลกุลนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยยังท้าทาย สะท้อนจากการประเมินของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไตรมาสแรก ของปี 2568 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ขยายตัว 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคการส่งออกสินค้าและบริการซึ่งขยายตัว 13.8% และการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัว 26.3%
ส่วนการบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวลง โดยขยายตัวเพียง 2.6% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนหดตัว 0.9% สะท้อนถึงแรงกดดันในภาคเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งนี้ สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2568 เหลืออยู่ในช่วง 1.3% ถึง 2.3% จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจประกันวินาศภัยในไตรมาสแรกของปี 2568 (มกราคม–มีนาคม) มีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 75,269 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 3.81% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงในแต่ละประเภท ดังนี้
- ประกันภัยรถยนต์ มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง จำนวน 42,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.36%
- ประกันอัคคีภัย มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง จำนวน 2,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.83%
- ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง มีเบี้ยประกันภัยรับจำนวน 1,668 ล้านบาท ลดลง 4.91%
- ประกันภัยเบ็ดเตล็ด มีเบี้ยประกันภัยรับจำนวน 29,088 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.01%
ภาพรวมดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจประกันวินาศภัยไทย โดยเฉพาะในกลุ่มประกันภัยเบ็ดเตล็ดและประกันอัคคีภัยที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่น สะท้อนความต้องการความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นในบางกลุ่มความเสี่ยง แม้ประกันภัยทางทะเลและขนส่งจะมีการหดตัวเล็กน้อย สะท้อนถึงภาวะชะลอตัวในบางภาคส่วนของการค้าระหว่างประเทศ

แต่ภาพรวมของธุรกิจยังคงเติบโตในทิศทางบวก และชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดโดยรวม หากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสถัด ๆ ไป ก็มีแนวโน้มสูงที่อุตสาหกรรมประกันวินาศภัยในปี 2568 จะสามารถเติบโตได้ใกล้เคียงกับระดับที่คาดการณ์ไว้ทั้งปี
ทั้งนี้จากข้อมูลเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 (มกราคม - มีนาคม) ซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 75,269 ล้านบาท มีสัดส่วนเบี้ยประกันภัย แบ่งเป็น
- ประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) คิดเป็นสัดส่วน 55.8% ของเบี้ยประกันภัยรวม หรือ 42,004 ล้านบาท
- ประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-Motor Insurance) คิดเป็นสัดส่วน 44.2% หรือ 33,265 ล้านบาท
ในส่วนของประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ยังสะท้อนถึงการตื่นตัวในด้านการบริหารความเสี่ยงของภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในหมวดหมู่ประกันอัคคีภัย ประกันภัยเบ็ดเตล็ด และประกันภัยสุขภาพ
แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัย ปี 2568 ทั้งปี (โดยบริษัท ไทยอินชัวรันส์ รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) คาดว่าธุรกิจประกันวินาศภัยจะเติบโตในอัตรา 1.5% ถึง 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมอยู่ในช่วงประมาณ 291,000 - 294,000 ล้านบาท

การเติบโตดังกล่าวสะท้อนถึงความท้าทายในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงการปรับตัวของภาคธุรกิจประกันภัยต่อสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านความเสี่ยงใหม่ เทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภค
ทั้งนี้ ธุรกิจประกันวินาศภัยยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัว การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว การติดตามข้อมูลเชิงลึกอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการวางกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับบริบทใหม่ จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจประกันวินาศภัยให้เติบโตอย่างมั่นคงในปี 2568 และในอนาคตต่อไป
ภาพ: สมาคมประกันวินาศภัยไทย
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ชับบ์ ไลฟ์ฯ รุกธุรกิจประกันชีวิตเจาะกลุ่ม ‘เศรษฐี - Upper Mass’ เล็งขายผ่านออนไลน์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine