SMEs ต้องรอด! บสย.เปิดโครงการ SMEs PICK-UP ช่วยวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าถึงสินเชื่อสร้างอาชีพ - Forbes Thailand

SMEs ต้องรอด! บสย.เปิดโครงการ SMEs PICK-UP ช่วยวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าถึงสินเชื่อสร้างอาชีพ

บสย. กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วย SMEs 3.2 ล้านรายให้เข้าถึงสินเชื่อสร้างอาชีพ โดยเปิดโครงการ ‘บสย. SMEs PICK-UP’ ค้ำสินเชื่อ รถกระบะ ดึงลิซซิ่งปล่อยกู้ พร้อมจัดสรรวงเงินค้ำสินเชื่อธุรกิจรวมกว่าแสนล้านบาท


    สิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่าสถานการณ์ SMEs ในปีนี้ยังเผชิญความยากลำบากโดยเฉพาะ SMEs ที่ต้องการสินเชื่อ โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระบุถึงสินเชื่อที่หดตัวลงในปี 2567 สำหรับสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์หดตัว 0.4% ลดลงสูงสุดในรอบ 15 ปี โดยสินเชื่อธุรกิจ SMEs หดตัวลง เช่นเดียวกับสินเชื่อเช่าซื้อที่ลดลง 9.9% และการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่เกิน 3% ส่งผลต่อภาคธุรกิจทั้งระบบ

    แผนงานของ บสย. ในปีนี้จึงมุ่งเน้นแผนความช่วยเหลือเพิ่มโอกาส SMEs ให้เข้าถึงสินเชื่อและแหล่งทุนมากขึ้น ผ่านแผนพัฒนาการค้ำประกันสินเชื่อในประเทศไทยให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งด้านการเสริมสร้างกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ การบริหารจัดการความเสี่ยง และเพิ่มศักยภาพการสนับสนุนทางการเงินให้ SMEs ด้วยโครงการค้ำประกันสินเชื่อรูปแบบใหม่เพื่อช่วย SMEs จำนวนกว่า 3.2 ล้านรายเข้าถึงสินเชื่อ



    นอกจากนี้ยังจะมีการจัดสรรวงเงินค้ำประกัน 110,000 ล้านบาทสนับสนุน SMEs อย่างเต็มที่ผ่านโครงการต่างๆ ในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 142,000 ล้านบาท ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 165,000 ราย รักษาการจ้างงาน 940,000 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ 454,300 ล้านบาท ประกอบด้วย

    1. โครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ บสย. SMEs PICK-UP สำหรับผู้ประกอบการ ที่ต้องการซื้อกระบะใหม่ เพื่อใช้ธุรกิจ วงเงิน 10,000 ล้านบาท ตั้งเป้าผู้ได้สินเชื่อ 12,500 ราย

    “โครงการนี้นอกจากจะช่วยผู้ประกอบการได้ซื้อรถกระบะใหม่ เพื่อการประกอบอาชีพแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ที่กำลังซบเซาอยู่ในขณะนี้ ให้กลับมาฟื้นตัวได้ ผ่านกลไกภาครัฐและการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่กล้าปล่อยสินเชื่อมากขึ้น สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกว่า 41,300 ล้านบาท และสามารถรักษาการจ้างงานได้ถึง 37,500 ตำแหน่ง” สิทธิกร กล่าว

    ภายใต้กรอบการสนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับผู้ประกอบการ ภายใต้โครงการ บสย. SMEs PICK-UP จะครอบคลุมการค้ำประกันสินสินเชื่อเช่าซื้อผู้ที่ขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินที่มีการดำเนินธุรกิจธุรกรรมเช่าซื้อรถ ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน), บริษัทลิสซิ่งกสิกรไทย จำกัด และบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลิส (กรุงศรี ออโต้)



    2. โครงการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย/กลุ่มเปราะบาง ผู้ที่เริ่มทำธุรกิจ และอาชีพอิสระอื่นๆ อาทิ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 11 บสย. SMEs สร้างโอกาส ร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ วงเงิน 2,000 ล้านบาท ค้ำประกันต่อรายสูงสุด 20,000 บาท, โครงการ บสย. SMEs มีทุน สำหรับผู้ประกอบการอาชีพอิสระระ วงเงิน 2,000 ล้านบาท ค้ำประกันต่อรายสูงสุด 50,000 บาท, โครงการ PGS 11 บสย. SMEs Small Biz และโครงการ PGS 11 บสย. SMEs Smart Gen ให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่มีศักยภาพ เป็นต้น

    3. โครงการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็ก ทั้งประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 2 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปี และอัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2% ต่อปี ผู้ประกอบการ SMEs รับภาระอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมค้ำประกันเริ่มต้น 6% ต่อปี

    สำหรับผลดำเนินงานปี 2567 บสย. มียอดค้ำประกันสินเชื่อ 53,738 ล้านบาท ช่วย SMEs ได้สินเชื่อ 88,472 ราย เป็นผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SMEs) 90% ค้ำประกันเฉลี่ย 100,000 บาทต่อราย อีก 10% เป็น SMEs ทั่วไป ค้ำประกันเฉลี่ย 4.96 ล้านบาทต่อราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน 58,986 ล้านบาท รักษาการจ้างงาน 487,253 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 220,462 ล้านบาท ภายใต้ 3 โครงการหลัก ได้แก่

    3.1) โครงการตามมาตรการรัฐ วงเงิน 33,502 ล้านบาท คิดเป็น 62% ของยอดค้ำประกัน ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 83,012 ราย

    3.2) โครงการค้ำประกันสินเชื่อ โดย บสย. ดำเนินการเอง วงเงิน 10,343 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของยอดค้ำประกัน ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 5,184 ราย

    3.3) โครงการ พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู ระยะที่ 2 (โครงการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยถูก) วงเงิน 9,893 ล้านบาท คิดเป็น 18% ของยอดค้ำประกัน ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 1,543 ราย



    ในด้านมาตรการแก้หนี้ลูกหนี้บสย.ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 สามารถช่วยลูกหนี้ได้แล้ว 18,489 ราย (เฉพาะปี 2567 จำนวน 4,037 ราย) คิดเป็นมูลหนี้รวมกว่า 11,872 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 33 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบสย. โดยในปี 2568 ได้เปิดมาตรการใหม่ช่วย SMEs กลุ่มเปราะบางที่มียอดหนี้เงินต้นไม่เกิน 2 แสนบาท อัตราดอกเบี้ย 0% ชำระครั้งแรกเพียง 500 บาท ผ่อนสูงสุด 80 เดือน ตัดเงินต้นทั้งจำนวน ค่างวดขั้นต่ำเพียง 500-2,500 บาท และสามารถปลดหนี้ ลดต้น 30% เมื่อจ่ายต่อเนื่อง 6 งวด ตั้งเป้าปรับโครงสร้างหนี้ผ่านมาตรการ บสย. พร้อมช่วย ไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท

    สิทธิกร กล่าวว่า ตลอดปี 2568 บสย. ยังเดินหน้ายกระดับองค์กร 4 มิติ เพื่อเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ก้าวสู่องค์กรที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่ม ตามพันธกิจและวิสัยทัศน์ของ บสย. “SMEs’ Gateway” ศูนย์กลางเชื่อมโยงเงินทุนและโอกาสให้แก่ SMEs เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน


ภาพ: บสย.


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ถ้าผ่อนได้ คนไทยก็ผ่อน! กรุงศรี คอนซูมเมอร์เผย 90% ของแผนผ่อนเป็นดอก 0% ช่วยดันยอดใช้จ่ายฯ คาดปี 68 โต 10%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine