"เขตขัณฑ์ ณีศะนันท์" เสริมแกร่ง UOBAM ครอบคลุมทุกโจทย์การลงทุน - Forbes Thailand

"เขตขัณฑ์ ณีศะนันท์" เสริมแกร่ง UOBAM ครอบคลุมทุกโจทย์การลงทุน

    ท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนที่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน บวกกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำหรับบริษัทชั้นนำในด้านการจัดการ และการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน แต่ด้วยประสบการณ์และชื่อเสียงที่สั่งสมมากว่า 30 ปี ทำให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ("บลจ.ยูโอบี") ยังคงยืนหนึ่งในด้านความน่าเชื่อถือและความมั่นคง ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ล่าสุด ณ เดือนกันยายน 2567 ที่ 275,657 ล้านบาท เติบโตสูงขึ้นมากกว่า 11% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566*

    ถ้าถามว่าอะไรคือกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้ บลจ.ยูโอบี เป็นที่ยอมรับและไว้ใจของลูกค้า Forbes ชวนไปเจาะลึกเพื่อหาคำตอบผ่านมุมมองที่น่าสนใจของคุณเขตขัณฑ์ ณีศะนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจลูกค้าสถาบันและธนบดีธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ("บลจ.ยูโอบี")

UOBAM ยืนอยู่บนรากฐานที่แข็งแรง

คุณเขตขัณฑ์ ฉายภาพถึงจุดเริ่มต้นของ บลจ.ยูโอบี อย่างน่าสนใจว่า กลุ่มธุรกิจจัดการกองทุนยูโอบีเป็นบริษัทในเครือของธนาคารยูโอบี ประเทศสิงคโปร์ และเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำระดับภูมิภาค มีสำนักงานใหญ่ อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมสำนักงานท้องถิ่นในประเทศบรูไน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม โดยเครือข่ายของกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุนยูโอบี รวมถึงกิจการร่วมค้า Ping An Fund Management Company Limited ในจีน นอกจากนี้เรายังเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ Wellington Management Singapore ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการลงทุนระดับโลก

    ที่น่าสนใจคือ บลจ.ยูโอบี ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทแรกที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ประเภทการจัดการกองทุนครบวงจร ทั้งกองทุนรวมกองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 32 ปี จุดแข็งสำคัญที่ทำให้ บลจ.ยูโอบี มีความน่าเชื่อถือและมั่นคงสูง คือการมี UOB Asset Management Singapore เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วน 99.99% และมีการกำกับดูแลจากกลุ่มธุรกิจยูโอบี ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสากลจาก S&P Global ที่ AA- ทำให้นอกเหนือจากการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานก.ล.ต.แล้ว บลจ. ยูโอบี ยังต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ของ Monetary Authority of Singapore หรือเกณฑ์ใดที่เข้มงวดกว่าในการกำกับดูแลกิจการทั้งหมดนี้ล้วนทำให้ บลจ.ยูโอบี มีมาตรฐานการดำเนินงาน รวมถึงการควบคุมความเสี่ยงในระดับสากลอย่างแท้จริง

​คุณเขตขัณฑ์ ณีศะนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจลูกค้าสถาบันและธนบดีธนกิจ 
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ("บลจ.ยูโอบี")

​มุ่งมั่นสู่ผู้นำด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน

    คุณเขตขัณฑ์ ยังกล่าวด้วยว่า ด้วยความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศด้านการลงทุน และมีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน โดยเมื่อต้นปี 2563 กลุ่มธุรกิจจัดการกองทุนยูโอบี และ บลจ.ยูโอบี ได้ร่วมลงนามในหลักการสนับสนุนการลงทุนอย่างรับผิดชอบร่วมกับหลักการสหประชาชาติ (UNPRI: Principles for Responsible Investment) ซึ่งนับว่า บลจ.ยูโอบี เป็นผู้นำที่ริเริ่มแนวคิด ESG ในมิติของการลงทุนที่ได้ลงนามในหลักการสนับสนุนการลงทุนอย่างรับผิดชอบ

    โดยนำปัจจัยด้าน ESG มาผนวกในการวิเคราะห์และเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการลงทุน (ESG Integration) และการมีส่วนร่วมกับบริษัทที่ลงทุน (Engagement) ในประเด็นต่างๆ เราเชื่อมั่นว่า ESG จะช่วยเสริมกระบวนการลงทุนให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด พร้อมช่วยลดความเสี่ยงด้านต่างๆ ในระดับบริษัทที่ลงทุนเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจได้ในระยะยาว" คุณเขตขัณฑ์บอกเล่าถึงเส้นทางสู่ความยั่งยืน

    นอกจากนี้ บลจ.ยูโอบี ยังได้ประกาศรับการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลการลงทุน (Investment Governance Code: I Code) ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา บลจ.ยูโอบี ได้รับรางวัลด้าน ESG ถึง 3 รางวัล จากสถาบันทั้งในและต่างประเทศ จาก SET Award, Citywire และ Asia Asset Management สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในการผลักดันนโยบาย ESG ในอุตสาหกรรมกองทุน นอกจากนี้ บลจ.ยูโอบี ยังได้รับรางวัล Best Multi-Asset Manager จาก Asia Asset Management เมื่อต้นปี 2567 ตอกย้ำความเป็นมืออาชีพในการบริหารกองทุน

​โชว์ผลงานบริหารกองทุนส่วนบุคคลแบบท็อปฟอร์ม

    มาถึงในส่วนธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุน ที่สามารถกำหนดรูปแบบการลงทุนและเงื่อนไขการลงทุนให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ และความต้องการเฉพาะได้ ที่ผ่านมาแม้สถานการณ์การลงทุนจะทวีความซับซ้อน แต่ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลของ บลจ.ยูโอบี มีการเติบโตในอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ ที่ 57,913 ล้านบาท*

    "ด้วยประสบการณ์การลงทุนเฉลี่ยกว่า 20 ปี ของทีมผู้จัดการกองทุนที่ผ่านวัฏจักรเศรษฐกิจมาหลายหลายรูปแบบ รวมถึงความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการบริหารการลงทุนทั้งในตราสารทุนและตราสารหนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายใต้กรอบการลงทุน และนโยบายการลงทุน และสร้างคุณค่าในการบริหารเงินกองทุนทั้งในด้านผลตอบแทนและด้านที่ไม่ใช่ผลตอบแทน รวมถึงการพัฒนางานด้านการบริการและระบบสนับสนุน ทำให้ บลจ.ยูโอบี ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และยังมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นย้อนหลัง 5 ปี ที่ 19% สูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมโดยรวม"

​    มาถึงวันนี้ ถ้าถามว่าอะไรคือ Key Success ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล ของ บลจ.ยูโอบี คุณเขตขัณฑ์มองว่า ปัจจัยหลักมาจากความเชื่อมั่นของกลุ่มลูกค้าสถาบัน เช่น กองทุนสวัสดิการรัฐ สหกรณ์ออมทรัพย์ สถาบันการศึกษา บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันภัยเป็นต้น โดยในปี 2567 บลจ.ยูโอบี ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้านิติบุคคลและบริษัทต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก บวกกับกลยุทธ์ที่มาถูกทางของ บลจ.ยูโอบี

    "กลยุทธ์ที่ บลจ.ยูโอบี ให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างต่อเนื่องคือ การบรรลุวัตถุประสงค์การลงทุนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การลงทุนในแต่ละภาวะตลาดได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละประเภทมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังต่อยอดศักยภาพภายใต้เครือข่ายของกลุ่มธุรกิจยูโอบีที่ครอบคลุมที่สุดในอาเซียน ช่วยให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบองค์รวม ทุกมิติด้านการเงินที่ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การจัดการลงทุน (Beyond Investment)

    "บลจ.ยูโอบี อยู่ระหว่างการพิจารณานำเอาแนวคิด Artificial Intelligence AI มาใช้ในกระบวนการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและเป็นการต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมกองทุนไทยให้มีความยั่งยืน และการนำเอาปัจจัย ESG มาเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ที่ช่วยให้ผู้จัดการกองทุนสามารถคัดกรองตราสารที่จะลงทุนให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพสอดคล้องกับความเสี่ยงที่ลูกค้าสามารถรับได้ ท่ามกลางสภาวะความไม่แน่นอนและปัจจัยที่มีความซับซ้อน" คุณเขตขัณฑ์ กล่าวทิ้งท้าย