เปิดโอกาสการลงทุนครั้งใหม่ กับ “Foreign Structured Note” จากภัทร - Forbes Thailand

เปิดโอกาสการลงทุนครั้งใหม่ กับ “Foreign Structured Note” จากภัทร

  จากปรัชญาของ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ที่เน้นส่งเสริมกลยุทธ์การลงทุนแบบ Asset Allocation หรือการจัดสรรการลงทุนให้มีความหลากหลายไม่เฉพาะการกระจายประเภทสินทรัพย์ แต่รวมถึงการกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคต่างๆ ทำให้ภัทรไม่เคยหยุดนิ่งที่จะคัดสรรผลิตภัณฑ์ ทางการลงทุนรูปแบบใหม่ๆเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากโอกาสทางการลงทุนที่ไร้ข้อจำกัดอย่างแท้จริงล่าสุด “ภัทร” ก้าวไปอีกขั้นกับการเปิดตัว “Foreign Structured Note” ที่พร้อมสร้างโอกาสการลงทุนครั้งใหม่ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครครั้งแรกในไทย นภดล นิมมานพิภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายค้าหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บล.ภัทร เผยว่า เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่กำลังมองหารูปแบบการลงทุนใหม่ๆที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นเหมาะสมกับสภาพการลงทุนในปัจจุบันที่ผลตอบแทนจากตราสารหนี้พื้นฐานที่มีอยู่ในตลาดไม่น่าดึงดูดอีกต่อไป ขณะที่โอกาสใน การลงทุนในต่างประเทศกลายเป็นตลาดที่หอมหวานสำหรับนักลงทุนไทยที่เริ่มมีการเข้าไปลงทุนในตลาดต่างประเทศโดยตรงมากขึ้น เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยในฐานะฝ่ายกำกับดูแลการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนก็ได้ผ่อนคลายเกณฑ์การนำเงินลงทุนออกไปต่างประเทศมาเป็นระยะๆ “ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีนักลงทุนไทยหันไปลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ หรือกองทุน FIF ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้น แต่หากเปรียบเทียบเป็นสัดส่วนกองทุน FIF ของไทยก็ยังมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศที่มีอยู่ในโลก ซึ่งในส่วนของภัทรเองนอกจากบริการ Global Investment Service (GIS) ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนในต่างประเทศโดยตรง และกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ที่จัดตั้งโดย บลจ.ภัทรแล้วในเดือน ก.ค. นี้ ภัทรจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนตัวใหม่นั่นคือ “Foreign Structured Note” เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการลงทุนในตลาดต่างประเทศ ด้วยรูปแบบผลิตภัณฑ์การลงทุนนี้ เงินลงทุนของนักลงทุนยังอยู่ในประเทศและลงทุนในรูปของสกุลเงินบาทแต่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ต่างประเทศและอัตราการแลกเปลี่ยนเหมือนกับนำเงินไปลงทุนตรงในต่างประเทศ” ทั้งนี้การลงทุนใน “Foreign Structured Note” จะเหมือนกับการลงทุนใน Local Structured Note หรือ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงของไทย ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่ผสมผสานระหว่างหุ้นกู้กับตราสารอนุพันธ์มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาหลักทรัพย์อ้างอิงไทยที่กำหนด ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไป จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั้งในตลาดต่างประเทศ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย เห็นได้จากมูลค่าการเติบโตของเงินลงทุนในตลาด Structured Notes ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2018 ตลาด Structured Notes ในประเทศไทยมีมูลค่าการเสนอขายสูงถึง 61,878 ล้านบาท นภดล ยังเสริมด้วยว่าสำหรับ “Foreign Structured Note” ที่ภัทรนำเสนอประกอบด้วย Equity Linked Note (ELN) หรือหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่มีลักษณะพื้นฐานเหมือนกับหุ้นกู้ทั่วๆ ไปเพียงแต่การจ่ายผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับราคาของหุ้นอ้างอิง ซึ่งเป็นหุ้นต่างประเทศในตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญของโลก อาทิ ตลาดในสหรัฐอเมริกา ฮ่องกงและสิงค์โปร์ กล่าวคือ เมื่อครบกำหนดอายุถ้าราคาหุ้นอ้างอิงปิดสูงกว่าหรือเท่ากับราคาที่ตกลงกันไว้ (ราคาใช้สิทธิ) ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสดเท่ากับมูลค่าหน้าตั๋ว แต่ถ้าราคาหุ้นอ้างอิงปิดต่ำกว่าราคาที่ตกลงกันไว้ผู้ลงทุนจะได้รับเป็นเงินสดเท่ากับมูลค่าหุ้นที่ราคาใช้สิทธิซึ่งต่ำกว่ามูลค่าหน้าตั๋ว นอกจากนี้ยังมี Autocallable Fixed Coupon Note เป็นหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่มีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนและชำระคืนเงินต้นที่อ้างอิงกับราคาหุ้น และระยะเวลาการลงทุนที่นักลงทุนกำหนดโดยนักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยตามรอบและมีโอกาสได้รับคืนเงินต้นก่อนวันครบกำหนดอีกด้วย ขึ้นอยู่กับราคาปิดของหุ้นอ้างอิงในวันที่กำหนดให้เป็นวันประเมินราคา (observation date) โดยมีการกำหนดระดับราคา Knock-in และระดับราคา Knock-out เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดเงื่อนไขในการให้ผลตอบแทนของนักลงทุนตลอดระยะเวลาการลงทุน “ผลลัพธ์จากการลงทุนดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ 3 รูปแบบ สถานการณ์แรก คือ หากภาวะที่ราคาปิดของหุ้นอ้างอิงไม่เคยต่ำกว่าราคา Knock-in และไม่เคยสูงกว่าราคา Knock-out ตลอดระยะเวลาการลงทุนในกรณีนี้ นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนตามรอบและรับเงินต้นคืนในวันครบกำหนดอายุ สถานการณ์ที่สอง คือ ราคาปิดของหุ้นอ้างอิงสูงกว่าหรือเท่ากับราคา Knock-out ในวันประเมินราคา Knock-out (Knock-out observation date) ในกรณีนี้นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนและเงินต้นคืนก่อนวันครบกำหนดอายุ สถานการณ์สุดท้าย คือ ราคาปิดของหุ้นอ้างอิงลงไปต่ำกว่าระดับราคา Knock-in ในวันประเมินราคา Knock-in (Knock-in observation date) ในกรณีนี้ หากราคาปิดของหุ้นอ้างอิงสูงกว่าหรือเท่ากับราคาใช้สิทธิในวันกำหนดค่าหลักทรัพย์นักลงทุนจะยังได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนพร้อมผลตอบแทนตามรอบ แต่หากราคาปิดของหุ้นอ้างอิงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิในวันกำหนดค่าหลักทรัพย์นักลงทุนจะได้รับมอบเป็นเงินสดเสมือนซื้อหุ้นอ้างอิงที่ราคาใช้สิทธิพร้อมผลตอบแทนตามรอบ”
นภดล นิมมานพิภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายค้าหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
นอกจากนี้ นภดล ยังเผยถึงอีกหนึ่งความพิเศษของ “Foreign Structured Note” จากภัทรที่โดดเด่นไม่เหมือนใครว่าไม่เพียงภัทรจะมีนโยบายนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่หลากหลายแบบ Open Architecture ทำให้นักวิเคราะห์สามารถวิเคราะห์และคัดเลือกกองทุนเพื่อนำเสนอแก่ลูกค้าได้อย่างเป็นกลาง และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด แต่ด้วยรูปแบบผลิตภัณฑ์การลงทุนตัวใหม่ล่าสุด ภัทรยังถือเป็นเจ้าแรกในตลาดที่เป็นผู้ผลิตและออกจำหน่าย Foreign Structured Note โดยตรง ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกออกแบบการลงทุนและซื้อขาย Foreign Structured Note ได้ทันที อย่างไรก็ตาม นภดล ทิ้งท้ายว่า Foreign Structured Note ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยนำมาใช้กระจายความเสี่ยงตามหลักการการจัดสรรการลงทุน นอกเหนือไปจากตราสารทุน เงินสด หรือการลงทุนทางเลือกอื่นๆ แต่ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับมุมมองการลงทุนและความเสี่ยงที่รับได้ในแต่ละบุคคล สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-305-9449