ปตท. เผยไตรมาส 1 ปี 67 กำไรสุทธิ 28,968 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4%YoY แต่เทียบสิ้นปีก่อนลดลง 11% รับพิษบาทอ่อน - Forbes Thailand

ปตท. เผยไตรมาส 1 ปี 67 กำไรสุทธิ 28,968 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4%YoY แต่เทียบสิ้นปีก่อนลดลง 11% รับพิษบาทอ่อน

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย เปิดเผยว่า ไตรมาส 1/67 มีกำไรสุทธิ 28,968 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4%YoY ส่วนหนึ่งเพราะ EBITDA (กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้) ที่ 118,717 ล้านบาท ยังเพิ่มขึ้น 14.1%YoY โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น แม้จะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ รวมถึงต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น


    นอกจากนี้ยังมีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นกำไรประมาณ 4,400 ล้านบาท โดยหลักจากกำไรจากการขาย เงินลงทุนใน Alvogen Malta (Out-licensing) Holding Ltd. (AMOLH) ของบริษัท ปตท. โกลบอล แมนเนจเม้นท์ จำกัด (PTTGM) จำนวนประมาณ 4,500 ล้านบาท (ไตรมาส 1/66 มีผลขาดทุนประมาณ 100 ล้านบาท)

    ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/67 กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น มีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจาก กำไรสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น (3,000 ล้านบาท) ต่างจากไตรมาส 1/66 ที่ขาดทุน 6,000 ล้านบาท แต่กำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ลดลงมาสู่ 7.9 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จาก Q1/66 อยู่ที่ 8.5 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล

    ส่วนกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ มีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ NGV มีผลขาดทุนลดลง เพราะต้นทุนค่าเนื้อก๊าซฯ ที่ปรับลดลงตามราคา Pool Gas ประกอบกับราคาขายเพิ่มขึ้น และปริมาณขายลดลง รวมทั้งธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากต้นทุนขายลดลงตามราคาก๊าซฯ ในอ่าว รวมทั้งปริมาณและราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ขณะที่ ธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ มีผลการดำเนินงานลดลง จากการนำค่าปรับจากปริมาณที่ผู้ผลิตส่งได้ไ้ม่ถึงปริมาณตามสัญญา (Shortfall) แหล่งอ่าวไทยจำนวน 4,300 ล้านบาท มาคำนวณเป็นส่วนลดราคา Pool Gas (ซึ่งในไตรมาส 1/67 ยังไม่สะท้อนผลกระทบจากนโยบาย Single Pool เพราะรัฐยังพิจารณาอยู่)

    กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศปรับลดลง เนื่องจากใน 1Q2567 มีผลขาดทุนจากการ ป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามสภาวะตลาด

    กลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมีผลการดำเนินงานลดลง จากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลดลง

    อย่างไรก็ตาม หากเทียบผลประกอบการไตรมาส 1/67 กับสิ้นปีก่อน พบว่า กำไรสุทธิโตลดลง 11.6% แม้ว่า EBITDA ปรับเพิ่มขึ้น 35% แต่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ! อาจกระทบธุรกิจบริการ Outsource ‘เอส เอ็น เซอร์วิส โซลูชั่นฯ’ รับต้นทุนอาจสูงขึ้น แต่คาดว่ารายได้ปี 67 ยังโต 30%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

TAGGED ON