โลตัส เตรียมออกหุ้นกู้จำกัด 4 ชุด คาดเปิดขายเมษายนนี้ - Forbes Thailand

โลตัส เตรียมออกหุ้นกู้จำกัด 4 ชุด คาดเปิดขายเมษายนนี้

โลตัส เตรียมเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้นกู้จำกัด 4 ชุด คาดจะเสนอขายช่วงเดือนเมษายน 2567 ชูความน่าเชื่อถือระดับ A+ โดยแต่งตั้งสถาบันทางการเงินชั้นนำ 6 แห่ง และ TrueMonet Wallet เป็นผู้จัดการการจำหน่าย พร้อมเผยการคาดการณ์การควบรวมกับซีพี แอ็กซ์ตร้าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ของปีนี้ เสริมแกร่งการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำขนาดใหญ่ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ โลตัส (Lotus’s) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย

    ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 5 เดือน 25 วัน

    ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 5 เดือน 25 วัน

    ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 5 เดือน 25 วัน

    และ ชุดที่ 4 อายุ 7 ปี 5 เดือน 25 วัน

    โดยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยในภายหลัง ทั้งนี้ จะเสนอขายให้กับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป ผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 6 แห่ง ประกอบด้วย

    1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

    2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

    3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

    4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน),

    5. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

    6. บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จํากัด (มหาชน)

    รวมถึงการเสนอขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet คาดว่าจะเสนอขายในเดือนเมษายน 2567

    หุ้นกู้ทั้ง 4 ชุดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ระดับ “A+” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “บวก” (Positive) สะท้อนสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกแบบ omni-channel ที่มีช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและหลายหลาย ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

    ทริสเรทติ้ง ยังมองว่าธุรกรรมการควบบริษัทระหว่าง โลตัส และบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ไม่ส่งผลกระทบต่อการประเมินสถานะอันดับเครดิตและสถานะทางการเงินของกลุ่มบริษัท โดยการผนึกกำลังของทั้งสองบริษัท จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งในประเทศ ยกระดับความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า

    อีกทั้งความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นที่ลดลงจะพาให้ความคล่องตัวในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และยังส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการผนึกกำลังทางธุรกิจ (Synergy) และสร้างโอกาสเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต

    สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย เผย การออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นโอกาสที่ดีของผู้ลงทุนที่จะได้ลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทฯ ที่มีโอกาสเติบโตอย่างมีศักยภาพในอุตสาหกรรมค้าปลีก และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในอนาคต

    พร้อมทั้งชูผลประกอบการในปี 2566 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 186,823 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ซึ่งมีรายได้รวม 183,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% สะท้อนสัญญาณในทิศทางบวกจากการฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจ ซึ่งเป็นผลจากการที่ประชาชนมีความต้องการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

    ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ Lotus’s โปรดระมัดระวังการหลอกหลวงจากมิจฉาชีพที่จะนำเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ขอให้ศึกษารายละเอียดจากเว็บไซต์ ww.sec.or.th หรือสถาบันทางการเงินที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 6 แห่งที่กล่าวไปข้างต้นเท่านั้น


    คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th

    หมายเหตุ: การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ปิดฉากถาวร กลุ่ม ‘สิริวัฒนภักดี’ Take Over ซื้อหุ้น AMARIN จากผู้ก่อตั้งเดิมหมดแล้ว พร้อมประกาศ Tender Offer หุ้นละ 5 บาท

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine