JAS โชว์ผลงานปี 2566 กำไรสุทธิ 19,837 ล้านบาท - Forbes Thailand

JAS โชว์ผลงานปี 2566 กำไรสุทธิ 19,837 ล้านบาท

JAS โชว์ผลประกอบการปี 2566 กำไรสุทธิพุ่งแบบก้าวกระโดดกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 1,078% จากปีก่อน โดยเป็นผลจากการขายธุรกิจ 3BB และหน่วยลงทุน JASIF ให้แก่กลุ่ม AIS ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา


    บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งผลการดำเนินงานประจำปี 2566 กำไรสุทธิเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 19,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,078% จากปีก่อน ผลความสำเร็จจากการขายธุรกิจ 3BB และหน่วยลงทุน JASIF ให้กลุ่ม AIS เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สร้างรายได้รวมทั้งปี 28,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 เท่า พร้อมเผยแผนธุรกิจใหม่ที่จะขับเคลื่อนด้วย Generative AI พลังงานสะอาด และธุรกิจด้านสุขภาพ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มบริษัทฯ เพิ่มความสามารถในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต

    ทั้งนี้ ในส่วนของการจ่ายปันผล จะเห็นได้ว่า ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา JAS มีอัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ย 0.66 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ประมาณ 31% ตามราคาหุ้น ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 (2.14 บาทต่อหุ้น) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ

    สำหรับทิศทางในอนาคต JAS ยังคงมองว่า 

· IPTV ยังเดินหน้าสร้างรายได้ผ่านความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่ม AIS พร้อมมองหาความเป็นไปได้ในการพัฒนา platform ให้ครอบคลุมลูกค้าให้กว้างขึ้น

· ธุรกิจโครงข่ายโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าองค์กร ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

· Generative AI ที่ฉลาดและเชี่ยวชาญการใช้ภาษาไทยได้ดีที่สุด เตรียมเปิดตัวภายในปี 2567

· มีแผนลงทุนพัฒนาต่อยอด AI ด้านการแพทย์ เพื่อเป็น Healthcare Solutions ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น การวินิจฉัยโรคเบื้องต้น จัดระบบคิว สรุปข้อมูลคนไข้ เป็นต้น

· ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมนำพลังงานสะอาดมาใช้ในกิจการ และมองหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานสะอาดเพิ่มเติมในอนาคต

และด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งที่พร้อมแผนสร้างความมั่นคงให้แก่ธุรกิจเพิ่มขึ้นในอนาคตผลตอบแทนที่จะมีให้แก่ผู้ถือหุ้น JAS จะต้องสดใสอย่างแน่นอน



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ครั้งแรกในไทย! Alpha X จับมือ MJets ปล่อยสินเชื่อเครื่องบินส่วนตัว เจาะลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine