จะเป็นอย่างไรหาก AI เข้ามามีส่วนช่วยขับเคลื่อนตลาดทุนไทย? ชวนทำความรู้จัก “ATLAS” นวัตกรรม AI จากความร่วมมือของ SET และ Google Cloud - Forbes Thailand

จะเป็นอย่างไรหาก AI เข้ามามีส่วนช่วยขับเคลื่อนตลาดทุนไทย? ชวนทำความรู้จัก “ATLAS” นวัตกรรม AI จากความร่วมมือของ SET และ Google Cloud

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ผนึกกำลัง Google Cloud ร่วมพัฒนา Generative AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตลาดทุน สร้างการเติบโตให้ Digital Wealth และยกระดับความเท่าเทียมในการเข้าถึงการลงทุนของคนไทย ตั้งเป้าใช้งานเฟสแรกในปีนี้


    ปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโลกใบนี้ในหลากหลายมิติ บุคคลและองค์กรต่างๆ นำ AI เข้ามาปรับใช้ในการทำงาน จนหลายคนอาจกังวลเรื่องการถูกเทคโนโลยีแทนที่ อย่างไรก็ตาม เมื่อลองมองย้อนกลับไปยังศตวรรษที่ 18 - 20 ที่ผ่านมา ทุกคนอาจพบสถานการณ์คล้ายคลึงกัน

    เหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลาเหล่านั้น ได้แก่ การปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ซึ่งเครื่องจักรไอน้ำถูกคิดค้นขึ้นและเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม ตามมาด้วยการกำเนิดของพลังงานไฟฟ้า และการประดิษฐ์อินเทอร์เน็ต ตามลำดับ โดยสิ่งเหล่านี้ต่างเป็นปัจจัยสำคัญในการพลิกวิถีชีวิตของผู้คนและนำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ แน่นอนว่าระหว่างทางย่อมมีความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวง มีบางอย่างที่สูญหายไป มีบางอย่างถือกำเนิดขึ้นใหม่ ทว่าผลลัพธ์ที่ได้คือโลกที่พัฒนาไปอีกขั้น ซึ่งในกรณีของ AI ก็จะเป็นเช่นเดียวกัน

    เมื่อมองไปรอบตัวในทุกวันนี้ จะพบว่า AI ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ ทั้งการใช้ชีวิตส่วนตัวไปจนถึงการทำงาน รวมถึงมีบทบาทในหลายภาคส่วน ไม่เว้นแม้กระทั่งการเงิน การลงทุน และการบริหารจัดการความมั่งคั่ง โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ก็ได้มีการนำเอาเทคโนโลยี AI เข้ามาประยุกต์ใช้มาสักพักใหญ่แล้ว ทั้งยังมีแผนจับมือกับ Google Cloud ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์ม AI เฉพาะทางอย่าง ATLAS หรือ Automated Thai Listed Company AI-Info System ที่มีกำหนดการเริ่มใช้งานภายในปี 2568 นี้

อรรณพ ศิริติกุล Country Director, Google Cloud ประเทศไทย


AI ยกระดับการทำงาน เสริมสร้างความเท่าเทียม

    ก่อนจะไปถึง ATLAS ทาง อรรณพ ศิริติกุล Country Director, Google Cloud ประเทศไทย ได้ฉายภาพให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของ AI ที่จะเข้ามาช่วยยกเพิ่มศักยภาพให้กับตลาดทุนไทย โดยเริ่มจากการอธิบายหน้าที่หลัก 3 ข้อของ SET ได้แก่ การเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับบริษัทและนักลงทุน การกำกับดูแลกิจกรรมที่เกิดขึ้นในตลาดทุน และยกระดับการเข้าถึงโอกาสในการลงทุนของคนไทย ซึ่งนับว่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย

    หาก SET ได้พลังจาก AI ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในส่วนต่างๆ ก็ย่อมจะนำไปสู่การเติบโตของตลาดทุน การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น การขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศ และยกระดับเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง ถือเป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มาพร้อมผลประโยชน์มหาศาล และผู้รับผลประโยชน์ก็คือคนไทยทุกคน

    ทั้งนี้ รายงาน e-Conomy 2024 จากความร่วมมือระหว่าง Google, Temasek และ Bain & Company ซึ่งเผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน 2024 คาดการณ์ว่าภาคส่วน Digital Wealth ของไทยจะเติบโตจาก 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2024 สู่ 1.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2030 โดยพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM)


    ด้าน ถิรพันธุ์ สรรพกิจ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา SET เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงานโดยนำ AI เข้ามาช่วยพัฒนางานในหลายด้านเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งระบบกำกับดูแลการซื้อขายและกำกับบริษัทจดทะเบียน รวมถึงระบบแปลเนื้อหาข้อมูลบริษัทจดทะเบียนหรือความรู้ด้านการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนต่างชาติ ซึ่งมีส่วนช่วยขยายโอกาสการเข้าถึงข้อมูลของผู้ลงทุน

    ไม่เพียงเท่านั้น ถิรพันธุ์ยังชี้ให้เห็นถึงความสามารถของ AI ที่จะช่วยสร้างความเท่าเทียมในการลงทุน โดยแนวคิดการนำ AI มาใช้แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมความเท่าเทียมไม่ใช่เรื่องใหม่ ยกตัวอย่างมหาเศรษฐีโลกอย่าง Bill Gates ก็มีการมอบทุนแก่กลุ่มคนต่างๆ จากทั่วโลกผ่านมูลนิธิ Gates Foundation เพื่อใช้พัฒนานวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิตในแต่ละท้องถิ่นโดยอาศัยเทคโนโลยี AI เป็นกุญแจสำคัญ ซึ่ง Gates มีความเชื่อว่า AI จะช่วยให้ใครๆ ก็เข้าถึงศึกษาและสาธารณสุขที่ดีได้

    ตลาดทุนไทยเองก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ยังคงมีความเหลื่อมล้ำและเต็มไปด้วยช่องว่าง และ ATLAS ก็คือจิ๊กซอว์อันทรงพลังที่จะมาเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้น ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง


ATLAS อนาคตที่เหนือกว่าของตลาดทุนไทย

    ATLAS คือแพลตฟอร์มที่ทาง SET และ Google Cloud ร่วมกันออกแบบขึ้นเพื่อประยุกต์ใช้ Generative AI Prompt ขั้นสูง มาพัฒนาการทำงานภายในองค์กร และการให้บริการบริษัทจดทะเบียนในด้านต่างๆ ทั้งการให้คำปรึกษา การให้ข้อมูลกฏเกณฑ์ การกำกับดูแล และการตรวจสอบการซื้อขาย โดยใช้โมเดลของ Google Gemini 2.0 Flash ผ่าน Vertex AI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มพัฒนา AI ระดับองค์กรแบบครบวงจรของ Google ที่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างโซลูชัน AI ขั้นสูงสำหรับการสนทนาโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติเสมือนมนุษย์ได้ง่ายขึ้น

ถิรพันธุ์ สรรพกิจ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


    ทั้งนี้ ATLAS จะค้นหาข้อมูลจากคลังข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ และประมวลผล นำเสนอผล นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนที่จะพัฒนา ATLAS เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ด้วยแพลตฟอร์ม BigQuery ของ Google Cloud และให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ทันที

    เบื้องต้น SET ตั้งเป้าเริ่มนำ ATLAS มาใช้งานภายในก่อนในเฟสแรกก่อนสิ้นปี 2568 ส่วนองค์กรและบุคคลภายนอกคาดว่าจะใช้งานได้ในปีหน้า


ตลาดทุนไทยขับเคลื่อนด้วยพลัง AI

    คำถามต่อมาคือ ATLAS จะเสริมศักยภาพให้ตลาดทุนไทยตลอดจนเพิ่มความเท่าเทียมได้อย่างไรและมากน้อยแค่ไหน?

    ก่อนอื่นต้องบอกว่า ประเทศไทยมีบุคคลากรที่เต็มไปด้วยความรู้ ความสามารถ พลัง และความคิดสร้างสรรค์อยู่มาก พวกเขาต่างมีไอเดียใหม่ๆ แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างเท่าเทียม เช่นเดียวกับผู้ประกอบการและองค์กรระดับเล็ก กลาง ไปจนถึงใหญ่หลายรายยังคงมองหานักลงทุนที่จะมาร่วมขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ และในทางกลับกัน นักลงทุนมากมายก็กำลังมองหาธุรกิจที่มีศักยภาพเพื่อเข้าลงทุนด้วยเช่นกัน

    จะเป็นอย่างไรหาก AI ช่วยให้พวกเขาเหล่านี้หากันเจอง่ายขึ้น?

    ถิรพันธุ์ ยังกล่าวถึงกรณีของนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการนำเงินเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ อาทิ หุ้น และกองทุนรวม หลายรายอาจเป็นมือใหม่ และหลายรายก็อาจเป็นพนักงานบริษัทที่ทำงานประจำ ทำให้ไม่มีเวลา ‘ทำการบ้าน’ มากนัก ไม่ว่าจะเป็นการติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นทั่วโลก การศึกษาการลงทุนรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการอ่านงบการเงินและผลประกอบการของแต่ละบริษัทย้อนหลัง

    จะเป็นอย่างไรหาก AI เข้ามาช่วยสรุปข้อมูลสำคัญแก่พวกเขาเหล่านี้?

    แน่นอนว่า AI คงไม่สามารถชักชวนให้ผู้ใช้งานซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่เทคโนโลยีดังกล่าวทำได้ คือการสรุปสาระที่ผู้ใช้งานต้องการจากฐานข้อมูล เช่น ขอให้ AI ช่วยสรุปผลประกอบการของบริษัทรายหนึ่งย้อนหลัง 3 ปีในรูปแบบกราฟแท่ง หรือขอให้ AI รวบรวมรายชื่อ 10 หุ้นปันผล 3-5% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เป็นต้น

    สิ่งเหล่านี้มนุษย์อาจทำได้เองก็จริง แต่ AI สามารถทำได้เร็วกว่า ทำให้นักลงทุนประหยัดเวลา ไม่ต้องรวบรวมข้อมูลเอง โดยสามารถเอาเวลาไปใช้กับการอ่าน วิเคราะห์ และตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ นับเป็นการเพิ่มโอกาสให้ใครๆ ก็สามารถเข้ามาลงทุน สร้างความมั่งคั่ง และเสริมความมั่นคงทางการเงินของตัวเองได้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ SET ที่ต้องการ ‘พัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกคน’

กสิณ สุธรรมมนัส Chief Strategy Officer และผู้ร่วมก่อตั้ง Finnomena Group


    ความคาดหวังที่ SET มีต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่จินตนาการเพ้อฝัน แต่มีผู้ที่นำร่องไปก่อนแล้วอย่าง Finnomena แพลตฟอร์มบริหารเงินลงทุนดิจิทัลแบบครบวงจรชั้นนำของไทย ที่ร่วมงานกับ Google Cloud มานานนับสิบปีแล้ว

    ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา Finnomena ก็ได้จับมือ Google Could ประกาศเปิดตัวโซลูชัน AI สำหรับบริหารข้อมูลตลาดทุน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์ม Vertex AI, BigQuery และ Cloud Run ของ Google Cloud มีการผสานการทำงานกับ Google Workspace อย่างไร้รอยต่อ ผ่านกระบวนการการทำงานของ agentic AI หรือ AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ

    โซลูชัน AI ดังกล่าวช่วยให้ Finnomena สามารถขยายขอบเขตบริการด้านการลงทุนและรองรับความต้องการของผู้ใช้งานที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าสำหรับกรณีของ SET ก็จะประสบความสำเร็จด้วยดีเช่นกัน


ภาพ: Google Cloud


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : สรุปกลยุทธ์ ‘แกร็บ’ ปี 2025 ขยายกลุ่ม Gen Z รักษาฐานลูกค้าเดิม มัดใจคนขับ-ร้านค้า เดินหน้าขอเติบโตแบบ ‘ยั่งยืน’

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine