สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางส่งผลให้ทั่วโลกต่างลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และกระทบต่อตลาดหุ้นในหลายประเทศ แต่ล่าสุดหลังจาก Trump ประกาศ ‘อิสราเอล-อิหร่าน’ บรรลุข้อตกลงหยุดยิง InnovestX เชื่อว่าจะหนุนตลาดสินทรัพย์เสี่ยงผ่อนคลายลง โดยเช้าวันนี้หุ้นไทยหรือ SET Index กลับมาบวกที่ 28.78 จุด สู่ระดับ 1,091.56 จุด แต่ยังต้องจับตาปัจจัยในประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า SET Index ช่วงเช้าวันนี้ (24 มิ.ย. 68) ยังบวกอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบัน (11.29 น.) อยู่ที่ 1,091.56 จุด เพิ่มขึ้น 28.78 จุด นับจากเปิดตลาดวันนี้
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ InnovestX เปิดเผยว่า เมื่อ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศอิสราเอล-อิหร่านบรรลุข้อตกลงหยุดยิงคาดหนุนตลาดสินทรัพย์เสี่ยงผ่อนคลายขึ้น จึงคาดว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ หลังลงมาต่อเนื่องทดสอบ Low เดิม 1,056 จุด ซึ่งปกติจะมีช่วงหยุดไหลหรือดีดกลับได้ โดยมีแนวรับที่ 1,056/1,050 จุด และมีแนวต้านที่ 1,070/1,080
ทั้งนี้ นักลงทุนยังต้องติดตามปัจจัยในประเทศ ซึ่งช่วงเที่ยงของวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะแถลงมาตรการเศรษฐกิจในวงเงิน 115,000 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมหรือบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ได้เห็นชอบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นโครงการคมนาคม (39.8%), โครงการน้ำ (33.9%), การส่งออก/ผลิตภาพ (9.6%), การท่องเที่ยว (8.7%) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในประเทศยังมีข้อเรียกร้องจากสมาคมโรงแรมไทยต่อนายกรัฐมนตรีถึงการทบทวนมติการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 400 บาท/วัน ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้ โดยเฉพาะในภาคบริการและอุตสาหกรรมโรงแรม จะกระทบต้นทุนราว 10-15% และมีผลกระทบมากในจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ ท่ามกลางภาคท่องเที่ยวที่ชะลอตัว
ด้านปัจจัยการเมืองยังมีข้อมูลจากรองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย เผยความคืบหน้าการปรับ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ว่าจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ โดยยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ฟากฝั่งศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมวาระพิเศษ 1 ก.ค. กรณี สว. ยื่นถอดถอนนายกฯ – สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีปมคลิปเสียง
จากปัจจัยทั้งหมดนี้ InnovestX ประเมินว่าในระยะสั้น SET แกว่งตัวผันผวนต่อหลังเผชิญปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศ โดยยังต้องติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมและการแจ้งอัตราภาษีแบบฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ รวมถึงติดตามความไม่แน่นอนทางการเมืองและความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งเที่ยวไทยคนละครึ่งและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี InnovestX ประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1,100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แต่เป็นลักษณะของการทยอยสะสม กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ Selective Buy ใน 3 กลุ่ม ได้แก่
1. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำ โดยคาดผลการดำเนินงานจะสามารถต้านทานความผันผวนจากปัจจัยภายนอกได้ แนะนำ DIF, BDMS, BCH
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรในช่วง 1H68 และให้ Dividend Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC, BBL, PTT
3. หุ้น Earnings Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดยไตรมาส 2 ปี 68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้งเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แนะนำ ADVANC, CPALL, BTG
Photo by Nicholas Cappello on Unsplash
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : กลุ่ม SCBX ประกาศแต่งตั้ง “ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์” ดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ มีผล 1 ม.ค. 2570
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
