GUNKUL เปิดกลยุทธ์ใหม่ ตั้งเป้าปี 68 เติบโต 10-15% รายได้รวม 3 ปีทะลุ 3.5 หมื่นล้านบาท - Forbes Thailand

GUNKUL เปิดกลยุทธ์ใหม่ ตั้งเป้าปี 68 เติบโต 10-15% รายได้รวม 3 ปีทะลุ 3.5 หมื่นล้านบาท

บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ผู้นำด้านพลังงานสีเขียวแบบครบวงจรใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของไทย ปรับผังองค์กรส่ง นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ พร้อมวิสัยทัศน์ “พาร์ตเนอร์ด้านพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานแห่งภูมิภาคเอเชีย” เปิดกลยุทธ์ต่อยอด 3 ธุรกิจหลัก สร้างฐานธุรกิจใหม่


    บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ตั้งเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานสีเขียวสะสม 2,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570 พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับ Direct PPA และการเปิดประมูลรอบใหม่ โดยปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวทั้งหมด 1,479 เมกะวัตต์ และอีก 832 เมกะวัตต์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการรอรับรู้รายได้ และมีมูลค่างานรอรับรู้รายได้ (backlog) อีกกว่า 3,800 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% ทุกปี

    นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการต่อยอดใน 3 ธุรกิจหลัก ดังนี้

    1. เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงปลายปี 2567 บริษัทฯ ได้ผ่านคุณสมบัติและได้รับการคัดเลือกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 319 เมกะวัตต์ ทั้งโครงการพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าของบริษัทที่จะเพิ่มโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดในพอร์ตโฟลิโอทั้งในไทยและต่างประเทศรวมทั้งหมดเป็น 2,000 เมกะวัตต์ภายใน 3 ปี พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจแบตเตอรี่ ทั้งในระดับเชิงพาณิชย์และระดับโครงข่าย และศึกษาโอกาสในการทำธุรกิจพลังงานสีเขียวใหม่ๆ อาทิ SMR และ Green hydrogen

    2. ขยายบริการรับเหมาวิศวกรรมไฟฟ้าและ infrastructure สู่ตลาดแรงดันสูง 115 kV - 500 kV ซึ่งมีความเฉพาะทางผู้เล่นในตลาดมีจำนวนไม่มากนัก รวมทั้งต่อยอดจากธุรกิจสายส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังธุรกิจด้านสายส่งระบบสื่อสาร

    3. กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า เตรียมเปิดตลาดใหม่สำหรับกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าในระดับแรงดันกลางจนถึงแรงดันสูงเพิ่มเติม และเข้าประมูลโครงการของทั้งภาครัฐและเอกชนในปี 2568 ที่เติบโตสอดคล้องกับความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด และแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (แผน PDP) ฉบับล่าสุด ซึ่งตั้งเป้าให้แหล่งพลังงานหมุนเวียนมีสัดส่วนเป็น 51% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2580 คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 1 ล้านล้านบาท

    ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้บริษัทฯ ไม่เพียงเติบโตทั้งในด้านรายได้ แต่ยังสามารถรักษาศักยภาพในการทำกำไรที่ดีได้อีกด้วย

    สำหรับธุรกิจใหม่ๆ หรือ New S-curve บริษัทไม่จำกัดแค่พลังงาน แต่ต้องเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในเทรนด์ความสนใจของประเทศ โดยมีพลังงานสะอาดเป็นหนึ่งในกุญแจขับเคลื่อนความสำเร็จ เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านพลังงานที่สามารถดูแลโครงการทั้งห่วงโซ่คุณค่า จึงเป็นที่มาของธุรกิจใหม่ ได้แก่ ศูนย์ข้อมูลสีเขียว (Green Data Center) และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ (Infrastructure Development) ซึ่งต่างเป็นพื้นที่ทางธุรกิจใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ รวมถึงการทำ Co-investment สร้างความร่วมมือด้านการลงทุนร่วมกับพันธมิตรบริษัทในไทยและบริษัทต่างชาติ

    ปี 2567 GUNKUL มีรายได้เพิ่มขึ้น 24% เป็น 9,400 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ซึ่งมาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่

    1. ธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานสะอาด บรรลุสัญญาโครงการพลังงานใหญ่และเติบโตในกลุ่มโซลาร์รูฟท็อป ทำให้ปัจจุบันกำลังผลิตสะสมเป็น 1,479 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตพลังงานสะอาดเป็นอับดับที่ 2 ของประเทศ

    2. ธุรกิจก่อสร้างโรงไฟฟ้าและระบบ infrastructure รายได้เติบโตกว่า 80%

    3. ธุรกิจผลิตอุปกรณ์สำหรับไฟฟ้า ยอดขายเติบโต 28%

    สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% รายได้รวม 3 ปีเติบโตมากกว่า 35,000 ล้านบาท


ภาพ: GUNKUL


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : รัฐหวังตลาดหุ้นไทยฟื้น! ครม. อนุมัติตั้งกองทุน Thai ESGX ลดหย่อนภาษี รับเงินโยกจาก LTF ได้

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine