ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร เผย หลังจบเทศกาลสงกรานต์มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดย ณ ปัจจุบัน รับจำนำทองรวมเป็นมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านบาท คิดเป็น 85% ของทรัพย์สินที่รับจำนำไว้ทั้งหมดของโรงรับจำนำ 21 สาขาทั่วกรุงเทพฯ
ชนาธิป ล.วีระพรรค ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร เผยว่า นับตั้งแต่เปิดให้บริการหลังเทศกาลสงกรานต์ในวันที่ 17 เมษายน เป็นต้นมา มีประชาชนนำสิ่งของมีค่ามาจำนำใน 21 สาขาทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสาขาบางซื่อ ซึ่งจากเดิมในช่วงปกติจะมีประชาชนมาใช้บริการราว 70 คนต่อวัน แต่หลังจากที่เปิดทำการหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์วันแรก มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นถึง 130 คนต่อวัน อีกทั้งยอดรับจำนำจากเดิมที่มีมูลค่าหลักแสนต้นๆ ต่อวัน ก็พุ่งสูงขึ้นถึง 760,000 บาท
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า หลังจากราคาทองพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยมีราคาจำหน่ายบาทละ 42,000 บาท ได้ส่งผลให้ราคารับจำนำทองขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย โดยมีราคาอยู่ที่ 34,300 บาท
ณ ปัจจุบันโรงรับจำนำของกรุงเทพมหานครทั้ง 21 แห่ง มีทองคำที่รับจำนำรวมมูลค่ามากกว่า 1,900 ล้านบาท คิดเป็น 85% ของทรัพย์ที่รับจำนำไว้ทั้งหมด ขณะเดียวกันในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีประชาชนนำทรัพย์สินมาจำนำเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเกือบ 28% มูลค่ารวมกว่า 4,100 ล้านบาท ทรัพย์รับจำนำคงค้างรวมกว่า 2,200 ล้านบาท
ด้าน ปิยะดา วงศ์ละคร ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลนครขอนแก่น แห่งที่ 1 เปิดเผยว่า หลังเปิดให้บริการจากช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ มีประชาชนนำของมีค่ามาจำนำมากกว่าปกติถึง 1 เท่าตัว และสิ่งของที่ผู้คนนิยมเอามาจำนำมากที่สุด ก็ยังคงเป็นทองรูปพรรณ เช่นสร้อยคอทองคำ, แหวน และ กำไลข้อมือ
อย่างไรก็ตาม ทางสถานธนานุบาลเทศบาลนคขอนแก่น แห่งที่ 1 ได้เตรียมเงินทุนสำรองไว้กว่า 137 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำไปจนถึงสิ้นปี 2567 โดยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 50 สตางค์ ส่วนเงินต้นตั้งแต่ 5,000-30,000 บาทคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : SCBX ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 67 ที่ 11,281 ล้านบาท โต 2.6% จากปีก่อน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine