บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว หรือ EDL-Gen ประกาศขายหุ้นกู้ครั้งที่ 3 ปี 2566 วันที่ 22 – 24 ส.ค.นี้ เร่งลงทุนรับกระแสความต้องการพลังงานสะอาดของโลก ผุด 42 โครงการ ย้ำศักยภาพแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ใหญ่ที่สุดในสปป.ลาว คาดกำลังการผลิตมากกว่า 20,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573
สปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำได้มากกว่า 30,000 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันได้ทำ MOU จำหน่ายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งไทย ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen ที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทมหาชน และได้ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านการออกหุ้นกู้ ซึ่งปีนี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 เพื่อเร่งลงทุนรองรับความต้องการพลังงานสะอาดที่มีมากขึ้น
วันแสง วันนะวง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen เปิดเผยว่า จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก และต้นทุนด้านพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญในการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่ง "น้ำ" ที่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการเดินเครื่องการผลิตไฟฟ้าของเขื่อนนั้น ถือเป็นพลังงานหมุนเวียนที่มีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำมาก และด้วยภูมิประเทศของ สปป.ลาวที่เป็นแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในอนาคต
สปป.ลาวมีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำได้มากกว่า 30,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 11,000 เมกะวัตต์ ทำให้ สปป.ลาวมีโอกาสการลงทุนพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวในอนาคต
ความต้องการไฟฟ้าพลังงานน้ำเพิ่มขึ้น
EDL-Gen ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานน้ำรายใหญ่ที่สุดของสปป.ลาว ซึ่งเดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของการไฟฟ้าลาว (EDL) แต่แยกมาตั้งเป็นบริษัทมหาชน เพื่อต้องการระดมทุนเร่งการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้า ปัจจุบัน EDL-Gen มีโครงการทั้งหมดที่เปิดดำเนินการ (COD) รวม 28 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,790 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่ EDL-Gen เป็นเจ้าของและพัฒนาโครงการเอง (HPP) จำนวน 10 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด 699 เมกะวัตต์ และโครงการที่ร่วมลงทุนกับภาคเอกชนที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) อีกจำนวน 18 โครงการ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 1,091 เมกะวัตต์ ซึ่ง EDL-Gen มีแผนพัฒนาโครงการทั้งหมด 42 โครงการ รวมกำลังการผลิตทั้งหมดกว่า 20,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573
ปี 2565 ที่ผ่านมา EDL-Gen มีรายได้จากการขายไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ซึ่งมาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าที่ผลิตจากโครงการ HPP และ ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในโครงการ IPP (ไม่รวมรายได้อื่นๆ) ทั้งหมดรวม 5,403 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.5% และในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมจากการขายไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ (HPP+IPP) ประมาณ 945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นวิกฤตใหญ่ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา พลังงานน้ำ จึงได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตไม่สร้างมลภาวะให้กับธรรมชาติ พลังงานน้ำถือเป็นแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน ที่จะช่วยให้โลกบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ และด้วยศักยภาพของสปป.ลาว และ EDL-Gen จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับสปป.ลาวและประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนอย่างยั่งยืน” กรรมการผู้จัดการ EDL-Gen กล่าว
ปัจจุบัน สปป. ลาวมีสัญญาการจำหน่ายไฟฟ้าภายใต้กรอบความร่วมมือ MOU การซื้อไฟฟ้ากับประเทศต่างๆ ได้แก่ ไทย 10,500 เมกะวัตต์ กัมพูชา 6,000 เมกะวัตต์ เวียดนาม 5,000 เมกะวัตต์ เมียนมาร์ 600 เมกะวัตต์ และสิงคโปร์ 100 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับสิงคโปร์เพิ่มเติมอีกเป็น 300 เมกะวัตต์
รวมทั้งมีการจำหน่ายไฟฟ้าไปยังประเทศจีนตอนใต้ภายใต้สัญญาแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างประเทศและ มีการทำกรอบความร่วมมือ (MOU)ในการส่งเสริมด้านพลังงานระหว่างประเทศกับประเทศบรูไนเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงของ EDL-Gen ในอนาคต
ระดมทุนผ่านหุ้นกู้ย้ำเชื่อมั่นตลาดไทย
สปป.ลาว ตั้งเป้าหมายลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ปัจจุบัน สปป.ลาว มีแผนปรับปรุงประสิทธิภาพและขยายสายส่งไฟฟ้า ทั้งในประเทศและไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน สร้างเสถียรภาพในการจ่ายไฟให้ดียิ่งขึ้น รองรับการใช้ไฟฟ้าในประเทศอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างเต็มรูปแบบ เช่น โครงการรถไฟฟ้าลาว-จีน โครงการทางด่วนเวียงจันทน์-บ่อเต็น และโครงการท่าบกท่านาแล้ง ซึ่งเป็นศูนย์โลจิสติกส์เวียงจันทน์ (VLP) จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาตั้งฐานผลิตในประเทศลาวมากขึ้น
กรรมการผู้จัดการ EDL-Gen กล่าวว่า เพื่อเป็นการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน บริษัทฯ ได้เปิดให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่จองซื้อหุ้นกู้ครั้งที่ 3/2566 จำนวน 2 ชุด อายุ 3 ปี และ 4 ปี 3 เดือน ในราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100 หน่วย โดยหุ้นกู้ชุดดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2569 และ 2570 ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 6.30% และ 6.90% ต่อปีตามลำดับ ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ในสกุลเงินบาทไทย โดยกำหนดให้นักลงทุนชำระค่าจองซื้อในวันที่ 22 – 24 สิงหาคมนี้
“เงินทุนที่ได้จากการออกตราสารหนี้ครั้งนี้จะนำมาใช้ในการรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนกันยายนนี้ ทำให้ EDL-Gen สามารถบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินให้มีความเหมาะสมกับแผนการลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าตามแผนระยะยาวเพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืน”
วันแสง กล่าวว่า ด้วยปณิธานของ EDL-Gen ที่ต้องการผลักดันความเป็น Engine of Decarbonization ต่อไปอย่างยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานสะอาดในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ มั่นใจว่าหุ้นกู้ชุดดังกล่าวจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและ นักลงทุนรายใหญ่ที่เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาและสร้างโอกาสการลงทุนให้กับ EDL-Gen ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงจากความสามารถในการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เพื่อป้อนความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งใน สปป.ลาว และภูมิภาคอาเซียนในอนาคต
อ่านเพิ่มเติม : FPT โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 แกร่ง โกยรายได้แตะ 4,500 ล้านบาท
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine