หลายธุรกิจในไทยมีจุดเริ่มต้นจากคนในครอบครัวมาช่วยกันค้าขาย หนึ่งในนั้นคือ บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ที่มีชื่อย่อในตลาดหุ้นไทยว่า CH หรือ ChinHuay (จิ้นฮ่วย) ที่แม้เริ่มต้นจากธุรกิจน้ำปลา แต่ตอนนี้ได้ขยายสู่ธุรกิจปลากระป๋องและผลไม้อบแห้งที่ส่งออกไปทั่วโลก และเฉพาะปี 2567 นี้คาดว่าจะมีรายได้ถึง 2,000 ล้านบาท
‘ธรรมนูญโฮลดิ้ง’ จัดระเบียบธุรกิจและครอบครัวให้ราบรื่น
ChinHuay แม้จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2565 แต่หากนับรวมประสบการณ์ธุรกิจแล้วก็ยาวนานกว่า 99 ปี และดำเนินธุรกิจมาถึง 3 Generation แล้ว ซึ่งการก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการจัดระเบียบธุรกิจครอบครัวให้ราบรื่น และพร้อมส่งต่อสู่รุ่นต่อไป
“ศักดา ศรีแสงนาม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH ซึ่งเป็น Gen 3 ของบริษัทเคยเล่าไว้ว่า “รุ่นที่ 1 สร้างธุรกิจ รุ่นที่ 2 สร้างและขยาย รุ่นที่ 3 กิจการเติบโตและจัดระเบียบใหม่”
การจัดระเบียบใหม่ก็เพื่อให้บริษัทมีการบริการงานแบบมืออาชีพ โปร่งใส และสร้างความยั่งยืน ไม่ว่าจะการนำบริษัทฯ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงการทำหลักธรรมนูญของครอบครัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเรียกว่า ‘ธรรมนูญโฮลดิ้ง’ โดยปัจจุบันใช้เป็นโครงหลักในการเข้ามาถือหุ้น ChinHuay แม้จะไม่ได้ใช้ในการบริหารบริษัท ChinHuay แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ในงานส่งต่องานบริการ Gen 3 ไปสู่ Gen 4
ทั้งนี้ ธรรมนูญโฮลดิ้ง ChinHuay แบ่งออกเป็น 11 หมวด ด้วยกัน ได้แก่
หมวดที่ 1 ค่านิยมการทำงาน
หมวดที่ 2 วิสัยทัศน์บริษัทโฮลดิ้ง
หมวดที่ 3 คำนิยามของสมาชิก
หมวดที่ 4 สิทธิและหน้าที่สมาชิก
หมวดที่ 5 คณะกรรมการธุรกิจบริษัทโฮลดิ้ง
หมวดที่ 6 ข้อตกลงการถือหุ้น
หมวดที่ 7 นโยบายเงินปันผล
หมวดที่ 8 การจ้างงานและผลตอบแทน
หมวดที่ 9 แผนสืบทอด
หมวดที่ 10 เงินกองทุนบริษัทโฮลดิ้ง
หมวดที่ 11 กฎระเบียบต่างๆ
ศักดา เล่าว่า ตอนนี้เรายังไม่ได้ Spin บริษัทอื่นๆ เพิ่มเติมออกมาจากโฮลดิ้งนอกจาก ChinHuay หากในอนาคตสมาชิกในครอบครัวอยากจะทำธุรกิจอะไรเพิ่มเติม ย่อมทำได้ เพราะตอนนี้ CH ตอนนี้ทำกำไรและปันผลกลับไปที่บริษัทโฮลดิ้ง ตรงนี้จึงมีเงินก้อนที่พร้อมจะทำธุรกิจ สมาชิกครอบครัวคนไหนอยากทำธุรกิจอะไรก็จะมาเสนอต่อสมัชชาฯ หากอนุมัติก็นำไปต่อยอดได้ แต่ปัจจุบันยังคงมุ่งในธุรกิจหลักคือ CH
รายได้ ChinHuay ปี 67 คาดรายได้ทะลุเป้าแตะ 2,000 ล้านบาท
ในด้านธุรกิจหลักอย่าง ChinHuay ผลประกอบการในปี 2567 นี้ คาดว่าจะมีรายได้ราว 2,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ 1,900 ล้านบาท สาเหตุเพราะมีจำนวนยอดสั่งสินค้าเกินเป้าหมาย และมีสต๊อกสินค้าครอบคลุมถึงยอดสั่งสินค้าแล้ว รวมถึงมีปัจจัยสนุนประเทศคู่ค้าที่ปรับตัวดีขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ไทยเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซัน ทำให้ส่วนอาหารแปรรูปและขนมมียอดขายที่ดีขึ้นและสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง 89% ปลากระป๋อง 10% ขนมเพื่อสุขภาพ 1% โดยฐานลูกค้าหลักยังคงเป็นสหรัฐ และส่งทีมขายเร่งเจรจาเปิดตลาดใหม่โซนยุโรปและเอเชียอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 นี้ เตรียมขยายการลงทุนห้องเย็นทั้งประเทศไทย และกัมพูชารวม 2,000 ตันเพื่อรองรับการผลิตในช่วงที่ฤดูกาลผลไม้ออกมาน้อย รวมถึงมีการขยายโรงงานช็อกโกแลตเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังขยายฐานลูกค้ารับผลิตสินค้าตามแบบที่ลูกค้ากำหนด OEM ผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านผลไม้อบแห้ง และสินค้าขนมเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ Bangkok Tasty (by CH)
ขณะที่สถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา มองว่าไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท เพราะมีวางแผนเพื่อรับมือไว้แล้ว ส่วนด้านผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 มีรายได้รวม 1,159.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 105.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 559.86%YoY
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ศักดา ศรีแสงนาม จัดทัพเตรียมรับ 100 ปี Chin Huay
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine