แบงก์ชาติชี้เศรษฐกิจไทยเดือน มิ.ย. 67 ชะลอลง ผลท่องเที่ยว-ส่งออกชะลอ - Forbes Thailand

แบงก์ชาติชี้เศรษฐกิจไทยเดือน มิ.ย. 67 ชะลอลง ผลท่องเที่ยว-ส่งออกชะลอ

แบงก์ชาติเผยเศรษฐกิจไทยเดือนมิถุนายน 67 ชะลอตัวลงผลจากการท่องเที่ยว และส่งออกชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า ช่วงปลายปีนี้ยังต้องติดตามผลจากการเบิกจ่ายงบฯ และมาตรการของรัฐ


     ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภาพรวมไตรมาส 2 เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวขึ้น แต่ในเดือนมิถุนายน 2567 ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สาเหตุมาจาก

      1. นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งจำนวนและรายรับที่ลดลง 

      - จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่ที่ 2.7 ล้านคน ลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้ว-MoMsa) โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวมาเลเซีย จีน และยุโรปที่ไม่รวมรัสเซีย หลังจากเร่งไปในช่วงก่อนหน้า แต่จำนวนนักท่องเที่ยวในบางสัญชาติ อาทิ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และอินเดียปรับเพิ่มขึ้น

     - รายรับภาคท่องเที่ยวในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังลดลง 3.5%MoMsa สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ


     2. การส่งออกสินค้าลดลง 0.7%MoMsa เกิดจากสินค้าในหลายหมวด ได้แก่ 

      - สินค้าเกษตร ตามการส่งออกทุเรียนไปจีนที่ผลผลิตทุเรียนของไทยลดลงหลังเข้าสู่ช่วงปลายฤดูการผลิตในภาคตะวันออก 

     - อิเล็กทรอนิกส์ ตามการส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์สื่อสารไปฮ่องกงและญี่ปุ่น รวมทั้งการส่งออกแผงวงจรรวมไปมาเลเซียและฮ่องกง 

     - สินค้าเกษตรแปรรูป ตามการส่งออกน้ำมันปาล์มไปอินเดียและน้ำตาลไปอาเซียน อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าในบางหมวดปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน อาทิ รถกระบะไปออสเตรเลีย รถยนต์นั่งไปอาเซียน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมไปจีน ญี่ปุ่น และอาเซียน

     มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ได้แก่

      - วัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางไม่รวมเชื้อเพลิง ตามการนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์สื่อสารและวัสดุโลหะ 

     - สินค้าอุปโภคบริโภค ตามการนำเข้าโทรศัพท์มือถือและหนังสัตว์ 

     - สินค้าทุนไม่รวมเครื่องบิน ตามการนำเข้าเครื่องจักรและคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม การนำเข้าเชื้อเพลิงลดลงเล็กน้อยตามการนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลงจากทั้งด้านปริมาณและราคา

     ด้านเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนเพิ่มขึ้น จากยอดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่การใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทน สินค้ากึ่งคนทน และหมวดบริการลดลงในทุกองค์ประกอบย่อย โดยการใช้จ่ายหมวดบริการลดลงสอดคล้องกับกิจกรรมในภาคท่องเที่ยว ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงลดลงจากความกังวลต่อค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นตามราคาพลังงานในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูงและเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า

      ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อนในหลายหมวด โดยเฉพาะหมวดยานยนต์ ตามการผลิตรถยนต์นั่งและรถยนต์เชิงพาณิชย์เพื่อจำหน่ายในประเทศเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ และผู้บริโภคบางส่วนยังไม่ตัดสินใจซื้อเนื่องจากรอดูสถานการณ์การปรับลดราคารถยนต์จากการแข่งขันของผู้ผลิตที่รุนแรงขึ้น รวมถึงหมวดยางและพลาสติกที่ลดลงจากการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก อย่างไรก็ดี การผลิตปิโตรเลียมปรับเพิ่มขึ้นจากการกลับมาผลิตตามปกติ หลังปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นชั่วคราวในเดือนก่อน

     เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากทั้งการลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ และด้านก่อสร้าง 

     ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนเดือนมิถุนายน 2567 ขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลาง ภายหลัง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 มีผลบังคับใช้เมื่อปลายเดือนเมษายน 2567 โดยรายจ่ายประจำขยายตัวตามการเบิกจ่ายค่าบำเหน็จ บำนาญ ค่ารักษาพยาบาล และค่าตอบแทนพนักงานของรัฐ ขณะที่รายจ่ายลงทุนขยายตัวจากการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านชลประทาน สำหรับรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจหดตัว ตามการเบิกจ่ายในโครงการลงทุน

     ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อนในหมวดพลังงานและหมวดอาหารสด จากราคาน้ำมันเบนซินที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และผลของฐานค่าไฟฟ้าในปีก่อนที่สูงขึ้นหลังมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐหมดลง ขณะที่ราคาผักลดลงตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานใกล้เคียงกับเดือนก่อน

     ด้านตลาดแรงงานปรับดีขึ้นต่อเนื่องทั้งในภาคบริการและการผลิต สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้น จากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลงเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านการระดมทุนของภาคธุรกิจโดยรวมปรับลดลงจากเดือนก่อน ตามการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ในธุรกิจกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม หลังจากได้เร่งไปแล้วในช่วงก่อนหน้า และการระดมทุนผ่านสินเชื่อที่ลดลงจากสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค 

     อย่างไรก็ดี การระดมทุนผ่านตลาดทุนเพิ่มขึ้นจากธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ และที่พักแรมเป็นสำคัญ สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ยอ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเป็นเวลานาน 

     ในภาพรวมไตรมาส 3 ปี 2567 มองว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในระยะถัดไป ยังต้องติดตามผลจากแรงส่งของภาคการท่องเที่ยวที่ยังเป็นเครื่องยนต์หลัก แต่คาดว่าการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะในบางอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง และสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูงส่งผลให้รายรับธุรกิจและรายได้ครัวเรือนในกลุ่มยังเปราะบาง

      ดังนั้น ปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะที่เหลือของปี 2567 ได้แก่ 1) ผลการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการของภาครัฐ 2) การฟื้นตัวของภาคการส่งออกและการผลิต 3) ความขัดแย้งกันภูมิรัฐศาสตร์



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : พาณิชย์เผยส่งออกไทย มิ.ย. 67 หดตัว 0.3%YoY ส่วนครึ่งปีแรกขยายตัวแค่ 2%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand