Bitazza ฉลองครบรอบ 6 ปี ประกาศความสำเร็จเติบโต 130% เทรดวอลุ่มทะลุ 1.6 แสนล้านบาท ยอดดาวน์โหลดแอปฯ กว่า 4.5 ล้านครั้ง เผยพร้อมเข้าร่วมโครงการ TouristDigiPay ของ ก.ล.ต. จ่อเปิดตัว “Bitazza DigiPay” แอปพลิเคชันชำระเงินผ่าน QR Code สำหรับนักท่องเที่ยว สามารถแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาท ใช้จ่ายได้ทั่วประเทศ โดยร่วมพัฒนากับผู้ให้บริการ E-money ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง เพื่อเชื่อมโลกดิจิทัลเข้ากับการใช้จ่ายจริงในชีวิตประจำวัน
ธนวัต สุตันติวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Bitazza (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายสร้างแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต. เพื่อเชื่อมระบบการเงินดั้งเดิมกับเศรษฐกิจดิจิทัล และยกระดับ Bitazza สู่การแข่งขันระดับโลก โดยตลอด 6 ปีที่ผ่านมา บริษัทเติบโตจากทีม 10 คนเป็นกว่า 200 คนทั่วโลก โดยไม่เคยมีการเลิกจ้าง พร้อมเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมใหม่ต่อเนื่อง
Bitazza ปัจจุบันให้บริการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลในตลาดสปอต รองรับคู่เทรดกว่า 220 คู่ และมีคู่เทรดเงินบาทมากกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ (ข้อมูลเดือนตุลาคม 2568)
ล่าสุด Bitazza จับมือ B2C2 ผู้ให้บริการสภาพคล่องสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก เพื่อร่วมขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน
เดวิด โรเจอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ B2C2 เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจด้านสภาพคล่องมากว่า 10 ปี และถือเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องรายใหญ่ของแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Robinhood ในสหรัฐฯ พร้อมครองส่วนแบ่งตลาดขายส่งกว่า 80-90% ในญี่ปุ่น โดยมุ่งขยายเครือข่ายไปยังตลาดสำคัญทั่วโลก
“เรามีเงินทุนแข็งแรง ระบบราคาที่โปร่งใส และบริหารความเสี่ยงด้วยเงินทุนของบริษัทเอง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Bitazza เลือก B2C2 เป็นพันธมิตรหลัก” เดวิดกล่าว พร้อมระบุว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยยกระดับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง และดึงดูดนักลงทุนสถาบันมากขึ้น
“อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเข้าสู่ช่วง ‘ไฟเขียว’ พร้อมเดินหน้าเต็มกำลัง แม้ตลาดจะมีความผันผวนบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือวันนี้ เรากำลังเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ ภายใต้กฎระเบียบที่ชัดเจน เงินทุนที่แข็งแรง และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะพาเราเข้าสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรม และทำให้ไทยรวมถึงอาเซียนกลายเป็นผู้นำสำคัญในเส้นทางนี้” เดวิด กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ Bitazza ได้เปิดเผยถึงโปรเจ็กต์สำคัญที่ร่วมกับผู้ให้บริการ E-money ซึ่งได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง พัฒนา Bitazza DigiPay เป็นนวัตกรรมชำระเงินที่เชื่อมต่อระหว่างโลกสินทรัพย์ดิจิทัลกับการใช้จ่ายจริงในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติให้สามารถแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถือครองเป็นเงินบาท และชำระเงินผ่าน QR Code ได้ทั่วประเทศอย่างสะดวก ปลอดภัย และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสนับสนุนโครงการ TouristDigiPay ภายใต้การสนับสนุนของธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.ล.ต.
ธนวัต กล่าวทิ้งท้ายว่า “6 ปีที่ผ่านมา เราวางรากฐานระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลของไทยอย่างมั่นคง และปีนี้เราพร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ของการชำระเงินดิจิทัล ที่คนไทยและนักท่องเที่ยวสามารถใช้งานได้จริง เราเชื่อว่า DigiPay จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน”
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : YLG ชี้ ไตรมาส 4 ทองคำยังรักษาเทรนด์ขาขึ้น คงเป้าหมาย 4,400 ดอลลาร์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
