Binance เผย อุตสาหกรรมคริปโตครึ่งแรก ปี 66 โตขึ้น 30% คาดนักลงทุนมั่นใจมากขึ้น - Forbes Thailand

Binance เผย อุตสาหกรรมคริปโตครึ่งแรก ปี 66 โตขึ้น 30% คาดนักลงทุนมั่นใจมากขึ้น

Binance Research หน่วยงานวิจัยของ Binance แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของโลก ได้เผยรายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมคริปโตประจำครึ่งปีแรกของปี 2566 ความยาว 120 หน้า ซึ่งประกอบไปด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับ Bitcoin Layer-1s และ Layer-2s เหรียญ Stablecoin ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และ NFT ตลอดจนการวิเคราะห์ตลาดเกม Metaverse และการจัดหาเงินทุนในสถาบันคริปโตอีกด้วย


    ทั้งนี้ รายงานการวิเคราะห์ประจำครึ่งปีของ Binance ฉบับเต็ม ได้แสดงให้เห็นถึงสถานะของการยอมรับการใช้งาน และนวัตกรรมของทุกหมวดหมู่หลักในอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมมีการเติบโตได้อย่างแข็งแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งยังมีการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการเติบโตในครึ่งหลังของปี 2566 และปีถัดไป

    ประเด็นสำคัญจากรายงาน ได้แก่:

      · มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 1.17 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 40 ล้านล้านบาท

      · มูลค่าตลาดของ Bitcoin ในรอบครึ่งปีแรกยังอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ในขณะที่ความสัมพันธ์กับธนาคาร หรือ TradFi อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบสามปี

      · เหรียญ USDT มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นถึง 26% ตั้งแต่วันแรกของปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) แม้ว่ามูลค่าตลาดของ Stablecoin ทั่วโลกจะลดลงถึง 7% ก็ตาม

      · การเดิมพันโทเค็น (Liquid Staking) ได้กลายเป็นระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ที่ใหญ่ที่สุด

    ถึงแม้ในรายงานจะไม่ได้แสดงข้อมูลการเทรดรายวัน แต่ก็สามารถตีความได้ถึงการเติบโตในอุตสาหกรรมผ่านปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นถึง 185% ตั้งแต่วันแรกของปีจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่การทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายมีเพิ่มขึ้นถึง 58% และค่าเฉลี่ยของธุรกรรมบนบล็อกเชนสูงขึ้น 143% ซึ่งการใช้งานที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของ Ordinals ที่สามารถสร้างและซื้อขาย NFT ได้บนเครือข่าย Bitcoin โดยตรง

    มากไปกว่านั้น อัตรา Hash Rate หรือแรงขุดที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยของบล็อกเชน Bitcoin ยังเพิ่มขึ้นอีกกว่า 40% ตั้งแต่วันแรกของปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้การขุดยากขึ้นอีกกว่า 43% ด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากการวิเคราะห์ข้อมูลแบบ On-Chain แล้ว ในรายงานประจำครึ่งปีของ Binance ยังได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย อาทิ การวิเคราะห์ความรู้สึก (Sentiment Analysis) ที่แสดงให้เห็นว่าดัชนี Fear & Greed หรือภาพรวมอารมณ์ของนักลงทุนใน Bitcoin นั้น เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนมีความมั่นใจในการเทรดมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจที่สุดในรายงานประจำครึ่งปีคือการเพิ่มขึ้นของการใช้งาน (Liquid Staking) ซึ่งคือการให้บริการสำหรับนักลงทุนในการนำโทเค็นเข้ามา stake และเปิดให้มีการนำทรัพย์สินนั้นไปใช้งานต่อได้ รวมไปถึงการเกิดขึ้นของคำว่า “LSTfi” หรือ การรวมกันของ Liquid Staking และระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) เข้าด้วยกัน โดยที่ตลาดมีมูลค่ารวมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 460% ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มากไปกว่านั้น รายงานประจำครึ่งปีของ Binance ยังได้แสดงถึงไฮไลท์สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของ “zkEVM” ที่กำลังดำเนินการใน Layer-2 และการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นของ Polygon สู่ Polygon 2.0 นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงภาคส่วนที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ อย่างเครือข่ายเฉพาะด้านใน Layer-3s ที่จะเข้ามาเชื่อมต่อกับ Layer-2 เดิมที่ถูกสร้างไว้อยู่แล้ว

    นอกเหนือจากการวิเคราะห์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของเหรียญ Stablecoins ชั้นนำในตลาดแล้ว ในรายงานนี้ ยังรายงานถึงเหรียญใหม่ที่มีส่วนแบ่งในตลาดปี 2566 ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ USDD, crvUSD, GHO และ LUSD ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 54% ตั้งแต่วันแรกของปีจนถึงปัจจุบัน

    จากการรายงานการวิเคราะห์ของ Binance ยังแสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมคริปโตมีการเติบโตที่น่าประทับใจในครึ่งปีแรก โดยผู้ใช้ในระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) เพิ่มขึ้นกว่า 43% ตั้งแต่วันแรกของปีจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงปริมาณ NFT ก็เพิ่มขึ้นเช่นกันเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปีที่แล้ว แม้ว่าราคาเสนอซื้อขายขั้นต่ำจะลดลงก็ตาม และในแง่ของการระดมทุน กองทุน 10 อันดับชั้นนำสามารถระดมทุนได้ทั้งหมดกว่า 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือตีเป็นเงินไทยราว 125 ล้านบาทในครึ่งปีแรก อ้างอิงจากรายงานของ Binance นอกจากนี้ยังมีหลักฐานอีกมากมายที่สนับสนุนการยอมรับในสถาบันคริปโต ไม่ว่าจะเป็นการทดลองใช้งานที่มากขึ้นในคริปโตที่ออกโดยธนาคารกลาง หรือ CBDC โครงการบล็อกเชนระดับองค์กร และการเพิ่มขึ้นของ real-world asset บนเครือข่ายบล็อกเชน

    ทั้งนี้ รายงานได้สรุปผลในเชิงบวก พร้อมระบุว่า “ตลาดได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเปิดตัวกองทุน “Bitcoin ETF” ที่ช่วยขับเคลื่อนกระแสของตลาด ในขณะที่ Bitcoin ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก และในครึ่งหลังของปี 2566 Binance คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นความก้าวหน้าของนวัตกรรม การนำไปใช้ ที่จะนำไปสู่อนาคตที่สดใสและก้าวหน้ามากขึ้น”

    

    อ่านเพิ่มเติม : FWD ประกันชีวิต เปิดตัว “CI Fixed Pay” ครั้งแรกของวงการประกัน เพิ่มความคุ้มครองโรคร้ายแรง ครอบคลุมทั้งระดับเริ่มต้นและรุนแรงตลอดชีพ

    ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine