บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศทิศทางธุรกิจ ปี 2568 “B.Grimm Towards 2025” เตรียมเม็ดเงินลงทุน 136,000 ล้านบาท สู่ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดระดับโลก เปิดตัวธุรกิจใหม่ Data Center เพิ่มกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียน 10 กิกะวัตต์ ภายในปี 2573 พร้อมจัดสรรแหล่งทุนของบริษัท 70,000 ล้านบาท รองรับการเติบโตระยะยาว
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เปิดเผยว่าในปี 2568 จะเป็นปีที่มุ่งเน้นการขยายการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ผู้นำพลังงานสะอาดและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี” หลังจากที่ผลดำเนินงานในปี 2567 ประสบความสำเร็จในการขยายกำลังผลิตโครงการโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะโครงการพลังงานหมุนเวียน
ภายใต้ยุทธศาสตร์องค์กร ปี 2568 บี.กริม พาวเวอร์ พร้อมเดินหน้าพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้ “ค่านิยมองค์กร” บี.กริม เพาเวอร์ ใน 4 เรื่องหลัก คือ ความเป็นมืออาชีพ, การมีทัศนคติที่ดี, ความร่วมมือกัน และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
แผนกลยุทธ์สำคัญปี 2568 ของ บี.กริม พาวเวอร์ ประกอบด้วย
1. การเติบโตของพลังงานหมุนเวียน และการขยายธุรกิจในระดับโลก ตั้งเป้ามีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนรวม 10 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 ผ่านการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังน้ำ พร้อมดำเนินการตามแนวทาง Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2593 ควบคู่กับการขยายธุรกิจในตลาดโลก อาทิ เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการร่วมทุน การเข้าซื้อกิจการ และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
2. การเป็นพันธมิตรด้านพลังงานสำหรับ Data Centers บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งสู่การเป็นพันธมิตรหลักในการจัดหาพลังงานให้กับ Data Centers ในประเทศไทย โดยร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เพื่อจัดหาพลังงานหมุนเวียนและให้บริการโซลูชั่นพลังงานครบวงจรรองรับความต้องการของ Data Centers ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ชลบุรี นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างกระบวนการเจรจาทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับศูนย์ข้อมูลขนาดรวม 310 เมกะวัตต์
3. การจัดสรรเงินทุน (Capital Allocation) อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการจัดสรรเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวและยั่งยืน โดยวางแผนการลงทุนในโครงการต่างๆ ในช่วงปี 2567-2573 มูลค่ารวมกว่า 136,000 ล้านบาท ซึ่งเน้นลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนถึง 85% ในขณะที่แผนการลงทุนเฉพาะส่วนทุนของ บี.กริม เพาเวอร์ จำนวน 70,000 ล้านบาท จะเป็นพลังงานหมุนเวียนถึง 94% โดยแหล่งที่มาของเงินลงทุนของ บี.กริม เพาเวอร์ มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน, การออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ และหุ้นกู้ทั่วไป, เงินกู้จากสถาบันการเงิน รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ และการขายสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ เผยว่า บี.กริม เพาเวอร์ ยังดำเนินกลยุทธ์การลงทุนด้วยการพิจารณาอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (EIRR) เป้าหมายอยู่ที่ 10-15% ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของเทคโนโลยีในแต่ละโครงการ ความน่าเชื่อถือของประเทศและผู้รับซื้อไฟฟ้า (Offtaker) รวมถึงความผันผวนของกระแสเงินสดที่คาดการณ์ไว้ และมุ่งเน้นการบริหารหนี้สินและทุนอย่างเหมาะสม โดยตั้งเป้าอัตราหนี้สินต่อทุนที่ 3.0 เท่าในช่วงเริ่มต้นของการจัดหาเงินทุนโครงการ พร้อมทั้งใช้ limited-recourse loan และ back-end equity
“เราให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงและยกระดับการลงทุนในภูมิภาคเอเชียและตลาดโลก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว” ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าว
เพื่อรองรับการก้าวสู่ผู้นำพลังงานสะอาด บี.กริม เพาเวอร์ ได้ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับเป้าหมายดังกล่าว แบ่งเป็น 3 กลุ่มงานได้แก่ กลุ่มธุรกิจพัฒนาพลังงานหมุนเวียน, กลุ่มธุรกิจในประเทศไทยและโซลูชั่นธุรกิจอุตสาหกรรม และกลุ่มงานการเงินและบัญชี ภายใต้การนำทัพของ ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บี.กริม เพาเวอร์ และ 3 ผู้บริหารระดับสูง ได้แก่ พีรเดช พัฒนจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน, นพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจในประเทศไทยและโซลูชั่นธุรกิจอุตสาหกรรม และศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร งานการเงินและบัญชี
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : TISCO ESU คาดปี 68 เศรษฐกิจไทยโต 3% แนะลงทุนเน้นหุ้นสหรัฐฯ เพราะหุ้นไทยน่าสนใจน้อยลง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine