หลังการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุดปลายเดือน เม.ย. 68 ซึ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ครั้งนี้ธนาคารแรกที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พบว่าเป็นธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยฝั่งเงินฝากและเงินกู้ผ่านเว็บไซต์ของตนเอง โดยมีผลวันที่ 8 พ.ค. 68 ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระหว่าง 3 ถึง 36 เดือนปรับลดลงสูงสุด 0.30% ต่อปี
ขณะที่ฝั่งสินเชื่อปรับลดลสูงสุด 0.10% ได้แก่
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) 6.75% ต่อปี ลดลง 0.075% จากเดิมที่ 6.825% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) 7.00% ต่อปี ลดลง 0.10% จากเดิมที่ 7.10% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) 6.90% ต่อปี ลดลง 0.05% จากเดิมที่ 6.95% ต่อปี
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยฝั่งเงินฝากและเงินกู้ผ่านเว็บไซต์ของตนเอง โดยมีผลวันที่ 16 พ.ค. 68 ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระหว่าง 3 ถึง 36 เดือนปรับลดลงสูงสุด 0.20% ต่อปี
ด้านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อสูงสุด 0.10% ได้แก่
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) 7.00% ต่อปี ลดลง 0.055% จากเดิมที่ 7.055% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) 6.975% ต่อปี ลดลง 0.10% จากเดิมที่ 7.075% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ 7.120% ต่อปี ลดลง 0.055% จากเดิมที่ 7.175% ต่อปี
ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยฝั่งเงินฝากและเงินกู้ โดยมีผลวันที่ 19 พ.ค. 68 ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระหว่าง 3 ถึง 36 เดือนปรับลดลงสูงสุด 0.20% ต่อปี
ด้านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อสูงสุด 0.15% ได้แก่
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) 6.750% ต่อปี ลดลง 0.075% จากเดิมที่ 6.825% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) 6.925% ต่อปี ลดลง 0.15% จากเดิมที่ 7.075% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ 7.025% ต่อปี ลดลง 0.05% จากเดิมที่ 7.075% ต่อปี
ภาพ: BBL, BAY, SCB, ออกแบบภาพปกโดย ธัญวดี นิรุติศาสตร์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ธ.กสิกรไทยประกาศปรับลดดอกเบี้ยฯ 2 ขา 'เงินกู้ลดสูงสุด 0.15% - เงินฝากลดสูงสุด 0.20%'
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine