แบงก์ชาติ – ก.ล.ต. – คลัง ออกเกณฑ์คุม สินทรัพย์ดิจิทัล เปิดร่างกฎหมายห้ามใช้ชำระสินค้าและบริการ พร้อมเปิดรับความคิดเห็นถึง 8 ก.พ.นี้ ผู้ให้บริการต้องปฏิบัติตามภายใน 15 วันหลังกฎหมายประกาศใช้ ระบุบทลงโทษตั้งแต่ 1 หมื่นถึง 3 แสนบาท
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกระทรวงการคลัง (กค.) ได้หารือร่วมกันถึงประโยชน์และความเสี่ยงของ สินทรัพย์ดิจิทัล และเห็นความจำเป็นในการกำกับดูแลและควบคุมการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศ
สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธปท. กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัลได้ขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจในลักษณะให้บริการ ชักชวนหรือแสดงตน ว่าพร้อมจะให้บริการแก่ร้านค้าและผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น จัดทำระบบและโฆษณาเชิญชวนร้านค้า
การที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในลักษณะดังกล่าว อาจส่งผลให้เกิดการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการเป็นวงกว้าง นอกเหนือจากวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงเป็นความเสี่ยงต่อประชาชนและธุรกิจ อาทิ ความเสี่ยงจากการสูญมูลค่าที่เกิดจากความผันผวนของราคา ความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน
หน่วยงานกำกับดูแลตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบดังกล่าว จึงพิจารณาใช้อำนาจตามกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าหรือบริการในวงกว้าง และจะมีแนวทางกำกับดูแลที่เหมาะสม สำหรับบริการที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทที่เป็นประโยชน์ต่อนวัตกรรมทางการเงินและไม่สร้างความเสี่ยงเชิงระบบที่กล่าวถึงข้างต้น โดยคำนึงถึงทั้งการเพิ่มศักยภาพของระบบการเงินของประเทศ และประโยชน์ของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ โดยหน่วยงานกำกับดูแลจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและประชาชนต่อไป
เปิดร่างหลักเกณฑ์คุมใช้เงินดิจิทัล
เตรียมพิจารณา สเตเบิลคอยน์
สิริธิดา กล่าวว่า ปัจจุบัน หลักเกณฑ์การคุมสินทรัพย์ดิจิทัลในแต่ละประเทศอยู่ระหว่างการพิจารณาบังคับใช้ที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ เช่น เอกวาดอร์ มีการเปิดให้ใช้อย่างเต็มที่ ขณะที่จีนห้ามใช้ทุกประเภท สำหรับไทยอยู่ในระดับกลาง ๆ โดยพิจารณาถึงความเหมาะสม ระหว่างประโยชน์และความเสียงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งในกรณีสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถอนุญาตให้ได้ เช่น สเตเบิล คอยน์ ที่มีใช้สกุลเงินเป็นสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งหลายประเทศกำลังพิจารณาให้สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ ไทยก็จะมีเงินบาทดิจิทัลเช่นกัน โดยจะมีหลักเกณฑ์ในการอนุญาตตามมา อ่านเพิ่มเติม: Non-Fungible Token (NFT) และโอกาสสร้างคุณค่าให้เศรษฐกิจไทยไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine



