“อินเวสทรี” ชูแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิง เป็นทางเลือกใหม่เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย - SMEs ที่ประสบปัญหาในช่วงเศรษฐกิจผันผวน วอนรัฐออกเกณฑ์ส่งเสริมต่อเนื่อง สร้างโอกาสการเติบโตทั้ง SMEs และนักลงทุน
ณัทสุดา พุกกะณะสุต ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเวสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ได้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส ด้านการคลังเอเปค (APEC Senior Finance Officials’ Meeting : APEC SFOM) เมื่อเร็วๆ นี้ ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนที่ให้บริการคราวด์ฟันดิง แพลตฟอร์ม เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาระบบนิเวศของตลาดทุนเพื่อส่งเสริมการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ เพื่อสนับสนุนระดมทุนในตลาดทุน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตทั่วโลก และเป็นโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการรายย่อย จากรายงานของ International Finance Corporate (IFC) ธนาคารโลก ในปี 2017 พบว่าผู้ประกอบการ SMEs ไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้น้อย ช่องว่างในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนคิดเป็นประมาณร้อยละ 10 ของจีดีพี หรือมีมูลค่าสูงถึง 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท) ดังนั้นการส่งเสริมให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนานวัตกรรมและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งปัจจุบันการเข้าถึงบริการทางการเงินดิจิทัลกำลังเติบโตสูงทั่วโลก โดยในเอเชียแปซิฟิกมีสัดส่วน 8% ของตลาดโลก “ตามคำแนะนำของ IFC ภาครัฐควรเข้าช่วยสนับสนุนนวัตกรรมการเงินดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ทั่วถึง Financial Inclusion รวมถึงการสร้างฐานข้อมูลเครดิตกลาง ยิ่งขยายฐานมากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่ผู้ประกอบการจะเข้าถึงแหล่งเงินทุนยิ่งมีมากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือความไว้วางใจของผู้ที่ต้องการระดมทุนและผู้ลงทุน ที่ภาครัฐเข้ามาช่วยสร้างความเชื่อมั่น เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น” ณัทสุดากล่าว สำหรับข้อเสนอแนะที่ IFC เคยแนะนำให้หน่วยงานรัฐปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เช่น ภาครัฐควรเข้าไปกำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อแฟคตอริ่งให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มการเข้าถึงฐานข้อมูลเครดิตของผู้ให้บริการมากขึ้น รวมถึงควรพัฒนาให้หลักทรัพย์ค้ำประกันให้มีการเปลี่ยนมือได้ง่ายขึ้น ณัทสุดา กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างการปรับกฎหมาย National Credit Bureau (NCB) เพื่ออนุญาตให้คราวด์ฟันดิง แพลตฟอร์มสามารถเป็นสมาชิกได้ แต่ขณะเดียวกันคราวด์ฟันดิง แพลตฟอร์มนั้นๆ อาจต้องมีทุนจดทะเบียนสูงถึง 50 ล้านบาทถึงจะเป็นสมาชิก NCB ได้ ซึ่งเป็นระดับทุนจดทะเบียนที่เป็นอุปสรรคสำหรับ non-bank ที่จะเข้าเป็นสมาชิก อย่างไรก็ตามประเทศไทยได้พัฒนาระบบการเงินไทยมาระดับหนึ่งแล้ว และยังมีช่องว่างที่จะพัฒนาต่อยอดได้อีก
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine