แร็ปเปอร์ชื่อดัง “ขันเงิน ไทยเทเนียม” ทุ่ม 650 ล้านบาท ซื้อหุ้น MPIC 92.46% จากเมเจอร์ฯ - Forbes Thailand

แร็ปเปอร์ชื่อดัง “ขันเงิน ไทยเทเนียม” ทุ่ม 650 ล้านบาท ซื้อหุ้น MPIC 92.46% จากเมเจอร์ฯ

แร็ปเปอร์ชื่อดัง “ขันเงิน ไทยเทเนียม” ทุ่มงบ 650 ล้านบาท หวังต่อยอดธุรกิจเพลงในอนาคต เทคโอเวอร์ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป โดยการซื้อหุ้น 92.46% 

บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป หรือ MAJOR รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเข้าทำบันทึกข้อตกลงการซื้อขายหุ้นในสัญญาซื้อขายหุ้นที่บริษัทถืออยู่ในบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC จำนวน 1,202.13 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 92.46% ให้แก่ ขันเงิน เนื้อนวล หรือที่รู้จักในนาม ศิลปินแร็ปเปอร์ชื่อดัง ขันเงิน วงไทยเทเนียม ในราคาหุ้นละ 0.54 บาท รวมมูลค่าการซื้อขาย 650 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการซื้อขายด้วยวิธีการโอนหุ้นแบบมีใบหุ้น

    ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการตกลงซื้อขายหุ้นกันในครั้งนี้ ทาง ขันเงิน ได้ให้ ชินวัฒน์ อัศวโภคี ซึ่งเป็นที่ปรึกษา เข้าเจรจาและทำ MOU ซื้อขายหุ้น MPIC ให้กับตนเอง ซึ่งช่วงนั้นมีผู้สนใจหลายราย จึงจำเป็นต้องหาคนเป็นตัวแทนจับจองซื้อให้เอาไว้ก่อนเพื่อให้เกิดสัญญา และเมื่อความชัดเจนเกิดขึ้นในการซื้อขายหุ้นจึงได้ตัดสินใจเข้าสนใจซื้อหุ้น MPIC ดังกล่าวเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจได้ในอนาคต โดยในวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 คู่สัญญาจะดำเนินการตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร

    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน MPIC เป็นธุรกิจที่ลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านภาพยนตร์ ผ่านทางบริษัทย่อยต่างๆ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับการจัดซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ และธุรกิจผลิตภาพยนตร์ไทย เพื่อจัดจำหน่ายผ่านโรงภาพยนตร์ พร้อมทั้งการขายลิขสิทธิ์ให้สื่อทางทีวีในรูปแบบของ Cable TV, Free TV, Internet, IPTV, Video on Demand เป็นต้น

    สำหรับรายได้ของบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (MPIC) ช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 2.87 ล้านบาท ลดลง 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนรายได้ปี 2565 มีรายได้ 292 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท



อ่านเพิ่มเติม: ​เลือกตั้ง 66 TikTok มาแรง ครองยอด Engagement สูงสุด 63%


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine