"เอสซีบี เท็นเอกซ์" ประกาศร่วมลงทุนใน “Sunday” กลุ่มบริษัทอินชัวร์เทค เดินหน้าภารกิจ Moonshot Mission (มูนช็อต มิชชั่น) มุ่งลงทุนในบริษัทเทคคอมพานี และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลก
มุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “เป้าหมายของ SCB 10X คือ การต่อยอดสร้างธุรกิจใหม่ ท่ามกลางโลกธุรกิจยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ดังนั้น บทบาทหน้าที่ของ SCB 10X จะมุ่งเน้นการสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้านเทคโนโลยีผ่านการลงทุนที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ภายใต้ภารกิจที่เรียกว่า “Moonshot Mission” ผ่านหนึ่งในธุรกิจหลักคือ Venture Capital (VC) ซึ่งลงทุนในบริษัทเทค คอมพานี และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลก โดยมุ่งลงทุนใน 5 ธุรกิจหลัก คือ บริการด้านการเงิน (Fintech), เทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคตสำหรับการทำงานและไลฟ์สไตล์ (Future Digital of Working and Lifestyle), บริการสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี (Healthcare and Wellness), การเชื่อมโยงสู่โลกอินเทอร์เน็ตInternet of Things (IoT-enabled world) และเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech)” “SCB 10X มีความยินดีที่ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนหลักของซันเดย์ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพ ขยายธุรกิจและเติบโตอย่างรวดเร็ว มีความสามารถในการนำดาต้าและเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัย อีกทั้งยังเป็นกลุ่มบริษัทอินชัวร์เทคแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีใบอนุญาตสำหรับให้บริการรับประกันภัยทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ประกอบกับการที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีผู้ใช้งาน Mobile Internet มากที่สุดในโลกเป็นจำนวนกว่า 360 ล้านผู้ใช้งาน นั่นทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับบริษัทด้านประกันภัยและเทคโนโลยีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแบบรายบุคคลให้กับลูกค้า” มุขยา พานิช กล่าวเสริม
“ซันเดย์” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2560 และได้ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันภัยรถยนต์ การให้บริการประกันสุขภาพกลุ่ม และการขยายการรับประกันสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้รูปแบบการขายทั้ง B2B และ B2B2C ซึ่งในปัจจุบัน “ซันเดย์” มีอัตราการเติบโตมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเป้าที่วางไว้
แม้ว่าภาวะเศษฐกิจปัจจุบันจะมีการถดถอยเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม ลูกค้าองค์กรและ SME ต่างๆ ยังคงมอบความไว้วางใจและใช้บริการของ “ซันเดย์” อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประกันสุขภาพกลุ่มยังเป็นสิทธิประโยชน์อันดับต้นๆ ที่พนักงานองค์กรต้องการเมื่อเทียบกับสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ด้วยเหตุนี้เอง ส่งผลให้บริการประกันสุขภาพกลุ่มของ “ซันเดย์” มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันลูกค้าที่อยู่บนแพลตฟอร์มของซันเดย์มีกว่า 100,000 ราย และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
นอกจากนี้ในช่วง 3 - 4 เดือนที่ผ่านมา “ซันเดย์” ได้เดินหน้าพัฒนาบริการใหม่อย่างต่อเนื่องและพร้อมให้ลูกค้าได้งานใช้จริง ได้แก่ บริการวิเคราะห์อาการป่วย (Disease symptom checker) ด้วย AI และแมชชีนเลิร์นนิง บนซูเปอร์แอปฯ ของซันเดย์ ภายใต้ชื่อ Sunday Service อีกทั้งยังมีบริการเคลมประกันรถยนต์ด้วยตัวเอง (Claims notification for vehicle damages) ภายในแอปฯ เดียวกันเพื่อช่วยให้การเคลมรถยนต์ของลูกค้าเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการด้านสุขภาพแบบครบวงจรเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) ผ่านแพลทฟอร์มที่เชื่อมต่อ API กับพาร์ทเนอร์ต่างๆ บริการจัดส่งหรือรับยาตามใบสั่งยาจากแพทย์ (Medication delivery) และบริการแนะนำสถานพยาบาล (Recommend hospital) ที่ใช้การเชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อแนะนำโรงพยาบาลที่เหมาะสมในการรักษาโรคต่างๆ
อ่านเพิ่มเติม: สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย จัดงานสัมมนา หาทางรอดหลังวิกฤตโควิด-19
ไม่พลาดบทความด้านกลยุทธ์องค์กรและธุรกิจ ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine


