"สิงห์ เอสเตท" เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 3 ปี ที่ 5.00% ต่อปี เสนอขาย 8-10 ส.ค. 66 - Forbes Thailand

"สิงห์ เอสเตท" เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 3 ปี ที่ 5.00% ต่อปี เสนอขาย 8-10 ส.ค. 66

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” ประกาศอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 3 ปี ที่ระดับ 5.00% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน พร้อมเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไประหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม 2566 ด้านสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายเผยกระแสตอบรับดีมาก สะท้อนความเชื่อมั่นในแผนการดำเนินธุรกิจภาพรวม และยังมั่นใจใน “แบรนด์” ของสิงห์ เอสเตท ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการบริหารที่ยึดหลักบรรษัทภิบาลหลังได้รับการประเมินของ IOD ในระดับ 5 ดาวหรือ “ดีเลิศ”

    

    บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ "S" ออกหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี โดยแต่งตั้งสถาบันการเงินชั้นนำ จำนวน 4 แห่ง เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 ที่ระดับ “BBB” ซึ่งเป็นกลุ่ม “ระดับลงทุน” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) 

    สำหรับ บมจ.สิงห์ เอสเตท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุม ธุรกิจโรงแรม ภายใต้การบริหารงานของ "เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท" (SHR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน SHR เป็นเจ้าของโรงแรมทั้งสิ้นจำนวน 38 แห่ง ห้องพัก 4,552 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญกระจายอยู่ใน 3 ภูมิภาค 5 ประเทศ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย บริษัทฯ มีนโยบายในการพัฒนาทั้งแนวสูงและแนวราบหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ได้แก่ ศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานให้เช่า ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนอยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน

    ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ "S" เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สิงห์ เอสเตท มุ่งมั่นขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสร้างสังคมที่มีคุณภาพชีวิตกับทุกคน (inclusive growth) ภายใต้วิสัยทัศน์สร้างความหลากหลายที่สมดุล เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน (Sustainable Diversity) 

    โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายสร้างการเติบโตด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “S EXCELS”  เพื่อผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นหุ้นยั่งยืนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ "ดีเลิศ" (Excellent CG Scoring) และล่าสุดได้รับรางวัล Most Admired Company ในสาขาความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเชื่อว่า ทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ลงทุนมั่นใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ

    ด้านสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ บมจ.สิงห์ เอสเตท กล่าวว่า หุ้นกู้ สิงห์ เอสเตท ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากผู้ลงทุน ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักคือความเชื่อมั่นในแผนการดำเนินธุรกิจในภาพรวม บนกลยุทธ์การกระจายธุรกิจที่หลากหลายและมีโอกาสสร้างการเติบโตในอนาคต รวมถึง “แบรนด์” ที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศของ สิงห์ เอสเตท อีกทั้งผู้ลงทุนยังมั่นใจในความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ที่มีความเข้มแข็งทั้งโครงสร้างธุรกิจ ฐานะการเงิน และการดำเนินการภายใต้หลักบรรษัทภิบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนแสวงหา ขณะเดียวกัน อายุของหุ้นกู้ที่เหมาะสม สอดคล้องกับผลตอบแทนที่น่าพอใจ ทำให้หุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้รับการตอบสนองอย่างดีจากผู้ลงทุนประชาชนรายย่อย

    ทั้งนี้ หุ้นกู้ สิงห์ เอสเตท จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนในระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม 2566 ผ่าน 4 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่

    - ธนาคารกรุงเทพ  (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือโทร.1333

    - ธนาคารกรุงไทย โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT

    - ธนาคารกสิกรไทย (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร 02-888-8888 กด 819

    - บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร โทร. 02-165-5555 หรือ Application DIME

    

    อ่านเพิ่มเติม : บุกแดนภารตะ จุดหมายใหม่ของนักลงทุนทั่วโลก

    ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine