ยูโอบีเดินกลยุทธ์ธนาคารแห่งอาเซียน โฟกัสไทยขยายโมเดล “Business Circle” - Forbes Thailand

ยูโอบีเดินกลยุทธ์ธนาคารแห่งอาเซียน โฟกัสไทยขยายโมเดล “Business Circle”

ความยากในการส่งต่อธุรกิจครอบครัวมักสะดุดในรุ่นที่สาม ด้วยโจทย์ที่ว่าจะบริหารกิจการอย่างไรให้เก่งกว่ารุ่นปู่และรุ่นพ่อ ถือเป็นอุปสรรคที่เจนเนอเรชั่นสามต้องก้าวข้ามความท้าทายไปให้ได้

    

    ธนาคารยูโอบีเป็นอีกหนึ่งธุรกิจครอบครัวที่ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการสืบทอดกิจการในรุ่นที่สามเช่นเดียวกัน จึงรับรู้ถึงความยากเหล่านี้เป็นอย่างดี  ทีมบริหารปัจจุบันพยายามสร้างการเติบโตด้วยเป้าหมายการเป็นธนาคารแห่งอาเซียน UOB One Bank for ASEAN วางตำแหน่งตัวเองเป็นสถาบันการเงินที่พร้อมสนับสนุนและสร้างการเติบโตไปกับหลายประเทศในอาเซียน หลังจากมีประสบการณ์ยาวนาน ทำธุรกิจธนาคารกว่า 88 ปีในสิงคโปร์ กว่า 70 ปีที่มาเลเซีย และกว่า 25 ปีในประเทศไทย

    โมเดลที่ธนาคารยูโอบีนำมาใช้เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของภาคธุรกิจไปพร้อมกับจุดขายของการเป็นธนาคารแห่งอาเซียนคือ โครงการ Business Circle หรือโครงการการสร้างเครือข่ายธุรกิจ ที่เริ่มต้นขึ้นในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 เพียงเล็กน้อย คือในปี 2562 โดยเปิดตัวโครงการนี้อย่างเป็นทางการที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นฐานธุรกิจหลักของยูโอบี ขณะเดียวกันก็ได้ทดลองทำในประเทศไทยไปพร้อมกันอย่างไม่เป็นทางการ

    ผ่านมา 4 ปี Business Circle ที่สิงคโปร์มีสมาชิกเครือข่ายนักธุรกิจมากกว่า 1,000 ราย ในจำนวนนี้กว่า 80% เป็นคนหนุ่มสาววัย 30-40 ปี ส่วนประเทศไทยหลังทดลองเปิดอย่างไม่เป็นทางการปัจจุบันมีสมาชิกราว 65 ราย และมีเป้าหมายว่าภายในสามปีจะเพิ่มสมาชิกให้ได้ 200 ราย ด้วยความเชื่อมั่นและมุมมองที่ดีต่อภาคธุรกิจไทยและภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ

    

เปิดไทยประเทศที่สอง

    

    ล่าสุดทีมผู้บริหารธนาคารยูโอบีทั้งในไทยและสิงคโปร์ ประกอบด้วย Eric Lian Head of Group Commercial Banking ธนาคารยูโอบี Tan Choon Hin กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย และอัมพร ทรัพย์จินดาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่พาณิชย์ธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้ร่วมกันเปิดเผยรายละเอียดโครงการ Business Circle ในโอกาสเปิดตัวโครงการ Business Circle อย่างเป็นทางการขึ้นในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนองค์กรให้แก่ทายาทธุรกิจครอบครัว 

    โดยผู้เข้าร่วมโครงการ จะได้สิทธิพิเศษในการเข้าร่วมงานสัมมนาแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการบริหารธุรกิจ พร้อมโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระดับภูมิภาคผ่านกิจกรรม networking รวมไปถึงบริการโซลูชันทางการเงินที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจากธนาคารยูโอบี โดยการเป็นสมาชิกจะไม่มีค่าใช้จ่ายแรกเข้าใดๆ แต่จะมีค่าใช้จ่ายจากกิจกรรมที่เข้าร่วมในวาระต่างๆ

Eric Lian Head of Group Commercial Banking ธนาคารยูโอบี


    การเปิดตัวโครงการ Business Circle เนื่องจากยูโอบี มองว่าธุรกิจครอบครัวมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ก่อให้เกิดการพัฒนาทางสังคมและการจ้างงาน โดยพบว่าสัดส่วนถึง 57% ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นธุรกิจครอบครัว และกลุ่มนี้ยังมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมมาถึง 43% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งหมด

    นอกจากนี้ยังพบว่า ธุรกิจไทยมีความสนใจในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศเพื่อต่อยอดการเติบโต อ้างอิงจากรายงาน UOB Business Outlook Study 2023 (SME and Large Enterprises) พบว่า 9 ใน 10 ของธุรกิจให้ความสนใจมองหาโอกาสขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยมีแรงจูงใจที่ชัดเจน จากการเพิ่มรายได้ แสวงหากำไร และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร โดยประเทศเป้าหมายที่ต้องการขยายไปได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย รวมถึงจีน นับเป็นจุดหมายหลักที่ธุรกิจไทยต้องการขยายตลาดไปมากที่สุด และนอกจากนี้ยังพบว่ากว่า 1 ใน 3 สนใจจะขยายธุรกิจไปนอกภูมิภาคเอเชีย


Tan Choon Hin กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย


    Tan Choon Hin กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารเข้าใจถึงความมุ่งมั่นของทายาทรุ่นใหม่ ที่ต้องการให้ธุรกิจครอบครัวเติบโตไปข้างหน้า เพราะธนาคารยูโอบีเติบโตมาจากรากฐานของการเป็นผู้ประกอบการ และมีส่วนร่วมในการสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น โครงการ Business Circle ในประเทศไทยถือเป็นการนำความเชี่ยวชาญของธนาคารในฐานะธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค ที่มีรากฐานที่หยั่งลึกในประเทศไทยมาสนับสนุนธุรกิจ โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดอุปสรรคและเติมเต็มความต้องการทางธุรกิจให้แก่ลูกค้าของยูโอบี ที่ต้องการเติบโตทั้งในประเทศและในประเทศเพื่อนบ้าน โดยยูโอบีพร้อมจะอยู่เคียงข้างธุรกิจในทุกๆ ก้าวของการเดินทางเพื่อผลักดันให้เกิดการขยายธุรกิจไปข้างหน้า

    โดยผู้เข้าร่วมโครงการ Business Circle จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมงานสัมมนาแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการบริหารธุรกิจ และกิจกรรมเวิร์กชอปที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาและอุปสรรคที่ธุรกิจต้องเผชิญ อาทิ กลยุทธ์ในการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ และแนวทางในการนำพาธุรกิจเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ธนาคารยังมีแผนที่จะจัดให้ผู้เข้าร่วมโครงการเดินทางไปดูงานทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำองค์กรที่หลากหลายสู่การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในอนาคต

อัมพร ทรัพย์จินดาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่พาณิชย์ธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย


    โครงการ Business Circle เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศสิงคโปร์เมื่อปี 2562 โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเชื่อมต่อทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ภายในภูมิภาคอาเซียนไปสู่การสร้างเครือข่ายและขยายโอกาสทางธุรกิจ โครงการนี้ขับเคลื่อนด้วยสามหัวข้อหลัก ที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตไปข้างหน้า ได้แก่ การเชื่อมโยง (Connectivity) การปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digitalisation) และความยั่งยืน (Sustainability)

    โดยสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม ทักษะในการบริหารองค์กร และแนวคิดในการดำเนินธุรกิจจากผู้บริหารและผู้ประกอบการชั้นนำที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ โครงการ Business Circle จะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยในการสร้างคอนเนคชันกับสมาชิกข้ามอุตสาหกรรม ข้ามพรมแดน และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสมาชิกด้วยกันในทุกประเทศหลักที่ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจ

    ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นนักธุรกิจและทายาทธุรกิจรุ่นใหม่เข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 คนในทุกประเทศที่ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจ กว่า 500 สาขา ซึ่งประกอบด้วย จีน อินโดนิเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ธนาคารยูโอบีมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการนี้ในประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียต่อไปในอนาคต ยูโอบีให้ความสำคัญกับประเทศไทย และมองเห็นโอกาสที่ดีจึงเปิดโครงการนี้ขึ้นในประเทศไทยเป็นประเทศที่สองต่อจากสิงคโปร์

    

ก้าวข้ามอุปสรรค

    

    “เราเป็นแบงก์ใหญ่ในภูมิภาค ช่วยขยายธุรกิจหน่วยงานลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ มีความรู้และช่วยดูแลทั้งเรื่องกฎหมาย ภาษี ของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน” กรรมการผู้จัดการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบีประเทศไทยกล่าวและว่าโครงการ Business Circle ในไทยมีกิจกรรมเครือข่ายบ้างแล้ว เช่นได้นำสมาชิกไปร่วมงานที่อิสราเอล และได้ลงทุนในกิจการสตาร์ทอัพใหม่ๆ และที่ผ่านมายังทำให้เกิดการจับคู่ธุรกิจสิงคปร์กับธุรกิจการเกษตรของไทยไปตั้งโรงงานในอินโดนีเซีย จะเห็นว่าเกิดโอกาสใหม่ๆ ขึ้นมาจากโครงการสร้างเครือข่ายธุรกิจนี้ ซึ่งเห็นผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
“สำนวนจีนกล่าวไว้ว่า แค่เริ่มธุรกิจก็ยากแล้ว ยังต้องมาเรียนรู้เทรนด์ใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย” นายใหญ่ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยย้ำและว่าดังนั้น โครงการนี้จึงต้องมีพันธมิตรที่จะมาให้ความรู้กับสมาชิก ซึ่งนอกจากเครือข่ายนักธุรกิจแล้ว Singapore SME Managment University เป็นสถาบันการศึกษาที่เป็นพันธมิตรร่วมถ่ายทอดความรู้การทำธุรกิจให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ

    นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ประเทศอาเชียนมีอุปสรรคปัญหาหลายอย่าง ประเทศในอาเซียนก้าวผ่านผลกระทบปัจจัยลบมมาได้ อยู่บนพื้นฐาน 3 แกนสำคัญ คือเครื่องของเครือข่ายและการเชื่อมโยงธุรกิจ (Connectivity) การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digitalization) และการพัฒนาด้านความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งในส่วนของยูโอบี ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนอย่างมาก และมีโปรดักต์ทางการเงินเกี่ยวกับความยั่งยืนออกมาช่วยกระตุ้นให้ภาคธุรกิจให้ความสำคัญเรื่องเหล่านี้ เป็นสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน ทั้งกรีน และเอีเอสจี


    โครงสร้างของ Business Circle จะเป็นการสร้างระบบให้สมาชิกได้มาเจอกัน เพื่อนำไปสู่ไอเดียใหม่ๆ ด้วยการจัดอีเวนต์ทุกครั้งที่ทุกคนมาเจอกัน ย่อมมีโอกาสใหม่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มคนนิวเจน มักมีธุรกิจไม่ใช่อย่างเดียวอยู่แล้ว การมีธุรกิจที่หลากหลายยิ่งได้มาเจอกันและร่วมทริปข้ามประเทศจะยิ่งเพิ่มโอกาสใหม่ๆ

    อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะเป็นการเชิญเข้าร่วมโครงการ โดยธนาคารฯ จะเป็นฝ่ายเชิญให้นักธุรกิจเข้าร่วมโครงการ ด้วยหลักการคือคัดเลือกจากทายาทธุรกิจที่ร่วมบริหการกิจการมาแล้ว 5-8 ปี โดยเฉพาะคนที่ดูงานบริหารต่างประเทศ หรือหากนักธุรกิจรายใดคิดว่าสนใจและมีคุณสมบัติข้างต้นก็สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้เช่นกัน ขนาดธุรกิจจะเน้นกลุ่มเอสเอ็มอีที่มียอดขายตั้งแต่ 240 ล้านบาทขึ้นไป

    “สมาชิกส่วนใหญ่เป็นทายาทธุรกิจเจนสาม อายุ 30 -40 ปี บางคนเข้ามาตั้งแต่อายุ 25 พวกเขามีเป้าหมายคล้ายกัน คือทำอย่างไรให้พ่อแม่เห็นว่าตัวเองเก่ง มองหาวิธีการบริหารทีมให้มีประสิทธิภาพ และมองเรื่องการปฏิวัติทีมงานสู่เป้าหมายความเป็นเลิศ” ผู้บริหารยูโอบี ย้ำคุณสมบัติและเป้าหมายของสมาชิกส่วนใหญ่ในโครงการ Business Circle

    

    อ่านเพิ่มเติม : กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ อัดแคมเปญใหญ่รุกตลาดสินเชื่อผ่อนชำระ ตั้งเป้ายอดเติบโต 10%

    ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine