บริษัท ดาโอ ดิจิตัล พาร์ทเนอร์ จำกัด ในเครือของกลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท อินเตอร์โอเปร่า (InterOpera Pte. Ltd.) ประเทศสิงคโปร์ เพื่อพัฒนาบริการทางการเงินรองรับการเติบโตของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ความร่วมมือในครั้งนี้ ดาโอ ดิจิตัล พาร์ทเนอร์ จะมีบทบาทเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะ (smart contract) ส่วน อินเตอร์โอเปร่าจะให้การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชนและคำปรึกษาเกี่ยวกับการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน (tokenization)
ซึ่งจะเอื้อให้ภาคเอกชนสามารถนำโครงการมาระดมทุนด้วยการออกโทเคนเพื่อการลงทุน (investment token) หรือนำสิทธิพิเศษมาส่งมอบให้กับลูกค้าในรูปของโทเคนเพื่อการใช้ประโยชน์ (utility token) อันจะนำไปสู่การเติบโตของภาคธุรกิจในประเทศไทย
อิศรา พุฒตาลศรี ตัวแทนจากกลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า “ดาโอ ดิจิตัล พาร์ทเนอร์ มีบทบาทเป็นองค์กรหลักภายใต้กลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย) ในการขับเคลื่อนธุรกิจการให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อตอบสนองความสนใจของกลุ่มผู้ลงทุนไทย ความร่วมมือกับอินเตอร์โอเปร่าจะสนับสนุนให้เราสามารถพัฒนาบริการออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยมาตรฐานเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน”
ด้าน วิล ลี ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารบริษัท อินเตอร์โอเปร่า ระบุว่า “ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับกลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย) ผ่าน ดาโอ ดิจิตัล พาร์ทเนอร์ จำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญ ด้วยเราเชื่อว่าตลาดเงินสามารถเปิดกว้างให้ผู้ลงทุนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราที่ต้องการเห็นการเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่น”
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่แข็งแกร่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีโครงสร้างการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจที่ชัดเจน นับตั้งแต่การออกพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เป็นต้นมา ทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแพร่หลาย
อ่านเพิ่มเติม: ดีลอยท์ เผย เมตาเวิร์ส ช่วยดัน GDP ในเอเชียพุ่งสูงถึง 1.4 ล้านล้านเหรียญต่อปี
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
