Michael Ackland ยึดหลักสร้างธุรกิจ "สกินแคร์" ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและวิทยาการ - Forbes Thailand

Michael Ackland ยึดหลักสร้างธุรกิจ "สกินแคร์" ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและวิทยาการ

จากความสนใจในเรื่องสารสกัดจากธรรมชาติและความต้องการมอบของขวัญในการดูแลผิวพรรณให้กับภรรยา ทำให้ Dr.Michael Kingsley Ackland ศัลยแพทย์จากบอสตัน เดินหน้าพัฒนาวิจัยผลิตภัณฑ์สกินแคร์ สร้างแบรนด์ MKA By Dr.Kingsley ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพเพื่อดูแลสุขภาพผิวชาวเอเชีย โดยมี “โคลนบริสุทธิ์” ที่มีต้นกำเนิดบนเกาะบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ในดินแดนป่าฝนที่ห่างไกลของแคนาดา เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างธุรกิจ


บอสตัน เมืองหลวงของรัฐ Massachusetts ในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นแหล่งที่รวบรวมนักวิจัยด้านไบโอเคมีคอลระดับแนวหน้าของโลกและเป็นเวลามากกว่า 30 ปีที่ Ackland ศัลยแพทย์จากเมืองนี้ได้รวบรวมนักวิจัยชั้นหัวกะทิจาก Boston University และ Massachusetts Institute of Technology: MIT เดินหน้าต่อยอดงานวิจัยเมื่อปี 2493 ที่เกี่ยวข้องกับ “โคลนบริสุทธิ์” ซึ่งมีต้นกำเนิดจากดินแดนป่าฝนที่ห่างไกลของแคนาดา ประเทศซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา


โดยโคลนเหล่านี้ถูกสะสมและทับถมจากลาวาภูเขาไฟที่เคยประทุเมื่อ 100 ปีที่ผ่านมาและอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นเขตพำนักของกลุ่มชนเผ่าพื้นเมือง สำหรับกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองโคลนบริสุทธิ์เหล่านี้เปรียบเสมือนเงินตราที่สามารถใช้แลกเปลี่ยนกันภายในกลุ่ม


นอกจากการทำงานด้านศัลยแพทย์แล้ว Ackland ยังชื่นชอบในการสอนด้านการแพทย์ทำให้เขาได้มีโอกาสเดินทางไปทั่วโลกเพื่อสอนวิชาด้านการแพทย์ให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงประเทศไทยที่ซึ่งเขาเคยเดินทางมาสอนยังมหาวิทยาลัยขอนแก่นและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่


และในเวลาต่อมาเขาได้แต่งงานกับภรรยาชาวไทยซื้อบ้านที่เชียงใหม่ใช้ชีวิตราว 6 เดือนระหว่างประเทศไทยและบอสตันและจากความต้องการดูแลผิวพรรณให้ภรรยา


Ackland จึงตัดสินใจนำงานวิจัยซึ่งเกี่ยวกับโคลนบริสุทธิ์เมื่อปี 2493 มาปัดฝุ่นอีกครั้ง รวบรวมนักวิจัยคิดค้นและสกัดคุณสมบัติของโคลนบริสุทธิ์ดังกล่าวด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์กักเก็บสารอาหาร Microbiome และแร่ธาตุตามธรรมชาติที่อยู่ในโคลนบริสุทธิ์ ซึ่งการคิดค้นและวิจัยดังกล่าวกินเวลายาวนานราว 3 ปี จนได้ผลลัพธ์ที่เขามั่นใจเป็นอย่างมาก เขาจึงเริ่มต้นสร้างแบรนด์ MKA By Dr.Kingsley ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ก่อตั้งและจดทะเบียน บริษัท จันทร์นันนา จำกัด เมื่อปี 2563 ในประเทศไทย


“MKA มาจากอักษรแรกของตัวชื่อนามสกุลของผม ในครั้งแรกผมอยากจะใช้ชื่อแบรนด์ว่า perfect 4.0 ซึ่งภาษาในแวดวงการศึกษาวิจัย perfect 4.0 มีความหมายถึงการวิจัยที่สมบูรณ์ เป็นชื่อที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ แต่เมื่อเสนอชื่อให้คนใกล้ตัวกับไม่มีใครเห็นด้วยเพราะคนทั่วไปอาจจะไม่เข้าใจ” Ackland กล่าว



จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้แผนในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของเขาถูกเลื่อนออกและเมื่อต้นปี 2565 เขาจึงได้ทำการตลาดเปิดตัวผลิตภัณฑ์สกินแคร์ 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยเป็นแห่งแรก โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีส่วนผสมจากโคลนบริสุทธิ์เป็นหลัก ซึ่งหลังจากการเปิดตัวในประเทศไทยแล้วเขากำลังศึกษาและเตรียมทำตลาดในฟิลิปปินส์ ประเทศอื่นๆ ในกลุ่มตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง เกาหลีใต้


Ackland มีความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของส่วนผสมที่เขาได้คิดค้น แต่จุดเด่นหนึ่งที่เขามองว่าเป็นจุดเด่นหลักและเป็นความแตกต่างระหว่างแบรนด์ MKA By Dr.Kingsley กับแบรนด์อื่นๆ คือความลงตัวของส่วนผสมต่างๆ จากธรรมชาติที่นำมาผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเกิดเป็นผลลัพธ์อันดีสำหรับบำรุงผิวและเขาคิดว่าเขาทำมันได้ดี ซึ่งเงินลงทุนหลักแสนเหรียญสหรัฐฯ ที่เขาได้ลงทุน หมดไปขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาเป็นส่วนใหญ่


“ผมได้ทำการทดลองระหว่างการนำสกินแคร์ที่มีโคลนบริสุทธิ์กับไม่มี มาเปรียบเทียบหาผลลัพธ์และพบว่าสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของโคลนมีประสิทธิภาพในการดูแลผิวอย่างมีนัยยะและช่วยสภาพผิวให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น” Ackland กล่าวย้ำหลังจากที่ส่วนผสมของทั้ง 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ackland เริ่มต้นเดินหน้าหาผู้ผลิตครีมในประเทศไทยเพื่อทำการผลิต แต่สิ่งที่เขาพบคือสูตรลับของเขาปัดทิ้งและโรงผู้ผลิตนำเสนอสูตรจากโรงงานแทน แม้ทำให้เขาหัวเสียไปบ้างแต่สุดท้ายเขาก็ได้ค้นพบผู้ผลิตครีมที่สามารถผลิตสกินแคร์ตรงตามสูตรทั้งยังให้คำแนะนำด้านในการผลิต 


“ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดส่วนมากก็คงมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่เหมือนกันแค่ปิดฉลากแบรนด์ที่แตกต่างกัน” Ackland แสดงความคิดเห็น


ด้านแผนการตลาดในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ MKA By Dr.Kingsley ระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ เขาต้องการสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็ง เป็นแบรนด์ที่มีส่วนผสมช่วยเยียวยาและบำรุงผิวในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งการสร้างแบรนด์ในราคาที่จับต้องได้ทำให้เลือกทำการตลาดผ่านออนไลน์โดยมี เว็บไซต์ และ Facebook Fanpage เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับผู้บริโภค ทั้งยังจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง ช้อปปี้, ไลน์แอท เป็นต้น


“หากเรามีร้านสโตร์จะทำให้ราคาขายของสินค้าเพิ่มสูงมาก ขณะที่ส่วนผสมเราส่งตรงจากห้องผลิตและวิจัยในบอสตัน ออนไลน์มาร์เก็ตติ้งจึงช่วยให้ผู้บริโภคกลุ่ม Mid-luxury สามารถซื้อสินค้าในราคาที่เขาจับต้องได้”


หลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับผู้หญิงแล้วเขาเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับผู้ชาย เนื่องจากผิวพรรณผู้ชายแตกต่างจากผู้หญิงคาดว่าจะเปิดตัวราวปีหน้าในฐานะศัลยแพทย์ แพทย์ผู้ผ่าตัด มาตลอดชีวิตการทำงานมากกว่า 30 ปี เขาคุ้นเคยกับยาสังเคราะห์จากศาสตร์การผลิตแบบตะวันตก แน่นอนว่าศาสตร์จากวิทยาศาสตร์แบบตะวันตกกับศาสตร์การรักษาที่นำวัตถุดิบจากธรรมชาติมารักษาเป็นศาสตร์ที่แตกต่างกันตามความเชื่อ


สำหรับความเชื่อในเรื่อง “การรักษาโดยธรรมชาติ” ถูกซึมซับตั้งแต่วัยเด็กจากแม่ของเขาซึ่งชาวตะวันตกน้อยคนนักที่เชื่อแบบนั้นในเวลานั้น ทุกครั้งที่เดินทางไปยังประเทศต่างๆ เขาจึงสนใจในการรักษาจากธรรมชาติของท้องถิ่นนั้นๆ“ยาที่ได้มาจากการสังเคราะห์ควรจะถูกนำมาใช้เป็นสิ่งสุดท้าย สิ่งที่ควรทำคือการดูแลสุขภาพ หลีกห่างจากอาหารจานด่วน หลีกเลี่ยงแสงแดด ออกกำลัง จะช่วยให้สุขภาพร่างกายและผิวพรรณแข็งแรง แม้ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องยากก็ตาม”


ใน 3-5 ปีข้างหน้า Ackland อยากเห็น MKA By Dr.Kingsley เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคเลือกใช้จากเหตุผลในเรื่องคุณภาพของแบรนด์และกล่าวทิ้งท้ายว่า “อยากให้ผู้บริโภคศึกษาสกินแคร์ที่มาจากธรรมชาติด้วยตัวของเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์สินค้าใดๆ ก็ตามในท้องตลาดเพื่อให้รู้จักและเข้าใจที่มาของกระบวนการผลิตของแบรนด์นั้นๆ อย่างแท้จริง”ภาพ: MKA By Dr.Kingsley


อ่านเพิ่มเติม: นัชชา โอภากุล นำแพชชั่นปั้น JUX. ธุรกิจสกินแคร์รักษ์โลก


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine