การถูก disrupt ในภาคการศึกษาเมื่อการเรียนออนไลน์เข้ามาคุกคามมากขึ้น ความรู้ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ตลาดแรงงานต้องการบุคลากรจบใหม่ที่มีทักษะหลากหลาย รวมถึงทักษะด้านภาษาต่างประเทศ ทำให้สถาบันการศึกษาภาครัฐและเอกชนเร่งปรับตัว ขณะที่ธุรกิจการศึกษาในกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ แม้จะเจอกับการ disrupt อยู่บ้างแต่กลับเติบโตอย่างมาก เฉลี่ย 5-7% ต่อปี และมีมูลค่าสูงถึง 7 หมื่นล้านบาท
ความต้องการส่งบุตรหลานเรียนโรงเรียนนานาชาติมีมากขึ้นทุกปี ทำให้มูลค่าตลาดโรงเรียนนานาชาติเติบโตกว่า 7 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 6% ต่อปีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเฉลี่ย 7% ต่อปีในต่างจังหวัด โดยรายงานประจำปี 2565 ของ ISAT
คาดการณ์อัตราการเกิดของเด็กในยุคปัจจุบันจะถดถอยลง เพราะทุกครอบครัวเลือกจะมีบุตรหลานแค่ 1-2 คน และให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับการศึกษา การส่งบุตรหลานเรียนในหลักสูตรนานาชาติเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ปกครองในยุคปัจจุบัน
ขณะเดียวกันปัจจัยสนับสนุนจากต่างประเทศยังมีส่วนผลักดันให้ภาพรวมของธุรกิจนี้เติบโต ทั้งการควบคุมโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนนานาชาติในประเทศจีนที่เข้มงวดโดยกำหนดให้การเรียนการสอนในช่วงการศึกษาภาคบังคับ K9 ซึ่งเทียบเท่าระดับชั้นประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้นของไทยต้องเป็นโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาล อีกทั้งไม่อนุญาตให้โรงเรียนที่เปิดการสอนใช้หลักสูตรจากต่างชาติ ส่งผลให้ชาวจีนมีแนวโน้มที่จะส่งบุตรหลานไปเรียนโรงเรียนนานาชาติในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามีประเทศไทยเป็นจุดหมายด้านการศึกษา
นอกจากผู้ปกครองชาวจีน ในปัจจุบันยังมีแนวโน้มความต้องการส่งบุตรหลานไปเรียนต่อต่างประเทศมากขึ้นจากกลุ่มครอบครัวในประเทศ CLMV ที่มีฐานะดี ซึ่งโรงเรียนนานาชาติในไทยเป็นหนึ่งในทางเลือกสำคัญ เพราะการเดินทางสะดวก ค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนไม่สูงมาก
โรงเรียนนานาชาติดีมานด์สูง
นับจากปี 2538 ถึงปัจจุบันถือเป็นการเข้าสู่ยุคทองของธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นผลจากดีมานด์การส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติในไทยเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัวจากความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยที่มีกลุ่มรายได้สูง (High-net-worth Individuals หรือ HNWI) เพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติที่มีค่าใช้จ่ายสูงมากขึ้น
นอกจากนี้กระแส digital nomad หรือการเคลื่อนย้ายของชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยพร้อมครอบครัวทำให้มีความต้องการเลือกโรงเรียนนานาชาติสูงขึ้นจากชาวไทยและต่างชาติ พร้อมทั้งมุมมองของพ่อแม่ยุคใหม่ที่มองว่าหลักสูตรนานาชาติช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการทำงานเป็นทีมได้ดี
ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาจึง มีการเปิดตัวโรงเรียนนานาชาติใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ปกครองที่มองหาสถานที่เรียนให้แก่บุตรหลาน รวมจำนวน 234 โรงเรียน (ข้อมูลล่าสุด ณ ปี 2566) ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ 122 แห่ง (52%) และต่างจังหวัดอีก 112 แห่ง (47%) ทั้งในเชียงใหม่ 20 แห่ง ชลบุรี 13 แห่ง ภูเก็ต 12 แห่ง สมุทรปราการ 10 แห่ง นนทบุรี 8 แห่ง และสุราษฎร์ธานี 7 แห่ง รวมจำนวนนักเรียนทั้งประเทศ 69,000 คน โดยค่าเรียนต่อปีของโรงเรียนนานาชาติจะเริ่มที่ 500,000 บาทไปจนถึง 900,000 บาท ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นครอบครัวที่มีรายได้สูงและมีกำลังทรัพย์มากพอสำหรับการศึกษา
สำหรับหลักสูตรยอดนิยมของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยมีความโดดเด่นและยังมีทางเลือกหลากหลายให้ได้ตัดสินใจ โดยหลักๆ เปิดสอนใน 3 หลักสูตร คือ ระบบอเมริกัน ระบบอังกฤษ และระบบ IB หลักสูตรนานาชาติ ซึ่งขึ้นอยู่กับเป้าหมายการศึกษาของนักเรียน สไตล์การเรียนรู้ งบประมาณ และสถานที่ตั้งของโรงเรียน
ขณะที่ข้อมูลจาก Knight Frank’s the Wealth Report รายงานไว้อย่างน่าสนใจว่า ในช่วงปี 2559-2565 มีคนไทยที่มีความมั่งคั่งสูงเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี พร้อมกับคาดการณ์ว่ากลุ่มคนที่มีความมั่งคั่งสูงนี้จะขยายตัวเป็น 1.6 แสนคนในปี 2569 ยังไม่รวมถึงครอบครัวนักธุรกิจชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่มีความต้องการโรงเรียนนานาชาติไว้สำหรับบุตรหลาน
แนวโน้มของดีมานด์ด้านการศึกษาจากกลุ่มคนที่มีความมั่งคั่งสูงยังสอดรับกับการขยายตัวของโครงการบ้านหรูในช่วงปีที่ผ่านมา โดย SCB EIC รายงานว่าโรงเรียนนานาชาติส่วนใหญ่มีแผนเปิดโรงเรียนในพื้นที่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือและฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ สอดรับกับการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในตลาดบ้านเดี่ยวราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปในพื้นที่ดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนนานาชาติยังต้องเผชิญความท้าทายจากการแข่งขัน ซึ่งขนาดของโรงเรียนและภาพรวมธุรกิจยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม โดยระดับค่าเรียน 300,000-500,000 บาทต่อปีจะอยู่ในระดับกลาง ส่วน 600,000-900,000 บาทต่อปีจะเป็นระดับพรีเมียม ที่มีประมาณ 10 แห่ง จากภาพรวมทั้งหมด 234 แห่ง
ภารกิจเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย
การผสมผสานศาสตร์การบริหารอาณาจักรไทยสมุทรให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์บริหารโรงเรียนนานาชาติมากกว่า 2 ทศวรรษของ นุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานคณะกรรมการโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ และโรงเรียนนานาชาติไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ สร้างความเชื่อมั่นในการแข่งขันรับความท้าทายทางธุรกิจและโอกาสใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“ท่ามกลางความท้าทาย เราเชื่อว่าการศึกษาไทยต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก การ disrupt การศึกษาไทยจะช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 เตรียมความพร้อมให้นักเรียนสำหรับโลกอนาคต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี critical thinking พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่นในความแตกต่างทั้งวัฒนธรรม ภาษา ความคิด ไม่เกิดการเปรียบเทียบ และทุกคนสามารถเป็น the best version of yourself สร้างความภาคภูมิใจให้ตัวเอง” นุสราให้มุมมองเกี่ยวกับการศึกษาของไทยและธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ
ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์มี 2 วิทยาเขต ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ เขาใหญ่ และโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ กรุงเทพฯ โดยทั้ง 2 วิทยาเขตเปิดรับสมัครนักเรียนตั้งแต่อายุ 2-18 ปี
สำหรับโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ เขาใหญ่ ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา บริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นแบรนด์แรกของกลุ่มเครือไทยสมุทร ก่อตั้งขึ้นปี 2541 ภายใต้แนวคิด East meets West โดยใช้หลักสูตรการเรียนการสอนจากประเทศอังกฤษ English National Curriculum (ENC) โดยมีนักเรียนทั้งโปรแกรมอยู่ประจำและไป-กลับ เริ่มรับนักเรียนอยู่ประจำที่อายุ 8 ขวบ
“ในยุคนั้นหลายคนยังมีความกังวลว่าการเรียนนานาชาติจะทำให้เด็กไทยสูญเสียอัตลักษณ์ความเป็นไทย โรงเรียนเซนต์สตีเฟ่นส์ เขาใหญ่ จึงผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน ตอบโจทย์ผู้ปกครองที่ต้องการหล่อหลอมบุตรหลานให้ได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิต เน้นการพัฒนาองค์รวมผ่านหลักสูตร Life Long Learning ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น”
ส่วนเซนต์สตีเฟ่นส์ กรุงเทพฯ เป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งที่ 2 กับการเติบโตอย่างมั่นคงและได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเครือไทยสมุทรลงทุนกว่า 1 พันล้านบาทเพื่อขยายต่อเติมอาคารเรียนแห่งใหม่ในบริเวณที่ตั้งโรงเรียนเดิมสำหรับรองรับนักเรียนได้ถึง 1,500 คน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติที่ดีที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนนานาชาติไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ ที่เปิดในประเทศไทยปี 2559 ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา โดยมีความตั้งใจมอบประสบการณ์การเรียนระดับพรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่บุตรหลาน เปิดสอนเด็กอายุ 2-18 ปี เน้นการสอนระบบอังกฤษด้วยมาตรฐานระดับสากล พัฒนาเด็กๆ ให้พร้อมเป็นผู้นำในอนาคต ด้วยคอนเซปต์ “Be the Best Version of Yourself” เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง
เรื่อง: กัญสุชญา สุวรรณคร
ภาพ: โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ และโรงเรียนนานาชาติไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล KCG ทรานส์ฟอร์มรับเทรนด์โลก