Cha, Dong Ho รองประธานกรรมการบริหารอาวุโสและประธานกลุ่มธุรกิจจัดส่งพัสดุ ซีเจ โลจิสติคส์ และ Chung Chan Kyo กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเจ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยแผนการลงทุนเพื่อพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางและขยายเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ โดยวางยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทย ตั้งเป้าดัน CJ LOGISTICS ขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์ของประเทศไทยภายในปี 2563
CJ LOGISTICS ถือเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ครองสัดส่วนมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ การประกาศแผนการลงทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจจัดส่งพัสดุในประเทศไทย CJ เตรียมสร้างศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลาง และสาขาย่อยเพื่อให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ รองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ชูจุดเด่นบริการขนส่งพัสดุแบบไร้รอยต่อ คุณภาพสูง และไว้วางใจได้สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ โดยมีเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดขนส่งพัสดุไทยภายในปี 2563
Cha Dong-Ho รองประธานกรรมการบริหารอาวุโสและประธานกลุ่มธุรกิจจัดส่งพัสดุ CJ LOGISTICS กล่าวว่า
“ซีเจ โลจิสติคส์ เองมีประสบการณ์และความชำนาญด้านโลจิสติคส์ในประเทศเกาหลีใต้กว่า 88 ปี ด้วยเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกที่แข็งแกร่งและบริการที่ครอบคลุมเราจึงสามารถตอบสนองทุกความต้องการด้านการขนส่งและโลจิสติคส์”
Cha Dong-Ho กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีเจ โลจิสติคส์ ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2541 ปัจจุบันเราเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยและต้องการสนับสนุนตลาดนี้ด้วยธุรกิจขนส่งพัสดุของเราประเทศไทยจัดเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญต่อการเติบโตของซีเจ โลจิสติคส์ โดยภายใน 2 ปี เราได้เตรียมงบประมาณราว 5 พันล้านบาท เพื่อสร้างระบบแวดล้อมการทำงานและโครงการสร้างต่างๆ
โดยล่าสุดเราได้ลงทุนพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลาง ขนาด 71,900 ตารางเมตร ในเขตบางนา คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2562 และจะสามารถรองรับการจัดการพัสดุได้สูงสุด 408,000 ชิ้นต่อวัน และจากการติดตั้งระบบคัดแยกกล่องแบบอัตโนมัติ ‘Wheel Sorter’ ในศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่นี้ จะช่วยให้ CJ LOGISTICS สามารถรองรับการคัดแยกและลำเลียงกล่องพัสดุได้เพิ่มขึ้นอีก 10 เท่า จากที่ปัจจุบันสามารถรองรับได้เพียง 40,000 ชิ้นต่อวัน
“นอกจากการยกระดับศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางแล้ว ซีเจ โลจิสติคส์ ได้ขยายเครือข่ายจุดให้บริการอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีจุดให้บริการ 74 สาขาทั่วประเทศ มีพนักงานขับรถ 650 คน และสามารถรองรับการจัดการขนส่งพัสดุได้สูงสุด 40,000 ชิ้นต่อวัน ภายในปี 2561 นี้ ซีเจ โลจิสติคส์ จะเปิดจุดบริการเพิ่มอีก 4 สาขา ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดหัวเมืองหลักในภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยภายในปี 2563 บริษัทฯ จะขยายจุดบริการเพิ่มเป็น 147 สาขาครอบคลุมทุกหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนพนักงานขับรถเป็น 4,249 คน และยกระดับความสามารถในการรองรับการขนส่งพัสดุได้สูงสุด 300,000 ชิ้นต่อวัน” Cha Dong-Ho กล่าว
ด้าน
Chung Chan-Kyo กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเจ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเราให้การบริการขนส่งทางเรือ ทางอากาศ ทางถนน โดยให้บริการลักษณะ B2B เป็นหลัก ซึ่งราว 70 เปอร์เซ็นต์เป็นลูกค้าต่างประเทศจากกลุ่มผู้ประกอบการชาวเกาหลีเป็นหลัก อาทิ Samsung และ 30 เปอร์เซ็นต์เป็นลูกค้าชาวไทย โดยเป็นบริการทั้งการขนส่งผ่านการนำเข้า-ส่งออก การขนส่งภายในประเทศ ซึ่งการลงทุนครั้งใหญ่นี้จะนำมาซึ่งพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลาง และทำการแข่งขันในการส่งพัสดุภายในประเทศ ที่ปัจจุบันเรามีพาร์ทเนอร์ธุรกิจสำหรับส่งสินค้า อาทิ ลาซาค้า, COL (หรือ Central Online), O Shopping เป็นต้น ซึ่งในปี 2563 เราคาดการณ์ไว้ว่าสัดส่วนของบริการด้านการขนส่งพัสดุภายในประเทศไทยจะปรับให้สัดส่วนบริการคือมาอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์
ปัจจุบัน CJ LOGISTICS ครองส่วนแบ่งตลาดในประเทศเกาหลีใต้ถึง 50% แม้ธุรกิจในประเทศไทยจะยังไม่ถึงระดับเดียวกับในประเทศบ้านเกิดแต่ CJ LOGISTICS เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตสูงในตลาดไทย และพร้อมที่จะผลักดันอย่างเต็มที่ โดยอาศัยประสบการณ์และความชำนาญกว่า 25 ปี ในธุรกิจขนส่งพัสดุในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีพนักงานขนส่งสินค้ากว่า 20,000 คน และศูนย์ปฏิบัติการที่สามารถรองรับการจัดส่งพัสดุได้สูงสุด 6.2 ล้านชิ้นต่อวัน
ทั้งนี้
Cha Dong-Ho กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เราเชื่อว่าการติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งระบบอัตโนมัติ กระบวนการจัดการอย่างเป็นระบบ และระบบอัจฉริยะ รวมถึงระบบ AI Secretary System ที่นำมาใช้ในการบริหารจัดการตารางการขนส่งสินค้า เพื่อให้พนักงานขนส่งสินค้าสามารถบริหารจัดการเวลาได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของซีเจ โลจิสติคส์ ในประเทศไทย โดยเรามีเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายที่แข็งแกร่งให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทยมากยิ่งขึ้น พร้อมมอบบริการคุณภาพระดับสากลที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า
“ซีเจ โลจิสติก เข้ามาลงทุนด้วยความตั้งใจในประเทศไทยและต้องการพัฒนาในอุตสาหกรรมนี้พัฒนาขึ้นไปร่วมกับผู้แข่งขัน การเข้ามาในประเทศเรามาลงทุนแทบ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างโครงสร้างบริษัทเราปรับเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรของประเทศไทยเพื่อในเกิดการบริหารงานที่เหมาะสม” Cha Dong-Ho กล่าวทิ้งท้าย