Editor’sNote: Land of the Rising Sun - Forbes Thailand

Editor’sNote: Land of the Rising Sun

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน

ท่านเป็นหนึ่งในคนไทย 5 แสนคนที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นชื่นชมซากุระบาน ในวันหยุดช่วงสงกรานต์หรือเปล่าครับ Forbes Thailand ฉบับนี้ขอนำเรื่องราวของความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนของไทยและญี่ปุ่นมาเป็นเรื่องเด่นประจำฉบับ รับกับกระแส “เจแปนฟีเวอร์” ซึ่งว่าไปแล้ว ไทย และ ญี่ปุ่นนั้น มีสัมพันธ์กันมายาวนานหลายร้อยปีปัจจุบัน คนไทยยิ่งมีโอกาสเข้าถึงญี่ปุ่นมากขึ้น ภายหลังการยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศแก่นักท่องเที่ยวไทยเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่ 1 กรกฏาคม 2556 ญี่ปุ่นสำหรับไทยในวันนี้กำลังเต็มไปด้วยโอกาส หลังจากที่นายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย “ธนู 3 ดอก” ซึ่งการยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจากไทยและการเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ Abenomics ทั้งสิ้น กว่า 50 ปีของการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในไทย ได้สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทย สร้างงานและรายได้ต่อเนื่อง จนเกิดประชากรชนชั้นกลางมากมายที่มีรายได้พอที่จะซื้อตั๋วเครื่องบนราคาถูก และหลั่งไหลไปเที่ยวมากขึ้น เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ และการจ้างงานในดินแดนอาทิตย์อุทัย ในยามที่ประเทศเผชิญกับภาวะการชะงักงันทางเศรษฐกิจมากกว่า 2 ทศวรรษ ขณะ เดียวกัน โอกาสทางธุรกิจของคนไทยในญี่ปุ่นก็เปิดขึ้นไม่น้อย เช่น วิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นต้องเร่งหาโรงไฟฟ้าจากแหล่งเชื้อเพลิงอื่นมาทดแทน ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าของไทยหลายรายได้เข้าไปลงทุนในญี่ปุ่น หรือ การหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวไทย ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชาวไทยเห็นโอกาสสร้างรายได้จากธุรกิจโรง แรมรีสอร์ตในญี่ปุ่น ส่วนอนาคตของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตใน ภูมิภาคของญี่ปุ่น ที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า เราจะสูญเสียให้เพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม หรืออินโดนิเซียในเร็ววันนี้หรือไม่ เราพยายามหาคำตอบผ่านการพูดคุยกับหลายฝ่ายแล้วนำเสนอออกในบทวิเคราะห์ทีน่า สนใจทีเดียวครับ それでは、また次号でお会い致しましょう。 Soredewa, matajigoude oaitashimashou. แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ นพพร วงศ์อนันต์ Editor-in-Chief Forbes Thailand