เรือนเวลาที่มาพร้อมนิยามบทใหม่จาก House of Breguet สะท้อนถึงความรักด้วยรายละเอียดลูกเล่นโทนสีแดง ที่งดงามโดดเด่นอย่างกลมกลืนกับหน้าปัดสีขาวมุก mother-of-pearl ขอบหน้าปัดด้านในตกแต่งด้วยทับทิมสีแดงทำมือจำนวน 66 เม็ด พร้อมขอบหน้าปัดเรียงร้อยประดับเพชร คู่ไปกับเม็ดมะยมตกแต่งทับทิมเจียระไนทรงหลังเบี้ย หน้าปัดย่อยแบบ offset ถูกแต่งแต้มเป็นรูปหัวใจดวงเล็กๆ เข็มชั่วโมงและนาทีก็มาในสีแดงเช่นกัน เข้ากันอย่างลงตัวกับสายหนังอัลลิเกเตอร์สีแดง นอกจากนี้ ขานาฬิกาและตัวล็อคสายนาฬิกาก็ยังประดับเพชรด้วยมืออีกด้วย


กลไก
ณ ใจกลางหน้าปัดขนาด 33 มม. เป็นที่ตั้งของกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ 586/1 ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วน 180 ชิ้น สามารถสำรองพลังงานได้ 38 ชั่วโมง ขับเคลื่อนด้วยความถี่ 3 เฮิรตซ์ คาลิเบอร์ประกอบด้วยบาลานซ์สปริงที่ทำจากซิลิคอน ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติหลากหลาย นอกจากจะทนทานต่อการกัดกร่อนและการสวมใส่แล้วซิลิคอนยังไม่ตอบสนองต่อสนามแม่เหล็กด้วย ดังนั้นจึงช่วยให้กลไกมีความเที่ยงตรงยิ่งขึ้น ด้านชิ้นส่วนกลไก ไม่ว่าจะเป็นชิ้นที่อวดโฉมให้เห็นหรือแม้แต่ชิ้นที่มองไม่เห็นก็ตาม ทุกชิ้นล้วนผ่านการตกแต่งอย่างประณีตด้วยมือตามแบบฉบับของ Breguet ทั้งสิ้น ด้านหลังหน้าปัดไวท์โกลด์กรุคริสตัลแซฟไฟร์ เผยให้เห็นโรเตอร์แพลทินัม ที่ตกแต่งด้วยลาย Côtes de Genève (โกท เดอ เฌอแนฟ) และเทคนิคการลบเหลี่ยมคม (beveling) ของชิ้นส่วนกลไก

เรือนเวลาแห่งราชินี
ด้วยความหลงใหลในศิลปะ เมื่อครั้งทรงครองแคว้นเนเปิลส์ พระราชินีแคโรลีน มูราต์ (Caroline Murat) พระขนิษฐาในจักพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte) ทรงได้ให้การอุปถัมภ์สนับสนุนผลงานศิลป์ และยังทรงครอบครองนาฬิกาและนาฬิกาข้อมือ Breguet กว่า 30 เรือนอีกด้วย ในยุคสมัยที่สตรีสวมใส่นาฬิกาในรูปแบบสร้อยคอ พระราชินีแคโรลีน มูราต์ ได้ทรงมีพระราชดำริให้อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ (Abraham-Louis Breguet) รังสรรค์นาฬิกาแบบล้ำยุคขึ้น นั่นคือ นาฬิกาที่สำหรับสวมใส่บนข้อมือ ดังนั้นในปี 1810 อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ จึงได้เริ่มสร้างสิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกและชิ้นเดียวขึ้น นั้นคือนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก
ริเริ่มจากอิสตรี รังสรรค์โดยบุรุษ นาฬิกาแห่งประวัติศาสตร์เรือนนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี 1812 และผ่านการซ่อมแซมในปี 1849 และ 1855 ตามที่ปรากฏในบันทึกของ Breguet ซึ่งเมื่อไล่ย้อนดูตามประวัติศาสตร์และคุณลักษณะของนาฬิกาเรือนนี้ ปรากฏว่าไม่พบหลักฐานใดๆ อีกเลยในบันทึกหลังจากนั้น นาฬิการูปทรงไข่นี้หน้าปัดทำจากเงินสลักตกแต่งลวดลายกิลโยเช่ (guilloche) ดูงดงามหรูหราอย่างยิ่ง และยังประกอบด้วยกลไกขั้นสูงไม่ว่าจะเป็น minute repeater, moon phase แสดงข้างขึ้นข้างแรม และสายทำจากเส้นผมถักผสานกับเส้นด้ายทองคำ ที่ช่วยให้สามารถสวมใส่บนข้อมือได้

คุณสมบัติของนาฬิกา Reine de Naples 8925BB/58/944 D0 ลิมิเต็ด อิดิชั่น เพียง 28 เรือนเท่านั้นในโลก
ตัวเรือน: ไวท์โกลด์ 18K, ด้านหลังกรุคริสตัลแซฟไฟร์, ขอบหน้าปัดและตัวล็อคสายประดับเพชร 73 เม็ด (ประมาณ 1.062 กะรัต) ขอบหน้าปัดด้านในประดับทับทิม 66 เม็ด (ประมาณ 0.145 กะรัต), เม็ดมะยมตกแต่งด้วยทับทิม 0.27 กะรัต)
ขนาด: 33 มม. X 24.95 มม.
ความหนา: 8.5 มม.
หน้าปัด: มุก mother-of-pearl สีธรรมชาติ, หน้าปัดย่อยแบบ offset พร้อมตัวเลขอารบิกในแบบฉบับของ Breguet
เข็มนาฬิกา: สีแดงเคลืบเงา แบบ open-tipped ในแบบฉบับเฉพาะของ Breguet
ฟังก์ชั่น: แสดงชั่วโมงและนาที
ระบบกลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติ
เอสเคปเมนท์: บาลานซ์สปริงแบบ flat ทำจากซิลิคอน
ประสิทธิภาพการกันน้ำ: 3 บาร์ (30 ม.)
กลไก: คาลิเบอร์ 586/1
ความถี่: 3 เฮิรตซ์
สำรองพลังงาน: 38 ชั่วโมง
สายนาฬิกา: สายหนังอัลลิเกเตอร์ ตัวล็อคสายประดับเพชร 28 เม็ด (ประมาณ 0.164 กะรัต)