เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ส่งคอนโดฯ แบรนด์ Savvi - Attitude ลงตลาด 4 โครงการรวมมูลค่า 2,700 ล้านบาท ปี 2562 ขยายพัฒนาโรงแรม-ทาวน์เฮาส์ จับมือพันธมิตรลงทุนหมื่นล้านในพัทยา
สมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการคอนโดฯในทำเลย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯและพัทยา เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 ว่า มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีตามภาวะเศรษฐกิจแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะปรับขึ้นแต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก ส่วนกรณีซัพพลายมีจำนวนมากในบางทำเล ผู้ประกอบการหลายรายได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายทำการตลาดกับลูกค้าชาวต่างชาติซึ่งเห็นผลได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของบริษัทนั้น หลังจากที่พัฒนาโครงการในพัทยาและแหลมฉบังมา 8-9 โครงการ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และมองว่าที่ผ่านมามีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปทำตลาดในพัทยามากขึ้น ดังนั้นหากต้องการให้บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ จะต้องขยายฐานเข้ามาในตลาดกทม.-ปริมณฑลมากขึ้น
เนื่องจากมองว่ากทม.เป็นตลาดที่ใหญ่ ผลตอบแทนการลงทุนดีกว่าพัทยา ประกอบกับพัทยาก็เริ่มเกิดโอเวอร์ซัพพลายในบางเซกเมนต์ ซึ่งปัจจุบันซัพพลายในพัทยามีอยู่ประมาณ 1.6-1.7 หมื่นยูนิต โดยหลังจากที่รัฐบาลให้ความสำคัญด้านการลงทุนในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ปรากฏว่าราคาที่ดินปรับสูงขึ้นมา 20% โดยที่ดินติดชายหาดราคาอยู่ที่ประมาณ 3-8 แสนบาทต่อตารางวา
ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงรุกพัฒนาโครงการในกทม.-ปริมณฑล มากขึ้นในสัดส่วน 70% และอีก 30% จะเป็นการลงทุนที่พัทยา เน้นพัฒนาประเภทคอนโดมิเนียม low rise ระดับ Luxury Boutique Residence โดยเป้าหมายจะเน้นพัฒนาประมาณปีละ 3-4โครงการ รวมมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2561 ตั้งเป้าเปิดตัวทั้งสิ้น 4 โครงการ รวมมูลค่า 2,700 ล้านบาท คือ
1.Attitude BU บริเวณตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น จำนวน 544 ยูนิต ห้องชุดพื้นที่ใช้สอย 23.5-34.5 ตารางเมตร ราคา 7.2 หมื่นบาทต่อตารางเมตร หรือ 1.78 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท โดยได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้ว 60% ด้านการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคมนี้ และก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2563
2.โครงการแซฟวี่ อารีย์4 (Savvi ari4) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 188 ตารางวา เป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น จำนวน 39 ยูนิต ห้องชุดพื้นที่ใช้สอย 35-125 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 1.6 แสนบาทต่อตารางเมตร หรือ 5.5 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดพรีเซลในวันที่ 8 กันยายน 2561 นี้
“การที่บริษัทฯเลือกพัฒนาโครงการในย่านอารีย์ เพราะมองว่าเป็นทำเลศักยภาพ มีความสงบ มี story ในขณะที่ภาพรวมซัพพลายในย่านดังกล่าวยังมีไม่มาก อัตราดูดซับอยู่ในระดับดี เนื่องจากในทำเลมีความต้องการที่อยู่อาศัยค่อนข้างสูง โดยดีมานด์ส่วนใหญ่ที่ซื้อจะเป็นกลุ่ม real demand ที่ซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง และเป็นบ้านหลังที่ 2” สมภพ กล่าว
3.โครงการแซฟวี่ พหล2 ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 2 เป็นคอนโดมิเนียม สูง 7 ชั้น จำนวน 64 ยูนิต ห้องชุดพื้นที่ใช้สอย 29-144 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.4 แสนบาทต่อตารางเมตรหรือตั้งแต่ 3.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดพรีเซลในเดือนพฤศจิกายนนี้
4.โครงการเออเบิ้ล เอสเคป พัทยา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่ ระหว่างพัทยากลางและพัทยาใต้ เป็นคอนโดฯสูง 8 ชั้น จำนวน 420 ยูนิต ห้องชุดพื้นที่ใช้สอย 25-35 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดพรีเซลในเดือนธันวาคมนี้
ในปี 2561 บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายรวมได้ 1,600 ล้านบาทตามเป้า และยอดโอนที่เกือบ 2,000 ล้านบาท
ส่วนปี 2562 บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องอีกประมาณ 6 โครงการ โดยเป็นโครงการที่พัฒนาเอง 4 โครงการ ได้แก่
1.โครงการแซฟวี่ เสนา คอนโดฯ 8 ชั้น จำนวน 148 ยูนิต มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท ราคาเริ่ม 2.3 ล้านบาท
2.โครงการ Attitude ลาซาล 12 คอนโดฯ 8 ชั้น มูลค่าโครงการ 320 ล้านบาท ราคาเริ่ม 1.8 ล้านบาท
3.โรงแรมระดับ 3 ดาวครึ่ง บริเวณห้าแยกลาดพร้าว หน้าโรงเรียนเซนต์จอห์น บนพื้นที่กว่า 200 ตารางวา ทั้งหมด 110 ห้อง ราคาประมาณ 2,000 บาท/คืน มูลค่าการลงทุนประมาณ 350 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2564 ขณะนี้อยู่ในการพิจารณา 2 แนวทางเลือกว่าจะใช้เชน “ยูโฮเทล”หรืออาจจะสร้างแบรนด์ของตนเองขึ้นมาบริหาร
4.โครงการทาวน์เฮาส์ ย่านรังสิต คลอง 7 ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 18-19 ไร่ รวมจำนวน 140-150 ยูนิต ราคาประมาณ 1-1.6 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ
ส่วนอีก 2 โครงการเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตร 2 รายคือ กลุ่ม เฉลิมพล โขนแจ่ม บริษัท เอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ปและกลุ่มบ้านสิริศา โดยกลุ่มเฉลิมพล ถือหุ้นสัดส่วน 60% ส่วนเออเบิ้ลและกลุ่มบ้านสิริศาถือหุ้นกลุ่มละ 20% ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาก่อตั้งชื่อบริษัทร่วมทุน โดยมีที่ดินรองรับแล้วทั้ง 2 โครงการ คือ ที่ดินบริเวณหาดวงศ์อมาตย์ พื้นที่ 8 ไร่ มีแผนพัฒนาเป็นคอนโดฯ 1 อาคาร สูง 50 ชั้น และอีก 1 อาคารจะเป็นโรงแรม ส่วนอีก 1 แปลงอยู่บริเวณหาดจอมเทียน พื้นที่ 2 ไร่ มีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดฯ ทั้ง 2 โครงการจะมีมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท
