สเตเดียม วัน เผยความพร้อม ต้นแบบศูนย์รวมการออกกำลังกาย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ พร้อมดึงร้านอาหารสตรีทฟู้ดชื่อดัง - Forbes Thailand

สเตเดียม วัน เผยความพร้อม ต้นแบบศูนย์รวมการออกกำลังกาย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ พร้อมดึงร้านอาหารสตรีทฟู้ดชื่อดัง

4 ผู้บริหารหลัก โครงการ สเตเดียม วัน โชว์ความพร้อมศูนย์การออกกำลังกายครบวงจรดึง Jetts fitness, 911 by JT, แบรนด์กีฬาดัง และลานกิจกรรมตอบโจทย์คนเมืองรักการออกกำลังกาย พร้อมดึงร้านอาหารสตรีทฟู้ดชื่อดังย่านบรรทัดสร้างความครึกครื้น

สิทธิชัย ศรีสงวนสกุล กรรมการผู้จัดการ โครงการ สเตเดียม วัน เผยความพร้อมโครงการเสร็จสิ้นแล้วกว่า 85 % ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาทตั้งใจเปลี่ยนย่านกีฬาเก่าแก่ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และพร้อมเปิดตัวปลายเดือนพฤษภาคมนี้ด้วยกิจกรรมการออกกำลังฟรีตลอดทั้งวัน “เราออกแบบโครงสร้างเพื่อรองรับพื้นที่ออกกำลังกายหลากหลายชนิด ทั้ง Indoor และ Outdoor ตลอดจนบริเวณโดยรอบโครงการได้รวบรวมร้านค้าเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาทุกประเภทไว้อย่างครบวงจร รวมถึงร้านอาหารอร่อยชื่อดังที่เป็นร้านสตรีทฟู้ดจริงๆ เท่านั้น” ด้าน ถนอมเกียรติ สัมมาวุฒิชัย กรรมการบริหาร เผยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาทางโครงการฯ ได้เปิดบริการในบางส่วน ร้านค้า ร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา ฟิตเนสและคลาสออกกำลังกาย พร้อมด้วยร้านอาหาร กว่า 80% ของพื้นที่มีผู้เข้าใช้บริการราว 2,000 คนต่อวัน โดยวัดจากจำนวนสมาชิกของ Jetts Fitness เป็นหลักรวมถึงการสอบถามจากร้านอาหารโดยรอบ ณัฐภัค รีกิจติศิริกูล กรรมการบริหาร โครงการ สเตเดียม วัน กล่าวด้านงานสถาปัตยกรรมโครงการ สเตเดียม วัน มีโครงสร้างที่โดดเด่นและแตกต่างจากคอมมูนิตี้ทั่วไป ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Stadium of Life” ด้วยตัวอาคารที่ประสานเทคนิค ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ไอเดียจากกีฬาแต่ละประเภท ณัฐภัค เผยว่า อาคารไฮไลท์ Active Box เราใช้งบประมาณการก่อสร้างราว 150 ล้านบาท เพื่อให้เสร็จทันตามกำหนดที่ทางโครงการตั้งเป้าหมายไว้ โดยออกแบบเป็นอาคาร Multi-Studio แห่งแรกในไทย มีระยะระหว่างเสา 8 เมตร ความสูงถึงเพดาน 4.2 เมตร
(จากซ้าย) ณัฐภัค รีกิจติศิริกูล, ถนอมเกียรติ สัมมาวุฒิชัย, สิทธิชัย ศรีสงวนสกุล และ พงศ์วรรธน์ ติยะพรไชย
ด้าน พงศ์วรรธน์ ติยะพรไชย ผู้บริหารโครงการกล่าวถึงจุดแข็งและทิศทางหลังการเปิดตัวว่า สเตเดียม วัน เน้นจับกลุ่มลูกค้าที่รักการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นกีฬาในร่ม อย่างฟิตเนส คลาสเต้นต่างๆ หรือกีฬากลางแจ้งอย่าง วิ่งและปั่นจักรยาน เนื่องด้วยสถานที่ตั้งอยู่ในรัศมีอุทยานจุฬาฯ 100 ปี สวนลุมพินี และสนามศุภชลาศัย รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหารและร้านกาแฟ รวมถึงพื้นที่สำหรับทำออฟฟิศขนาดเล็กให้เช่า และ Hostel ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวก “รายได้หลักของเรามาจากค่าเช่า 95 % ซึ่งเรียกเก็บจากร้านค้าต่างๆ ภายในพื้นที่ของโครงการ ซึ่งเสียงตอบรับจากผู้ให้บริการและร้านค้าบางส่วนที่เปิดให้บริการแล้วเป็นที่น่าพอใจ และทิศทางรายได้และจำนวนลูกค้ายังเป็นไปตามที่เราคาดการณ์” พงศ์วรรธน์กล่าวและเสริมว่า ค่าเช่าในปัจจุบันอยู่ที่ราว 4-5 หมื่นบาทต่อห้องสำหรับพื้นที่ อาคาร Active Box อยู่ที่ราว 800 บาทต่อตารางเมตร ด้านงบการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์และประชมสัมพันธ์ไปกว่า 10 ล้านบาท โดยราว 3 ล้านบาทเป็นงบประชาสัมพันธ์ทางด้านออนไลน์ เราเลือกใช้ Influencer Marketing เป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมท เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการออกกำลังเป็นหลัก