บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ดัน RP Transport เชื่อมการเดินทางอย่างครบวงจร - Forbes Thailand

บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ดัน RP Transport เชื่อมการเดินทางอย่างครบวงจร

อภิชาติ ชโยภาส ดัน RP Transport เชื่อมการเดินทางนักท่องเที่ยวสู่ที่พักอย่างครบวงจร ด้านภาพรวมธุรกิจปี 2561 คาดโต 5-7 เปอร์เซ็นต์ จากการให้บริการขนส่งขนาดใหญ่ระหว่างเกาะจากกองเรือ 14 ลำในปัจจุบัน พร้อมตั้งเป้าช่องทางออนไลน์เป็น มาร์เก็ตเพลสด้านการท่องเที่ยวแห่งสุราษฎร์ฯ และเส้นทางท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมเปิดเผยโครงการ 10 ปีด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

อภิชาติ ชโยภาส กรรรมการผู้จัดการ บริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด หรือ RP เผยภาพรวม บริษัท ในการขนส่งคน ยานยนต์ และสาธานูปโภคหลักยังคงโตต่อเนื่องโดยเฉพาะการเดินทางระหว่างเกาะสมุย-เกาะพะงัน ทำให้เพิ่มจำนวนเที่ยวเดินเรือเป็นสี่เที่ยวต่อวัน “มีการเดินทางของคนท้องถิ่นระหว่างเกาะสมุยและพะงันมากขึ้น เนื่องจากความเจริญภายในเกาะสมุยจาก เซ็นทรัล เฟสติวัล และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เรียกว่าภาพรวมของ ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ฯ จะดีกว่าปีที่แล้ว โดยเรายังเป้าหมายโตให้ได้ 5-7 เปอร์เซ็นต์ เราจะสามารถทำได้ตามที่คิดไว้แน่นอน” อภิชาติกล่าว เผยแทรนด์ท่องเที่ยว อภิชาติ กล่าวเพิ่มเติมด้านการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงโตต่อเนื่อง แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะลดจำนวนลงไปเล็กน้อย แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางในเทศกาล ฟูลมูน ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี “สำหรับโครงการอื่นๆ ที่ถูกคิดขึ้นมาเพื่อเพิ่มรายได้ ตอนนี้เรากำลังนำร่องการเชื่อมต่อ RP Transport บริษัทลูกของ ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ฯ ทดลองวิ่งเส้นทางไป-กลับ จากกรุงเทพฯ ไป สมุย พะงัน และ เกาะเต่า เน้นวิ่งเฉพาะกลางคืน คือสองทุ่ม ถึงดอกสักหกโมงเช้า และข้ามเรือ ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเพราะเรามีความแตกต่างจากที่อื่นคือไม่มีการแวะพัก วิ่งตรงยาวเลย และต้นทางเรามีอาหารให้ทานที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ใช้เวลาเก้าถึงสิบชั่วโมง ถ้าธุรกิจนี้ไปได้ดี บริษัทจะมีพันธมิตรเพิ่มมาออกรถเพิ่มเติม” อภิชาติ กล่าว ที่ผ่านมาการเชื่อมต่อการเดินทางเราเป็นพันธมิตรกับ Air Asia ในการจัดแพคเกจขนส่งนักท่องเที่ยวสู่ที่พัก สำหรับเป้าหมายหลักที่เราทำ RP Transport คือเราอยากดึงลูกค้าที่อยากจะมาฟูลมูนให้เข้ามาพักที่โรงแรมในเครือข่ายภาคใต้ นอกจากนี้ RP Transport ยังได้ทดสอบในเส้นทางไปยัง เชียงใหม่ เมืองระมิด ประเทศพม่า และ เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา “เรามองการเติบโตใน 2-3 ปี เรื่องการขนส่งนักท่องเที่ยวทางยานยนต์ อยากให้เติบโต 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมด้วย ทำให้เรามีบริการครบถ้วน ทั้งรถ เรือ และที่พัก ซึ่งรายได้กว่า 90 เปอร์เซ็นต์มาจากการเดินทางทางเรือเป็นหลัก” อภิชาติกล่าว ด้านการจำหน่ายตั๋วเดินทางระหว่างเกาะผ่านช่องออนไลน์ในในไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ระบบจองออนไลน์ของเราทำให้ลูกค้าสามารถเดินทางได้ภายใน 3 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องจองข้ามวัน ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างการบริหารการจัดการหน้าท่าเรือ ปัจจุบันเรามีกองเรือให้บริการ 14 ลำ เป็นเรือขนาดใหญ่ 8 ลำ และมีความพร้อมในการซื้อเรือเฟอร์รี่เพิ่มอีก 2 ลำ ทั้งนี้รายได้กว่า 90 เปอร์เซ็นต์มาจากการเดินทางสัญจรผ่านทางเทียบเรือเป็นหลัก ตั้งเป้า 10 ปี ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ บมจ.ท่าเรือเฟอร์รี่ ตั้งงบประมาณต่อเนื่องสิบปี สำหรับการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมทั้งงานวางทุ่น และการเก็บขยะ การดูแลสิ่งแวดล้อม ทั้งสองฝั่ง  ทั้งที่เกาะพะงันและเกาะดอนสักเริ่มที่การวางทุ่นเพื่อการเทียบท่าของเรือ ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มดอกไม้ทะเล เป็นกลุ่มอนุรักษ์ของเกาะพะงัน “ตอนนี้เรื่องใหญ่สุดของเกาะพะงันที่เราจำเป็นต้องเริ่มทำ CSR อย่างจริงจัง เพราะเราคือส่วนหนึ่งของนักธุรกิจบนเกาะนั้น เราจึงต้องการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูและพัฒนาชุมชน ให้เราทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืน” อภิชาติ ชโยภาส กล่าวทิ้งท้าย