ทำงานที่บ้าน อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ และไม่ทำร้ายสุขภาพตัวเอง - Forbes Thailand

ทำงานที่บ้าน อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ และไม่ทำร้ายสุขภาพตัวเอง

สถานการณ์ไวรัสระบาดที่ยังคงวิกฤตในหลายประเทศทั่วโลก โดยในประเทศไทยที่ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มในวันนี้ 60 ราย รวมสะสม 272 ราย หลายบริษัทกังวลและออกมาตรการให้พนักงาน ทำงานที่บ้าน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ

แม้ยังไม่ชัดเจนว่า ช่วงแห่งการให้ ทำงานที่บ้าน นี้จะยาวนานขนาดไหน เพราะสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ที่ยังไม่มีวี่แววจะคลี่คลาย

ขณะที่การทำงานที่บ้านนั้นไม่ได้สะดวกสบายอย่างที่หลายคนคิด แต่กลับมีความท้าทายต่อร่างกายและจิตใจ เช่น การที่ต้องพยายามบาลานซ์ระหว่างชีวิตในเวลางานและนอกเวลางาน ที่บางครั้งก็ไม่สามารถแยกเวลางานกับชีวิตออกจากกันได้ สร้างความทรมานต่อร่างกาย และในที่สุดก็ทำให้งานไม่มีประสิทธิภาพ

ลองมาดูวิธีเอาชนะความท้าทายเหล่านั้น และทำให้การทำงานที่บ้านมีประสิทธิภาพกัน

 

จัดสถานที่ให้เหมาะกับสุขภาพ

ผู้ช่วยศาสตราขารย์ Jodi Oakman หัวหน้าศูนย์การยศาสตร์และปัจจัยทางมนุษย์ La Trobe University กล่าวว่า เราสามารถป้องกันอาการปวดคอและหลังจากการนั่งผิดท่า และเซตสถานที่ในการทำงานที่บ้านไม่ถูกต้อง ด้วยการนำกล่องหรือหนังสือมาวางเรียงซ้อนกัน แล้วค่อยวางแล็ปท็อปไว้ด้านบน

ใช้อะไรก็ได้เพื่อวางแล็ปท็อปของคุณให้สูง” Oakman ระบุจากนั้น สิ่งสำคัญก็คือต้องใช้คีย์บอร์ดและเมาส์แยกออกมาจากแล็ปท็อป (ไม่ควรใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดของแล็ปท็อป)”

สาเหตุเนื่องมาจากเมื่อคุณวางแล็ปท็อปให้สูงจนจออยู่ในระดับสายตา คีย์บอร์ดและทัชแพดของแล็ปท็อปก็จะอยู่สูงไปด้วย ทำให้ปวดบ่าและไหล่ได้

นอกจากนี้ Oakman ยังเตือนให้ลุกขึ้นมาขยับตัวหรือยืดเหยียดขาทุกๆ 20 นาที

คุณไม่ควรยืนหรือนั่งทั้งวัน การปรับเปลี่ยนท่าหรือขยับร่างกายเป็นสิ่งสำคัญมาก ร่างกายของเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อยู่ในท่าเดียวเป็นเวลานาน ดังนั้นการเคลื่อนไหวร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ Oakman ระบุ

 

อย่าลืมดูแลสุขภาพจิต

Meredith Fuller นักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญในการโค้ชชิ่งระดับมืออาชีพ ระบุว่า แม้บางคนจะประสบความสำเร็จในการทำงานที่บ้าน แต่หลายคนกลับไม่เป็นอย่างนั้น

บางคนรู้สึกว่าแรงกระตุ้นในการทำงานหายไปเล็กน้อย เมื่อไม่มีสิ่งกระตุ้นจากที่ทำงาน” Fuller กล่าวคนเหล่านี้จะต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อให้งานสำเร็จเสร็จสิ้น และไม่เสียเวลาไปทำอย่างอื่น เพราะมันง่ายมากที่จะพูดว่าเดี๋ยวค่อยทำ (งาน) ขอไปซักผ้าก่อนเป็นต้น

การประชุมผ่านทางโทรศัพท์หรือวิดีโอกับเพื่อนร่วมงาน สามารถสร้างความรู้สึกของการทำงานเป็นทีม และช่วยป้องกันความรู้สึกว่าต้องทำงานอย่างโดดเดี่ยวได้

กำหนดตารางว่าควรทำอะไรก่อน-หลังเธอแนะนำเพราะไม่เช่นนั้นคุณจะเริ่มทำหลายๆ สิ่งพร้อมกัน แต่กลายเป็นว่าไม่มีงานเสร็จสักชิ้น

นอกจากนี้ เธอยังแนะนำว่า การเปิดวิทยุเพื่อสร้างเสียงคลอไปยังเป็นตัวช่วยชั้นดีให้กับมนุษย์ออฟฟิศ รวมถึงการติดต่อกับใครสักคนหลักเลิกงาน ก็จะช่วยลดความเหงาจากการอยู่คนเดียวทั้งวันได้

 

วิธีทำงานให้ได้ผล

ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญคือการกำหนดพื้นที่ทำงาน และพิจารณาช่วงเวลาในการทำงาน

เวลาไหนที่คุณทำงานได้ดีที่สุด” Fuler กล่าวกำหนดช่วงเวลาที่ยากที่สุดต่อการทำงานของคุณออกมา เพราะเมื่อคุณทำงานในที่ที่มีเพื่อนร่วมงานหลายคน พวกเขาจะสามารถช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลานั้นไปได้ แต่เมื่อไม่มีพวกเขาอยู่ คุณต้องระวังช่วงเวลาเหล่านี้ของคุณให้ดี

ทั้ง Oakman และ Fuller แนะนำว่า การจัดกลุ่มงานและทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด จะช่วยให้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยลดความไม่ชัดเจนระหว่างช่วงเวลางานและช่วงเวลาการใช้ชีวิตหลังเลิกงานได้

เป็นไอเดียที่ดีที่จะทำลิสต์ว่าจะทำอะไรก่อน-หลัง” Fuller กล่าว และว่า การใส่ชุดทำงานก็สามารถช่วยให้แยกระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตที่บ้านได้

การคิดถึงตารางชีวิตในแต่ละวันของคุณเป็นสิ่งสำคัญ” Oakman กล่าว

ตารางชีวิตนี้ยังรวมถึงการกำหนดช่วงเวลาพักเบรก และช่วงเวลายืดเส้นยืดสายแบบไม่ได้ตั้งใจจากเวลาที่คุณพักจิบกาแฟ เป็นต้น

ในช่วงตอนท้ายของวัน แนะนำว่าให้จัดเก็บพื้นที่ให้เรียบร้อย สรุปกับตัวเองว่าสิ่งใดทำแล้วดี สิ่งใดทำแล้วไม่ดี และบอกกับตัวเองว่าการทำงานของวันนี้จบลงแล้ว

แต่ละคนต้องหาโซลูชั่นของตัวเอง และตรวจสอบในตอนท้ายของวันว่ามันได้ผลหรือไม่ หากไม่ได้ผลก็แค่ปรับเปลี่ยน

    แปลและเรียบเรียงจาก How to work from home effectively - and without harming your health