ผลพวงแห่งความรื่นรมย์ของชีวิต - Forbes Thailand

ผลพวงแห่งความรื่นรมย์ของชีวิต

FORBES THAILAND / ADMIN
28 Sep 2015 | 10:53 AM
READ 12388
Analjit Singh ได้พบทั้งความสงบและโอกาสการลงทุนในไร่องุ่นที่แอฟริกาใต้ เมื่อก้าวลงจากรถ Lexus สีน้ำเงินของเขา เราก็ได้พบกับทัศนียภาพเบื้องหน้าที่สวยงามราวกับภาพจากโปสการ์ด Singh ในเสื้อเชิ้ต ผ้าโพกหัว และเสื้อกั๊กสีน้ำเงิน ยืนโพสท่าโดยมีภูเขา ซึ่งก็เป็นสีน้ำเงิน ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ภายใต้แสงอาทิตย์อบอุ่นเดือนเมษายน ณ ไร่ Leeu Estates ของ Singh ที่เมือง Franschhoek เมืองแห่งการผลิตไวน์ใน Western Cape ของแอฟริกาใต้ Singh ชี้ให้ดูกางเขนสีขาวขนาดใหญ่บนเนินเขา Dassenberg ซึ่งตั้งอยู่ราวกับเครื่องบอกตำแหน่ง “ทุกอย่างที่อยู่เบื้องล่างกางเขนนั้นเป็นของผมทั้งหมด” เขากล่าว เราอยู่ที่ไร่พื้นที่ 68 เฮกเตอร์ ซึ่งมีทั้งไร่องุ่น ทับทิม ต้นพลัม โอ๊ค มะกอก และสวนสมุนไพร คนงานกำลังง่วนกับการก่ออิฐเพื่อสร้างและบูรณะอาคารสถาปัตยกรรมแบบ Cape Dutch ส่วนประกอบมากมายถูกประกอบเข้ากันเพื่อจะเป็นโรงกลั่นไวน์และโรงแรมห้าดาวขนาด 25 ห้อง ซึ่งกำหนดเปิดให้บริการในปีหน้า โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของ Leeu Collection “Leeu เป็นชื่อของเรา [ในแอฟริกาใต้] ในภาษา Afrikaans มีความหมายว่าสิงโต เหมือนกับที่คำว่า Singh แปลว่าสิงโตในภาษาสันสกฤต” Singh กล่าว ไม่น่าแปลกใจที่ทะเบียนรถ Lexus SW ของเขาคือ LEEU 1 Singh เล่าว่า คฤหาสถ์หลังที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้นจะมีห้องสมุด ซึ่งจัดแสดงของที่ระลึกเกี่ยวกับ Gandhi และ Mandela ด้วย บ้านหลังที่ว่านี้อยู่เหนือสวนที่ตัดแต่งอย่างสวยงาม ตรงกลางมีเวทีแสดงงานศิลปะ อันได้แก่ปะติมากรรมทองแดงขนาดเท่าคนจริง  ผลงานของ Deborah Bell ศิลปินชาวแอฟริกาใต้ ที่ Singh เลือกมาเองกับมือ “ผมรู้จักศิลปินทุกคนใน Cape Town” เขาบอก “เราเสาะหางานศิลปะและปะติมากรรมมาพักใหญ่แล้ว ทั้งหมดจะนำมาจัดแสดงในไร่แห่งนี้” Leeu Estates ประกอบด้วยไร่สามแห่งซึ่ง  Singhซื้อมาภายในเวลาปีเดียว ได้แก่ Dieu Donné, Klein Dassenberg และ Von Orlof คิดเป็นเงินลงทุนทั้งหมด 35 ล้านเหรียญ โครงการของเขาจะมีฟิตเนส สปา และโรงกลั่นไวน์ซึ่งจะผลิตไวน์ Mullineux & Leeu Family Winesโดยมีคู่สามีภรรยา Chris และ Andrea Mullineux เป็นผู้ดูแลการกลั่น ทั้งคู่เป็นผู้ชนะเลิศรางวัล Winery of the Year Award ประจำปี 2014 จากคู่มือแนะนำไวน์ Platter’s และจะมารับหน้าที่พัฒนาไวน์ระดับพรีเมียมจากไร่ Leeu ซึ่งเตรียมออกวางจำหน่ายในปลายปี 2016 Singh ยังมีหุ้นในโรงกลั่นไวน์ Riebeek Kasteel ของสองสามีภรรยาที่อยู่ใน Swartland ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกไวน์อยู่ห่างจาก Cape Town ไปทางเหนือราว 30 ไมล์ ที่นั่นเขายังมีไร่อีกแห่งสำหรับศึกษาเรื่องการปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์โดยเฉพาะ โรงกลั่นที่ Swartland เน้นผลิตไวน์ Chenin Blanc และ Syrah Leeu Estates เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธุรกิจของ Singh ใน Franschhoek ในเมืองที่มีถนนเพียงสายเดียวแต่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งนี้ เขาได้ซื้อบ้าน Rusthof บ้านสไตล์คันทรีซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการบูรณะเป็นโรงแรมบูทีคขนาด 13 ห้อง ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความเป็น “Cape Dutch” อย่างเด่นชัด มีสวนขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า โดยจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ ที่จัตุรัส Heritage Square ห่างไปไม่กี่ร้อยเมตร เขายังเตรียมเปิดบาร์และภัตตาคารที่บริการอาหารอินเดียและอาหารตะวันออกแห่งแรกของเมือง และเขายังจะเปิดโรงผลิตเบียร์ขนาดเล็ก (microbrewery) ข้างๆ Leeu House ซึ่งก็อีกเช่นเคย จะเป็นโรงเบียร์ขนาดย่อมแห่งแรกใน Franschhoek “นั่นก็คือเรื่องราวของเราในแอฟริกาใต้” Singh กล่าว ในอดีตนั้น FORBES เคยจัดให้เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของอินเดีย ทุกวันนี้ Singh มีทรัพย์สินสุทธิอย่างน้อย 975 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เขาเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Max India ที่มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ประกันชีวิต บริการด้านสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุ ตั้งแต่ปี 2011 Max India ได้ร่วมทุนกับ Life Healthcare ของแอฟริกาใต้ (Malvinder และ Shivinder Singh หลานของเขาทั้งสองคนเป็นมหาเศรษฐีด้านบริการเพื่อสุขภาพ) Andre Meyer ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Life Healthcareเครือข่ายโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ บอกว่า Singh เป็น “เพื่อน” เขา “เราสามารถอธิบายความเป็น Analijit ด้วยคำพูดที่ว่า ‘เรารู้จักนิสัยใจคอคนๆ หนึ่งได้อย่างแท้จริงจากการดูว่าเขาปฏิบัติกับคนที่ไม่มีผลประโยชน์กับเขาอย่างไร’ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะเป็นใคร Analijit ปฏิบัติกับทุกคนด้วยเกียรติและความเคารพเสมอกันกับตัวเขาเอง” Meyer กล่าว Singh เป็นที่เคารพยำเกรงในแวดวงการเมืองของอินเดีย ในปี 2011 เขาได้รับรางวัล Padma Bhushan หนึ่งในรางวัลทรงเกียรติสูงสุดที่มอบให้กับพลเรือนอินเดีย Singh เป็นทายาทของ Bhai Mohan Singh ผู้ก่อตั้ง Ranbaxy จบการศึกษาจากโรงเรียน Doon ใน Dehradun เมื่อปี 1971 เขาได้รับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัย Boston University ใช้เวลา 7 ปี อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ก่อนจะก่อตั้งบริษัท Max India เมื่อปี 1985 Singh ในวัย 61 ปี ดำรงตำแหน่ง nonexecutive chairman ของ Vodafone India พำนักอยู่ใน New Delhi กับภรรยา Neelu และลูกๆ ได้แก่ Veer, Piya และ Tara “ทำไม (ผมถึงมาอยู่ที่แอฟริกาใต้ตอนนี้) น่ะเหรอ นี่เป็นแผนการหรือนิมิตอะไรรึเปล่า ไม่ใช่แน่ๆ” Singh บอก เขาเดินทางมา Johannesburg เป็นครั้งแรกในปี 2010 กับภรรยาและ Piya ลูกสาวคนโตเพื่อชมฟุตบอลโลก พวกเขาแวะเที่ยว Cape Town เป็นเวลาสองวัน “สองปีก่อน Tara ลูกสาวคนเล็กของผมบินมางานแต่งงานที่ Cape Town (ก่อนเดินทางมา) แกถามผมว่าควรจะไปไหม ผมบอก ‘ไม่เด็ดขาด’ ผมถามกลับ ‘แล้วลูกจะไปยังไง’ ลูกผม (ในที่สุดก็ไป) โทรมาบอกว่า ‘พ่อต้องชอบที่นี่แน่ พ่อต้องมานะ’ ผมมาด้วยความสนใจใคร่รู้ ผมอยากรู้ว่า Tara หลอกผมเล่นหรือมันเรื่องจริงกันแน่ ผมก็เลยมาจนได้ มาดูสนามบิน บ้านเมือง และเห็นว่านี่คือแอฟริกา ผมไม่เคยนึกฝันว่าจะมียุโรปน้อยๆ อยู่ตรงนี้” หลังการเดินทางมาเยือนครั้งแรก Singh ได้กลับมาที่ Cape Town อีก ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่สองครั้งในรอบหกเดือน “ตอนนั้นผมกำลังเข้าสู่ช่วงชีวิตที่ต้องการความราบเรียบ ผมมองหาสถานที่สงบที่เสริมสร้างสันติสุขจากภายใน ผมมองหาสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดความคิดที่ลึกซึ้ง แล้วผมก็ตระหนักว่าที่นี่ล่ะคือที่สำหรับผม ผมเลยเกิดความคิดที่จะหาบ้านสักหลังเป็นบ้านตากอากาศที่ผมจะมาพักสักสองสามสัปดาห์ หนีจากหน้าร้อนใน Delhi นี่คือจุดเริ่มต้นทั้งหมด” Singh เล่า หลังจากการค้นหาอันเหน็ดเหนื่อย Singh ตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรก คฤหาสน์ Klien Dassenberg ใน Franschhoek ซึ่งอยู่ติดกับไร่ Grande Provence เมื่อแรกที่ Singh ซื้อไร่แห่งนี้ มันมีทั้งคฤหาสน์ บ้านพักเดี่ยวสำหรับแขก และบ้านที่เคยเป็นที่พักของทาสอยู่ในบริเวณ และตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น The Pomegranate House “เราก็ไปกันได้สวย กระทั่งใครสักคนแนะนำว่ามีคนประกาศขายไร่ข้างๆ” Singh กล่าว “เป็นโอกาสที่เราจะได้ขยับขยายไปยังไร่ที่มีโรงกลั่นไวน์ด้วย ผมไปดูแล้วชอบ ก็เลยซื้อ ทั้งหมดนี้ภายในปีเดียว เสร็จแล้วก็มีไร่ที่อยู่อีกด้านของไร่เราประกาศขายอีกเหมือนกัน เราก็ซื้ออีก ถึงตอนนั้นเรามีที่ดินมากพอจะมีไร่เป็นของตนเอง เราเลยจ้างผู้จัดการมาดูแลไร่” โชคดีเป็นของ Singh เขาได้บุคลากรระดับแนวหน้าของวงการมาช่วย โดยได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ Rosa Kruger นักวิชาการด้านองุ่นชาวแอฟริกาใต้ “ผมบอก Rosa ‘ผมไม่รู้อะไรเลยเรื่องการทำไวน์ คุณรังเกียจไหมที่จะเซ็นสัญญาทำงานให้ไร่ผม’ เธอบอกว่า ‘ฉันถูกชะตากับคุณ เพราะงั้นฉันจะช่วยคุณ แต่ฉันคงไม่สามารถรับผิดชอบให้คุณได้’ Rosa เล่าเรื่องบริษัทไวน์เล็กๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อ Mullineux ให้ผมฟัง พวกเขามีนักลงทุนชั้นดีสองคนที่ต้องการถอนตัว เธอว่า ‘ถ้าคุณซื้อบริษัทนี้ คุณจะได้บริษัทไวน์ที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว’” Singh บอกว่าธุรกิจใหม่ช่วยให้เขาดื่มด่ำกับไวน์มากขึ้น ทุกๆ ปี เขาจะไปเยือนพื้นที่ผลิตไวน์ที่ไม่เคยไปมาก่อน “ผมได้เปิดประสบการณ์ใหม่ของการดื่มไวน์ ในโลกที่มีไลฟ์สไตล์จดจ่ออยู่กับไวน์ “ที่นี่นำผมมาพบกับความเขียวขจี ธรรมชาติ ภูเขา หมอก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะการทำไวน์เป็นเรื่องของเทคโนโลยีล้วนๆ (ในแง่ของ) ขั้นตอนการบ่มไวน์และวิธีการสกัดผลไม้ ผมชอบสิ่งเหล่านี้ ผมไม่ชอบนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซื้อขายหุ้นในตลาด New York นั่นไม่ใช่แนวทางของผมเลย” เพื่อนบ้านของ Singh ที่ Leeu Estates คือ Richard Branson มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งสายการบิน Virgin Atlantic เขาเป็นเจ้าของ Mont Rochelle ที่เป็นทั้งโรงแรมหรูและไร่องุ่น Singh บอกว่าเป็นเรื่องที่ดี “ผมหวังว่า ความนิยมชมชอบใน Franschhoek ทั้งตัวเมืองโดยทั่วไปและในละแวกที่เราอยู่นี้จะได้ประโยชน์จากความเป็นผู้รู้ซึ้งในความรื่นรมย์แห่งชีวิตของ Richard” การมาพักร้อนที่แอฟริกาใต้ของ Singh อาจบางทีเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่แอฟริกาของเขา Singh บอกว่า “ชีวิตต้องดำเนินต่อไป” ในเมืองผลิตไวน์เล็กๆ แห่งนี้ที่เขาเรียกว่าบ้าน   เรื่อง: METHIL RENUKA เรียบเรียง: เอมวลี อัศวเปรม
คลิ๊กเพื่ออ่านเรื่องราวสร้างไฟฝันทางธุรกิจจาก Forbes Thailand ในรูปแบบ E-Magazine