โลหะอันดับที่ 3 กลับมาครองความเป็นหนึ่งได้อย่างไร เมื่อแบรนด์นาฬิกาดังเปิดตัว Bronze watchs
นาฬิกาที่ทำจากทองคำขาวและทองคำคู่ควรอย่างยิ่งกับการใส่ออกงานสุดหรู ในขณะที่นาฬิกาที่ทำจากสเตนเลสเหมาะที่สุดสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันถึงแม้ว่าจะมีการนำโลหะล้ำสมัยต่างๆ มาใช้ทำตัวเรือน หากแต่ในปัจจุบันยังมีโลหะจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ชนิดหนึ่งที่ผู้รังสรรค์นาฬิกาและบรรดานักสะสมต่างมองว่ามากด้วยคุณค่า เป็นเวลานานหลายศตวรรษแล้ว ที่มีการนำทองสัมฤทธิ์หรือทองบรอนซ์มาใช้ทำอุปกรณ์เดินเรือ (และเครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆ) ทองสัมฤทธิ์มีความทนทานและยังมีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนและสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องกลไกของเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ทองสัมฤทธิ์มีเสน่ห์ดึงดูดมากที่สุดก็คือลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อวัตถุมีความเก่าแก่มากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป ตัวเรือนที่ทำจากโลหะชนิดนี้จะเกิดคราบหรือสนิมเขียวอันมีลักษณะเฉพาะตัว นั่นแปลว่าคุณสามารถสร้างสรรค์นาฬิกาของคุณเองได้อย่างแท้จริง 43 มม. TUDOR รุ่น BLACK BAY BRONZE (4,050 เหรียญสหรัฐฯ) 41 มม. IWC รุ่น PILOT’S WATCH CHRONOGRAPH SPITFIRE (6,250 เหรียญ) 40 มม. MONTBLANC รุ่น 1858 AUTOMATIC LIMITED EDITION (3,050 เหรียญ) 41 มม. BELL & ROSS รุ่น BR V2-94 BELLYTANKER BRONZE (4,990 เหรียญ) 45 มม. ZENITH รุ่น PILOT TYPE 20 CHRONOGRAPH EXTRA SPECIAL (7,100 เหรียญ) 42 มม. ANONIMO รุ่น EPURATO GREEN (3,240 เหรียญ) 44 มม. ULYSSE NARDIN รุ่น MARINE TORPILLEUR MILITARY BRONZE (8,900 เหรียญ) 47 มม. PANERAI รุ่น SUBMERSIBLE BRONZO (16,500 เหรียญ)คลิกอ่านบทความทางธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine