ผู้ประกอบการหญิงมีชีวิต "แฮปปี้" กว่าฝ่ายชาย - Forbes Thailand

ผู้ประกอบการหญิงมีชีวิต "แฮปปี้" กว่าฝ่ายชาย

FORBES THAILAND / ADMIN
01 Aug 2014 | 02:08 PM
READ 3331

ตัวเลขทางสถิติในสหรัฐฯ ชี้ว่าผู้หญิงลงทุนประกอบธุรกิจนั้น มีอนาคตไม่สดใสนัก ตัวอย่างเช่น หากผู้ชายหาได้หนึ่งดอลล่าร์ ผู้หญิงจะได้เพียง 77 เซนต์เท่านั้น และมีงานที่ทำโดยผู้หญิงเพียง 7% เท่านั้น ที่จะได้รับทุนอุดหนุน

แต่ทว่าจากการศึกษาล่าสุดกลับให้ภาพตรงกันข้าม  ในรายงานของ Global Entrepreneurship Monitor (GEM) U.S. Report ประจำปี 2013  พบว่า ผู้หญิงที่ก่อร่างสร้างกิจการของตัวเอง จะมีความสุขเหนือกว่าผู้ชายที่เลือกทางเดินชีวิตแบบเดียวกัน นอกจากนั้นแล้ว พวกเธอยังยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี จนเหนือกว่าผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการ หรือเป็นเจ้าของกิจการถึงสองเท่าตัว
แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า ในช่วงเริ่มแรกของการเปิดธุรกิจของตัวเอง ผู้หญิงจะมีความสุขต่ำกว่าผู้ชายที่เริ่มต้นพร้อมๆ กัน Edward Rogoff หนึ่งในผู้เขียนรายงานกล่าวไว้ และในรายงานยังพบว่า 1 ใน 10 ของผู้หญิงในสหรัฐฯ กำลังตั้งต้นหรือเริ่มธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าดัชนีชี้วัดพัฒนาการทางเศรษฐกิจอื่นๆ อีก 24 ตัว
ยิ่งไปกว่านั้น สัดส่วนของผู้หญิงที่ต้องการสร้างกิจการตัวเองให้มีลูกจ้าง 5 คน ให้ได้ภายใน 5 ปี ซึ่งในปี 2012 มี 31% เพิ่มเป็น 36% ในปี 2013  โดยรวมแล้วประเมินกันว่ามีผู้หญิงอเมริกันถึง 3.73 ล้านราย ที่กำลังมุ่งหน้าสร้างธุรกิจของตนเอง
"ดิฉันพบกับความสุขอย่างยิ่งที่ในฐานะผู้ประกอบการ!" Therese Tucker ซีอีโอ Blackline Systems ระบบซอฟต์แวร์บัญชี ที่เธอสร้างทุกอย่างขึ้นมาจากศูนย์ "ไม่มีใครมาคอยบอกว่าคุณต้องทำอะไร คุณต้องทำมันขึ้นมาเอง คุณต้องวางแผนงานกำหนดตารางเวลางาน กำหนดภาระงาน และทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง แน่นอนว่าอาจจะทำไม่ดีนัก เพราะหากว่าแผนของคุณนั้นใช้ไม่ได้ ก็จะสุมอยู่ในหัวของคุณเอง ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวมาก!"
Jane Park ซีอีโอบริษัทด้านความงาม Julep และบลอกเกอร์ประจำ Forbes เปิดเผยว่า ตนมักจะได้รับคำถาม "คุณมีความสุขตลอดเวลาที่คุณใช้ชีวิตเป็นผู้ประกอบการหรือไม่" อยู่เสมอๆ ซึ่งตัวเธอมีมุมมองที่น่าสนใจ
"ในฐานะผู้ประกอบการ ฉันคิดว่าเป็นสิ่งดีที่จะบอกว่าเกิดความผูกพันกับงานมากขึ้น จนสามารถเรียนรู้ผ่านการทดลอง และทำซ้ำๆ หลายๆ หน  แต่เราต้องพร้อมเจอกับความล้มเหลวเพิ่มมากขึ้นด้วย เนื่องจากสิ่งต่างๆ ที่กำลังทำนั้น คุณเพิ่งจะเคยลงมือเป็นครั้งแรก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบเจอกับความไม่แน่นอน"
เธอยังกล่าวอีกว่า ตนเหมือนโดนกระตุ้นให้ทำงานตลอดเวลา "ไม่มีการทำงานแบบตั้งโปรแกรมอัตโนมัติ คุณต้องใช้เวลาคิด ตั้งเป้าหมาย และปรับทิศทางของงานอยู่เสมอๆ และต้องไม่กลัวความล้มเหลว จงคิดถึงมันว่าเป็นเพียงการตั้งสมมติฐาน เพื่อให้คุณก้าวข้ามไปถึงเป้าหมายสูงสุด ในการสร้างองค์กรให้สำเร็จและยั่งยืน"
"แน่นอนว่าการหาเงินทุนให้กับบริษัทที่ผลิตสินค้าสำหรับเพศหญิง เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เพราะว่าผู้ร่วมลงทุนส่วนใหญ่เป็นชาย ไม่ได้มีความใกล้ชิดผูกพันกับแบรนด์ หรือประสบการณ์ที่สินค้าสำหรับผู้หญิงสร้างขึ้น" Park กล่าวและว่า "แต่ว่าเราไม่ได้ต้องการครองตลาดทั้งหมด เราเพียงแค่ต้องการผู้สนับสนุนทางการเงินที่ไปกันได้กับบริษัทของเราเท่านั้นเอง"
Maria Seidman ซีอีโอผู้ผลิตแอฟ Yapp กล่าวว่า การมาเป็นผู้ประกอบการเป็นเหมือนกับการเติมเต็มชีวิตของเธอ "แม้จะนำไปเปรียบเทียบกับสมัยที่เคยทำงานในบริษัทที่มั่นคงก็ตาม" แต่แน่นอนว่าต้องแลกเปลี่ยนกับ "ความไม่แน่นอนและความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา นอกเหนือไปจากความสำเร็จและชัยชนะ พร้อมกันนั้น ความผกผันทางอารมณ์อาจส่งผลร้ายต่อตัวคุณและความสัมพันธ์ของคุณ หากไม่รู้จักควบคุมมันให้ได้"
"ความเป็นผู้ประกอบการทำให้คุณสามารถยืนได้โดยลำพัง แม้ว่าจะมีเพื่อนร่วมงาน ทีมงาน และที่ปรึกษาที่เยี่ยมสักเพียงใด แต่ท้ายที่สุดแล้ว ภาระความรับผิดชอบทั้งหมดตกอยู่ในมือคุณคนเดียว และในสักวัน เมื่อคุณรับรู้ได้ถึงภาระอันหนักอึ้งจากความรับผิดชอบนั้นแล้ว นั่นจะเป็นตัวช่วยให้สร้างงานให้เกิดขึ้น"
[รายงานวิจัย -  2013 Global Entrepreneurship Monitor (GEM) U.S. Report]
เรียบเรียงจาก Female Entrepreneurs Are Happier Than Male Entrepreneurs โดย Hollie Slade