หนังสือธุรกิจที่ขายดีที่สุด - Forbes Thailand

หนังสือธุรกิจที่ขายดีที่สุด

FORBES THAILAND / ADMIN
23 Mar 2017 | 07:52 PM
READ 18412
ยอดขายหนังสือล้านเล่มไม่ใช่เป้าหมายที่จะบรรลุกันได้ง่ายในสถานการณ์สื่อสิ่งพิมพ์เช่นปัจจุบันนี้ ยิ่งเป็นหนังสือธุรกิจด้วยแล้วยิ่งยากไปกันใหญ่ โดย Nielsen เริ่มจัดเก็บข้อมูลยอดขายหนังสือตั้งแต่ปี 2004 หนังสือที่ครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดคือ StrengthsFinder 2.0 ของ Tom Rath ที่ออกเมื่อปี 2007 มากับเนื้อหาที่ช่วยให้คุณค้นพบศักยภาพที่ซ่อนอยู่และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ยอดขายหนังสือของ Rath โค่นได้แม้กระทั่งหนังสือดังอย่าง Blink และ Freakonomics ซึ่งเป็นเรื่องของเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม เล่มที่เก่าที่สุดอย่าง What Color Is Your Parachute? หนังสือแนะนำอาชีพเล่มคลาสสิกที่ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1970 ยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายจนบัดนี้ตีพิมพ์เป็นครั้งที่ 47 แล้ว 16 อันดับหนังสือธุรกิจที่ขายที่สุด 1. StrengthsFinder 2.0 โดย: Tom Rath ยอดขาย:  4.5 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 2007 'Weakness fixing prevents failure, strength building drives success' – การมุ่งพัฒนาจุดแข็งจะนำไปสู่ความสำเร็จมากกว่าการพยายามแก้ไขจุดอ่อน หนังสือซึ่งว่าด้วยการพัฒนาจุดแข็งของตัวเอง แต่ก่อนจะพัฒนาจุดแข็งจนประสบความสำเร็จ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการค้นหาจุดแข็งของตัวเองให้เจอก่อน 2. Blink โดย: Malcolm Gladwell ยอดขาย: 2.68 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 2005 ผลงานจากอีกหนึ่งยอดนักเขียน ด้วยรูปแบบการเล่าเรื่องของเขาในการยกสมมุติฐานแล้วอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมตั้งคำถามจากผู้อ่านเพื่อหาคำตอบและสรุปผล ภายในเล่มว่าด้วยเรื่องจิตวิทยาและแวบแรกของความคิด ที่มีผลต่อการกระทำและการตัดสินใจของเรามากกว่าที่เรารู้ 3. Good to Great โดย: Jim Collins ยอดขาย: 2.3 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 2001 ว่าด้วยการสร้างองค์กรสู่ความยิ่งใหญ่ และเมื่อใดก็ตามที่องค์กรมองว่าตนเองยิ่งใหญ่แล้วเมื่อนั้นอาจเกิดหายนะตามมา ความจำเป็นของการเปรียบเทียบความก้าวหน้ากับสถานการณ์ปัจจุบันจึงมาความจำเป็น โดยภายในเล่มให้ความสำคัญกับการสรรหาทรัพยากรบุคคล ผู้บริหารที่ต้องสร้างองค์กรให้ยิ่งใหญ่ต้องคิดก่อนว่าจะเอาใครมาทำงานเพื่อนำพาองค์กรแบบก้าวกระโดด 4. Rich Dad, Poor Dad โดย: Robert T. Kiyosaki ยอดขาย: 2.2 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 1997 หนังสือขายดี ที่ให้แนวคิดในการสร้างตัว สร้างชีวิต ในเล่มนี้อัดแน่นไปด้วยคำสอนและคำแนะนำเกี่ยวกับความรู้เรื่องการเงิน ที่ไม่เคยมีใครสอน หนังสือเล่มนี้จะแสดงให้เห็นว่า การทำงานเพื่อเงินเดือนสูง ไม่ช่วยให้ร่ำรวยได้ 5. Freakonomics โดย: Steven D. Levitt และ Stephen J. Dubner ยอดขาย: 2 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 2005 หนังสือหลักเศรษฐศาสตร์ที่นำหลักการและเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์มไขคำตอบจากเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งหนังสือเล่มนี้อาจทำให้ผู้อ่านมองปัญหาและเหตุการณ์ด้วยแนวทางใหม่ๆ ที่ต่างออกไปจากเดิม 6. Who Moved My Cheese? โดย: Spencer Johnson ยอดขาย: 1.77 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 1998 ใครเอาเนยแข็งของฉันไป หนังสืออีกเล่มที่แม้พิมพ์จัดหน่ายก่อนปี 2000 แต่ยังทรงคุณค่าในการนำมาปรับใช้ หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงการจัดการกับความเปลี่ยนแปลงผ่านตัวละคร 4 ตัวที่ถูกแทนด้วยด้านต่างๆ ของตัวเรา เพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่า 7. The Five Dysfunctions of a Team โดย: Patrick Lencioni ยอดขาย: 1.76 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 2002 หนังสือเล่าเรื่องผ่านปิรามิดที่ประกอบไปด้วยพฤติกรรมที่ไม่นำพาทีมไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ ประกอบไปด้วย ความไม่เชื่อเชื่อใจ, กลัวความขัดแย้ง, การขาดความทุ่มเทกับงาน, การหลีกเลี่ยงการขอความร่วมมือและตำหนิสมาชิกในทีม และ การไม่สนใจผลลัพธ์ของทีม พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุของปัญหาสู่การล้มเหลวของการร่วมงานทั้งสิ้น 8. The Total Money Makeover โดย: Dave Ramsey ยอดขาย: 1.74 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 2003 หนังสือซึ่งบรรยายถึงแผนลับการล้างหนี้ และกล่าวถึงความเชื่อผิดๆ ทางการเงิน 10 ประการ ที่สร้างความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความมั่งคั่ง 9. Now, Discover Your Strengths โดย: Marcus Buckingham และ Donald O. Clifton ยอดขาย: 1.3 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 2001 หนังสือนำเสนอแนวคิด คล้ายๆ กับ StrengthsFinder 2.0 ที่ว่าด้วยแนวคิดของคนเราที่ควรมุ่งเน้นพัฒนาจุดแข็งของตัวเองมากกว่าที่จะมัวไปแก้ไขจุดอ่อน ทั้งนี้ในหนังสือยังกล่าวและรวบรวมพรสรรค์ของมนุษย์ไว้ถึง 36 ประการ 10. Getting Things Done โดย: David Allen ยอดขาย: 1.1 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 2001 หนังสือว่าด้วยแนวคิดเพื่อการบริหารงานที่ให้ได้ผลลัพธ์สำเร็จและเป็นระบบจากในหัวของเรา อ่านจบเราพบแนวคิดการทำงานจัดการใน 3 ประเด็นหลัก Task, Project และ Note ได้อย่างเป็นระบบ 11. What Color Is Your Parachute? โดย: Richard N. Bolles และ John E. Nelson ยอดขาย: 1 ล้านเหรียญ ปีที่วางขาย: 1970 หนังสือเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาด้านเลือกงาน การเปลี่ยนอาชีพที่ติดอันดับ Best-selling พิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1970 และอัพเดทเนื้อหาทุกปี ในฉบับพบคำถามการสัมภาษณ์งานซึ่งผู้อ่านอาจมาปรับใช้กับสังคมการทำงานของคนไทย 12. The Big Short โดย: Michael Lewis ยอดขาย: 916,000 เหรียญ ปีที่วางขาย: 2010 Lewis ชำแหละวิกฤตการเงินสหรัฐช่วงปี 2007-2008 และโยนบาปให้กับ “Doomsday Machine” ซึ่งก็คือตลาดอนุพันธ์ที่มักจะถูกเข้าใจอย่างคลาดเคลื่อน เขาเชื่อว่าตลาดพวกนี้เป็นต้นเหตุแห่งความล่มสลายของเศรษฐกิจสหรัฐ 13. Lean In โดย: Sheryl Sandberg ยอดขาย: 911,000 เหรียญ ปีที่วางขาย: 2013 หนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจของผู้หญิงทั่วโลก สู่การเป็นผู้นำในการทำงาน และการสร้างสมดุลในชีวิต ภายในเล่ม เจาะลึกถึงประเด็นต่างๆ จากประสบการณ์ชีวิต เพื่อลดขั้นตอนที่สลับซับซ้อนและอคติความลำเอียงต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวของผู้หญิงที่ทำงานอยู่ 14. Getting to Yes โดย: Roger Fisher และ William Ury ยอดขาย: 741,000 เหรียญ ปีที่วางขาย: 1981 หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เรียนรู้ถึงวิธีการต่อรองอย่างที่มีประสิทธิภาพและรวมถึงไปถึงความสามารถจัดการกับข้อขัดแย้งต่างๆ ซึ่งหนังสือเล่มนี้อธิบายวิธีการต่อรองได้เป็นอย่างดี 15. The 21 Irrefutable Laws of Leadership โดย: John C. Maxwell ยอดขาย: 723,000 เหรียญ ปีที่วางขาย: 1998 เรื่องราวแห่ง กฎ 21 ข้อ ของการเป็นผู้นำ ภาวะผู้นำเป็นตัวกำหนดศักยภาพของบุคคล ดังนั้นความสำเร็จขององค์กรจึงขึ้นอยู่กับทัศนคติของผู้นำองค์กร หนังสือให้ความสำคัญกับการการพัฒนาตนเอง และนำการพัฒนานั้นพัฒนาทีมงานด้วยการมองหาที่จุดแข็งเพื่อการสร้างทีมงาน 16. The Automatic Millionaire โดย: David Bach ยอดขาย: 722,000 เหรียญ ปีที่วางขาย: 2003 หนังสือเล่าถึงวิธีการขับเคลื่อนเงินของคุณอย่างอัตโนมัติ ด้วยแผนการและเส้นทางเศรษฐีภายในเล่ม เรื่อง: natalie robehmed เรียบเรียง: เอมวลี อัศวเปรม ภาพ: Jason Merritt/Getty Images; Slaven Vlasic/Getty Images; Sonia Moskowitz/WireImage; Patrick James Millet
ติดตามเรื่องราวการสร้างธุรกิจและบทความส่งคุณค่าได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ มกราคม 2560