Lucas Asher ซีอีโอแห่ง Tower Equity ได้หยุดกิจกรรมอดิเรกของเขาระหว่างการแพร่ระบาดโควิด-19
จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีจะพูดคุยกับกีฬาสุดท้าทายกลางเวหาที่เขาชื่นชอบและการบริหาร Tower Equity ที่ทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีหลักล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนวันเกิดปีที่ 20 ที่จะมาถึง จากเด็กหนุ่มที่ฝึกฝนการเขียนชุดคำสั่งบนโปรแกรมคอมพิวเตอร์อยู่กับตนเอง วันนี้ Lucas Asher ซีอีโอแห่ง Tower Equity บริษัทร่วมลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะภาษาคอมพิวเตอร์ชั้นสูงของเขากำลังจะช่วยธุรกิจต่างๆ ทำงานได้อย่างดี “ที่ผ่านมางานของเราเข้าไปมีส่วนในการผลิตเกม ซอฟต์แวร์ รวมไปถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีของเรา” Lucas กล่าว “ไม่นานนี้บริษัทเพิ่งไปสนับสนุนและลงทุนซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง SpaceX, Planet, Pinterest และ Spotify รวมถึงการที่เรามีส่วนร่วมในการควบรวมกิจการของบริษัทอย่าง Auris Health, Apttus, Adaptive Biotechnologies และ Barefoot Networks ซึ่งทุกแห่งล้วนเป็นบริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมด” ในวัยเด็กของ Lucas เขาได้อ่านบทความ “Why Software is Eating the World” ของ Marc Andreesen ผู้ก่อตั้ง Netscape ทำให้ฉุกคิดได้ว่าโลกในอนาคตกำลังถูกดิสรัปต์โดยเทคโนโลยีดิจิทัล และกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการทุ่มเทด้านเทคโนโลยี ซึ่งแน่นอนว่าความพยายามที่มากพอของเขาเริ่มเห็นผลแล้วที่ Tower Equity นอกเหนือจากทุ่มเวลาให้การทำงาน Asher ชอบความท้าทายและหลงใหลในกิจกรรมแอดเวนเจอร์ทุกชนิด ตั้งแต่ดิ่งพสุธาจากเครื่องบินต่อสู้อากาศยาน การพาตัวเองไปสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของท้องทะเล หรือว่ายน้ำไปพร้อมกับฉลามที่เกาะ Moorea ในมหาสมุทรแปซิฟิก
ถามตอบสั้นๆ กับ Lucas Asher
ธุรกิจในวันนี้คุณยังคงมุ่งเป้าไปที่อะไรเป็นหลัก
“ผมมุ่งไปในเรื่องการเรียนรู้เรื่องการเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ในรูปแบบใหม่ๆ และเน้นพัฒนาการแอปพลิเคชันที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นแกนสำคัญให้กับกลุ่มฟินเทค รวมถึงการบริหาร Revo.fm. แอปฯ สตรีมมิ่งเพลงที่ผมนั่งเป็นซีอีโอ สำหรับเป้าหมายหลักของผมคือการสร้างความเปลี่ยนแปลงและการลงทุนในเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโฉมโลกในอนาคต”
ที่ไหนที่คุณชอบที่สุดในการเดินทางท่องเที่ยว
“ผมเดินทางท่องเที่ยวมามากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทุกแห่งมีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของผู้คน วัฒนธรรม และประเพณี ดังนั้นมันจึงยากมากที่จะต้องเลือก ถ้าจะต้องไปเกาะ ผมชอบไปดำน้ำกับฉลามที่เกาะ Moorea ถ้าบินเลือกไป London และชอบไปพักผ่อนที่ไอซ์แลนด์ และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คืออียิปต์
คุณมาเริ่มเล่นกีฬาดิ่งพสุธาได้อย่างไร
ช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ๆ ผมโชคดีที่ได้ร่วมโต๊ะอาหารค่ำกับ Sir. Richard Branson ผู้ก่อตั้ง Virgin Group ผมเองชื่นชอบการเดินทางและความกล้าที่จะคิดนอกกรอบของเขา ผมมองว่าเรามีหลายๆ อย่างเหมือนกัน
บนโต๊ะอาหารวันนั้น Richard เล่าให้ผมฟังถึงการเดินทางข้ามทวีปแอตแลนติกด้วยบอลลูนกับ Per Lindstrand นักบินนักผจญภัยและเจ้าของธุรกิจชาวสวีเดน ผมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกผลักจากโต๊ะอาหารและก้าวออกไปจากกรอบเดิมๆ ทันที
หลังจากวันนั้นก็ตัดสินใจไปสมัครเรียนกีฬาดิ่งพสุธาอย่างจริงจัง ในที่สุดผมก็ได้เข้าใกล้กับความอิสระอย่างสูงสุด ซึ่งนั่นจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงตอนที่คุณกำลังจะกระโดดออกจากเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น
คุณมีคำแนะนำสำหรับผู้คนที่สนใจการดิ่งพสุธาที่คุณกำลังพูดถึง
มันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุข มีชีวิตชีวา ตื่นเต้น และเต็มไปด้วยพลัง ณ ห้วงเวลานั้นคุณต้องทำตัวให้นิ่ง สวมหัวใจทหารและเตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นเพราะอาจเกิดเหตุขึ้นกลางอากาศได้ตลอดเวลา เช่น อยู่ดีๆ คุณอาจจะเกิดกลัวที่สูงแบบสุดขีดก็เป็นได้
อะไรคืองานอดิเรกที่คุณกำลังเรียนรู้อยู่ตอนนี้
ผมกำลังฝึกขี่มอเตอร์ไซค์วิบากและฝึกเล่นเครื่องร่อนพาราชู้ตบินเหนือยอดพีระมิดแห่ง Giza และถ้ามีโอกาสผมอยากสร้างโรงแรมอวกาศเพื่อจะได้โคจรไปรอบโลกซึ่งสิ่งนี้คือความฝันของผมเลย
หลังจากการระบาดของโคโรน่าไวรัส และทุกอย่างกลับมาปกติ คุณจะไปเที่ยวที่ไหนเป็นที่แรก
ผมจะไป Saint Lucia, Morocco, Tahiti, Bermuda, Sardinia, Mykono และอยากจะเที่ยวให้ครบ 195 ประเทศ
รูปโดย: Lucas Asher เรียบเรียงใหม่จาก This Hobbyist Skydiver Made His First Million Before His 20th Birthday เผยแพร่บน Forbes.com
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine