ChatGPT และ Generative AI จุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลง - Forbes Thailand

ChatGPT และ Generative AI จุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลง

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Jul 2023 | 11:30 AM
READ 1216

    ChatGPT เป็น AI ที่มีความเข้าใจภาษา แบบที่มนุษย์ใช้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากโปรแกรมภาษาขนาดใหญ่หรือ Large Language Model (LLM) ของค่าย OpenAI ที่มีแบ็กอัพใหญ่อย่าง Microsoft และ Elon Musk หนุนหลังอยู่ โดยสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีภาษาธรรมชาติพื้นฐานที่เรียกว่า GPT model 3.6 ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการวิเคราะห์ภาษาที่มีความล้ำหน้าอันดับต้นๆ ของโลก (GPT4 ได้ถูกนำออกมาให้ใช้แล้วด้วย) นอกจากนั้น ChatGPT ยังเป็นผลมาจากการลงทุนในการนำข้อความและผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมาร่วม “สอน” หรือ “เทรน” AI ให้เข้าใจภาษาต่างๆ ได้ตามสิ่งที่ผู้พัฒนาต้องการ โดย ChatGPT ถูกนำเสนอในรูปแบบของ Conversational AI หรือก็คือ Chatbot ที่ฉลาดล้ำนั่นเอง

    สำหรับการนำ ChatGPT มาใช้จากการเทรนข้อมูลโดยอินเทอร์เน็ตและข้อมูลเฉพาะทางในปริมาณมหาศาลทำให้ ChatGPT มีความรู้ที่เรียกว่าทุกเรื่องที่อินเทอร์เน็ตมี ทำให้ ChatGPT สามารถสร้างข้อมูลหรือเนื้อหาในสิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจขึ้นมาได้อย่างน่าทึ่ง โดยการทำงานสำคัญคือ การคัดเลือกสรุปใจความ และเรียบเรียงนำเสนอข้อมูลที่ต้องการจากแหล่งข้อมูลมหาศาลที่ ChatGPT มี จากการที่มีคอนเทนต์ในทุกเรื่อง สิ่งที่ ChatGPT ทำได้ดีมากคือ “เข้าใจ” ความต้องการข้อมูลของผู้ใช้งาน และ “นำเสนอ” หรือเรียบเรียงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่รู้สึกว่านำไปใช้งานต่อได้ง่ายและโดนใจ ยกตัวอย่างเช่น “ต้องการเขียนเรียงความเรื่องราวต้นกำเนิดของเส้นสปาเกตตี โดยอยากให้มีความยาวไม่เกิน 1,000 ตัวอักษรเขียนโดยใช้ภาษาที่ลีลาเยอะหน่อยเป็นภาษาไทย” ผู้ใช้งานสามารถบอก ChatGPT ได้ทันที โดย language model ใน ChatGPT จะทั้งพยายามเข้าใจความต้องการและหาคอนเทนต์เกี่ยวกับประวัติของต้นกำเนิดเส้นสปาเกตตีและเรียบเรียงออกมาให้ได้ภายใน 1,000 ตัวอักษร ด้วยลักษณะไวยากรณ์และคำศัพท์ในระดับที่รู้สึกได้ว่าไม่ใช่การเขียนแบบธรรมดา ซึ่ง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่เกิน 2 นาที

    นอกจากนี้ ChatGPT ทำได้ตั้งแต่ช่วยวางแผนในการไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยอยู่ Tokyo3 วัน Osaka 4 วัน ว่าแต่ละวันควรมีแผนการเที่ยวอย่างไร จนถึงการเขียน HTML code ให้กับเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซว่าต้องเขียนโค้ดโปรแกรมอย่างไรเพื่อที่จะเพิ่มบริการ recommend product ให้กับลูกค้า โดยไปเรียกใช้บริการหรือ API ของผู้ให้บริการที่สนใจได้ และแค่นำโค้ดโปรแกรมที่ ChatGPT สร้างให้ก๊อปปี้แล้วไปปรับแต่งนิดหน่อยก็นำไปติดตั้งที่เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซได้ทันที

    

ความเปลี่ยนแปลงจาก ChatGPT

    

    ความสามารถของ ChatGPT สามารถสร้างผลกระทบและความเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่างที่มนุษย์ต้องการและสร้างสรรค์ผ่านการพิมพ์ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถแบ่งออกในกลุ่มงานต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น 

    กลุ่มงานครีเอทีฟ ได้แก่ ความสามารถในการแต่งเพลง สร้างบทหนังภาคต่อ เขียนก๊อปปี้โฆษณาขายของ แต่งโพส facebook หรือแม้แต่การเขียนบทความลงนิตยสาร (แต่ปัจจุบันนี้ยังคงเป็นนักเขียนไม่ใช่ ChatGPT) 

    กลุ่มงานบริหารจัดการ ได้แก่ การตอบโต้กับลูกค้าเกี่ยวกับเงื่อนไขการรับประกันสินค้าได้ เพียงแค่ให้ข้อมูลของบริษัทเพิ่มเติม และสรุปบันทึกการประชุมได้โดยนำตัวอักษรจากการแปลงเสียงบันทึกการประชุมมาใช้

    ภาคการศึกษา ได้แก่ การช่วยครูอาจารย์ในการออกแบบเนื้อหาการเรียนการสอนได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยนักเรียนในการทำการบ้านได้เหมือนกัน

    สายงานกฎหมาย โดย ChatGPT สามารถทำหน้าที่ในการค้นหาประมวลกฎหมาย และเริ่มมีการใช้เป็นผู้ช่วยทนายความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    สายนักพัฒนาโปรแกรม ได้แก่ การเขียนโค้ดพื้นฐาน หรือตรวจสอบโค้ดผิด ซึ่งปกติต้องใช้โปรแกรมเมอร์ทำในหน่วยหลายชั่วโมงหรือหลายวันต่อ 1 งาน แต่ ChatGPT ใช้เวลาในการเขียนโค้ดหน่วยเป็นนาที โดยสตาร์ทอัพทั่วโลกกำลังตื่นตัวในการพัฒนาสินค้าด้วยระยะเวลาที่สั้นลง ด้วยการให้ ChatGPT ช่วยในเรื่องการเขียนโค้ดโปรแกรมมิ่ง

    ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ยังไม่นับรวมวงการแพทย์ที่ ChatGPT จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอีกมหาศาล

    อย่างไรก็ตาม ChatGPT ยังไม่ใช่สิ่งที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกต่อจากอินเทอร์เน็ต เนื่องจาก ChatGPT เปรียบเป็นทัพหน้าของสิ่งที่เรียกว่า Generative AI ที่เป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ออกมา โดย ChatGPT คือ การสร้างคอนเทนต์หรือเนื้อหาตัวอักษรใน

    รูปแบบการสนทนา แต่ยังมีบริการอื่นๆ อีกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สร้างภาพถ่าย ออกแบบตัวละคร สร้างทำนอง ดนตรี สร้างเสียงสนทนา

    ขณะเดียวกันยังคงมี AI Generated Things ออกมาอีกเรื่อยๆ เนื่องจากคลาวด์คอมพิวติ้งเดินมาจนถึงจุดที่ unlock ความต้องการในการประมวลผลให้อยู่ในจุดที่เทคโนโลยีนั้นทำได้จริง ซึ่งเมื่อควอนตัมคอมพิวเตอร์แพร่หลายกว่านี้จะทำให้ Generative AI ทำอะไรได้อีกมาก ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า Generative AI คือ สิ่งที่จะเข้ามาเปลี่ยนวิถีชิวิตและแนวความคิดของมนุษย์ในอนาคต โดย Generative AI ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มนุษย์สร้างขึ้นมาและเป็นเครื่องมือที่มนุษย์ต้องปรับตัวอยู่ร่วมกับสิ่งนี้ เหมือนกับการที่ผ่านยุคโทรศัพท์แบบมีสายสู่ยุคมือถือและสมาร์ทโฟน รวมถึงโซเชียลมีเดีย การใช้ชีวิตและความสามารถแบบใหม่ก็จะกำเนิดขึ้นพร้อมกับวิถีแบบเดิมๆ ก็จะค่อยๆ ทยอยหายไป

    

ทักษะ Prompt Engineering

    

    หัวใจในการทำให้ AI สร้างสรรค์สิ่งที่ต้องการได้โดนใจคือ การสั่ง AI ในแบบที่ AI เข้าใจได้ง่ายและแม่นยำ การสั่ง AI นี้เองที่เรียกว่า Prompt การเขียน Prompt ได้ดีนั้นจำเป็นที่จะต้องเข้าใจโครงสร้างภาษาที่ AI ต้องการตัวอย่างเช่น การบอก ChatGPT ว่า “ช่วยเขียนเรียงความเรื่องประวัติเส้นสปาเกตตี” เทียบกับ “ช่วยเขียนเรียงความเรื่องประวัติเส้นสปาเกตตีที่มีความยาวไม่เกิน 1,000 คำ ด้วยภาษาที่เป็นทางการและสุภาพ ไม่มีคำหยาบ ใช้คำศัพท์แบบขั้นสูง โดยอยากให้ตอนจบของเรียงความพูดถึงความนิยมของการปรุงอาหารด้วยเส้นสปาเกตตีในปัจจุบัน” การเขียน Prompt อย่างหลังก็ย่อมที่จะได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจมากกว่า แน่นอนว่าการสั่งงาน AI แต่ละตัวนั้นจะมีลักษณะของการเขียน Prompt ที่ไม่เหมือนกัน สุดท้ายก็จะมีผู้เชี่ยวชาญการเขียน Prompt ChatGPT หรือผู้เชี่ยวชาญ Midjourney ที่เน้นการสร้างรูปภาพเกิดขึ้นคล้ายกับที่ขณะนี้มีผู้เชี่ยวชาญในการใช้แพลตฟอร์มโฆษณา Facebook หรือ Google 

    สำหรับ ChatGPT เป็นของบริษัท OpenAI ที่การจะใช้บริการตรงๆ คือ การไปใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของ OpenAI หรือใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ของนักพัฒนาคนอื่นๆ ที่เรียกใช้บริการของ OpenAI อีกทีหนึ่ง แต่สิ่งที่ต้องระวังในการเรียกใช้ ChatGPT โดยตรงคือ ChatGPT ถูกสอนด้วยภาษาที่หลากหลายมาก ซึ่งอาจจะมีทั้งคำหยาบและข้อความที่ไม่เหมาะสมถูกสร้างขึ้นมา ทางเลือกคือ การลองใช้ความสามารถของ ChatGPT ผ่านเครื่องมือของ Microsoft ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Edge ที่เป็นเว็บเบราว์เซอร์ โดยเลือกใช้บริการของ Bing หรือใช้ผ่านโปรแกรมของ Office 365 ก็จะได้ใช้ ChatGPT เวอร์ชั่นที่เป็นเด็กเรียบร้อย เพราะถูกสอนให้เหมาะสมกับบริบททางธุรกิจมาแล้ว ที่สำคัญคือ ยังใช้งานฟรีอยู่ก็จะเป็นจุด เริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้เข้าใจว่า Generative AI ขณะนี้น่าสนใจแค่ไหน และจะอยู่ร่วมกันอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    

    อ่านเพิ่มเติม : SABINA ประเมินยอดขายครึ่งปีแรกยังเป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมชูจุดเด่น "อัตรากำไรสุทธิ" เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

    คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine

TAGGED ON