PwC แนะจับตา ‘ปฏิวัติอุตสาหกรรมสู่ยุค 4.0’ คาดเงินลงทุนพุ่งใน 5 ปีข้างหน้า - Forbes Thailand

PwC แนะจับตา ‘ปฏิวัติอุตสาหกรรมสู่ยุค 4.0’ คาดเงินลงทุนพุ่งใน 5 ปีข้างหน้า

FORBES THAILAND / ADMIN
31 Oct 2016 | 01:04 PM
READ 3168
PwC เผยบริษัทในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมทั่วโลกตื่นตัวปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 คาดภายใน 5 ปีใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 907 แสนล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อเชื่อมเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้ากับทุกหน่วยการผลิต ช่วยผลักดันรายได้ด้านดิจิทัลของบริษัทเพิ่มขึ้น 2.9% ต่อปี ด้านไทยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเริ่มตื่นตัวหลังรัฐบาลประกาศใช้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ภายใต้แนวคิด “ไทยแลนด์ 4.0” คาดต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเพื่อเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล จาหผลสำรวจ Industry 4.0: Building the digital enterprise ที่ทำการสำรวจบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมจำนวนกว่า 2,000 รายจาก 9 อุตสาหกรรม  ใน 26 ประเทศพบว่า ปัจจุบันบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกกำลังตื่นตัวในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (Industry 4.0) โดยเชื่อมเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้ากับทุกหน่วยการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการ ถือเป็นยุคที่มีการบรูณาการระบบนิเวศทางดิจิทัลเข้ากับพันธมิตรในห่วงโซ่คุณค่า (Value chain partners) โดยการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Data analytics) ถือเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรม 4.0 ทั้งนี้ คาดว่า จากนี้จนถึงปี 2563 อุตสาหกรรมทั่วโลกจะลงทุนปีละ 907,000 ล้านดอลลาร์เพื่อปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 “เราเห็นกระแสการลงทุนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกเพื่อปฏิวัติอุตสาหกรรมเข้าสู่ยุค 4.0 อย่างเต็มรูปแบบจากบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรม วันนี้ผู้ประกอบการเน้นไปที่การลงทุนในเทคโนโลยีสำคัญๆ เช่น เซ็นเซอร์ หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อ ซอฟแวร์ และแอปพลิเคชัน เช่น ระบบประมวลผลสถานะและระบบการผลิต รวมไปถึงการฝึกอบรมพนักงาน เพื่อผลักดันให้องค์เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ โดยบริษัทมากกว่าครึ่งที่ทำการสำรวจคาดหวังว่า จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนกลับคืนมาภายใน 2 ปี” วิไลพร ทวีลาภพันทอง กล่าว ปัจจุบัน ผู้นำบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลงฟังก์ชั่นการทำงานภายในองค์กรให้เป็นดิจิทัล รวมทั้งมีการบรูณาการห่วงโซ่อุปทานทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง ไม่ว่าเป็นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การขนส่งและโลจิสติกส์ ตลอดจนการมีพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ซัพพลายเออร์ คู่ค้าและลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานแบบดิจิทัล และบริการฐานข้อมูลอีกด้วย ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า 1 ใน 3 ของบริษัทที่ทำการสำรวจให้คะแนนอัตราการแปลงเป็นดิจิทัลของตน (Digitisation) อยู่ที่ระดับ 33% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 72% ภายใน 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้ในอีก 5 ปีข้างหน้า รายได้ด้านดิจิทัลของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 2.9% หรือคิดเป็นรายได้ต่อปีที่  493,000 ล้านดอลลาร์และช่วยลดต้นทุนปีละ 421,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 3.6% ต่อปีโดยเฉลี่ย เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้ย่นระยะการผลิตให้สั้นลง ทำให้สามารถนำสินทรัพย์มาใช้ประโยชน์ได้สูงสุด และเพิ่มคุณภาพสินค้าให้สูงขึ้น วิไลพร กล่าวต่อว่า ไม่น่าแปลกใจที่หากบริษัททั่วโลกปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ได้สำเร็จ จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นและช่วยลดต้นทุนจำนวนมหาศาล เพราะยุคอุตสาหกรรม 4.0 เป็นการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะและข้อมูลแบบเรียลไทม์มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันรัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ภายใต้โมเดลที่เรียกว่า “ประเทศไทย 4.0” ในระยะเวลา 3-5 ปี โดยจะเป็นเศรษฐกิจที่เน้นการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Value-Based Economy) เปลี่ยนการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยอุตสาหกรรมไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัล และเปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตไปสู่ภาคการบริการมากขึ้น ซึ่งหากทำสำเร็จ จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศได้อย่างมาก และน่าจะช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาวอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายของภาครัฐในการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สมบูรณ์ รวมทั้งการขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อเป็นรากฐานในการก้าวไปสู่ยุค 4.0 ซึ่งคาดว่า จะต้องใช้เงินลงทุนด้านนี้เป็นจำนวนมหาศาล ด้านผู้ประกอบการไทยเองก็เริ่มตื่นตัวในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าและบริการของตนเอง โดยหลายบริษัทเริ่มกันเงินงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อลงทุนด้านดิจิทัลไว้ด้วย Highlights - จากนี้จนถึงปี 2563 อุตสาหกรรมทั่วโลกจะลงทุนปีละ 907,000 ล้านดอลลาร์เพื่อปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 - รายได้ด้านดิจิทัลของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 2.9% - รายได้ด้านดิจิทัลของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลกคิดเป็นรายได้ต่อปี  493,000 ล้านดอลลาร์ วิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา บริษัท PwC Consulting (ประเทศไทย)