"มาตรการด้านที่อยู่อาศัย" ในใจคุณคือสิ่งใด - Forbes Thailand

"มาตรการด้านที่อยู่อาศัย" ในใจคุณคือสิ่งใด

มาตรการด้านที่อยู่อาศัย ในใจคุณคืออะไร DDproperty ได้ทำแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมา โดยมีหนึ่งหัวข้อที่น่าสนใจ คือ ‘อยากให้รัฐบาลมีมาตรการอะไรในการส่งเสริมการซื้อ-ขายที่อยู่อาศัย?’ ซึ่งจากผลลัพธ์ที่ได้ก็สะท้อนให้เห็นมุมมองที่น่าสนใจหลายประเด็นด้วยกัน

หลังจากผ่านพ้นช่วง Lockdown ในภาวะวิกฤติโควิด-19 ไปได้ไม่นาน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและอสังหาฯ ประเทศไทยก็ค่อยๆ ฟื้นตัว แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้กลับมาสู่ภาวะปกติเต็ม 100 แต่ก็มีสัญญาณที่ดีขึ้นจากมาตรการด้านที่อยู่อาศัย ทางจากธนาคารและภาครัฐบาลในบางส่วน แต่ก่อนจะมาถึงจุดนี้ได้นั้น ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาอันยากลำบากไม่น้อยเลย คนไทยส่วนใหญ่ประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจากรายรับจากการทำการค้า ทำธุรกิจลดน้อยลง รวมไปถึงกลุ่มพนักงานออฟฟิศบางกลุ่มโดนลดค่าจ้าง ไปจนถึงการว่างงาน นั่นเป็นเพราะพิษโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปยังหลายภาคส่วน ทั้งฝั่งของผู้ประกอบการและประชาชน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งภาคธุรกิจและประชาชน เกิดกระแสเรียกร้องให้ภาครัฐยื่นมาเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐเองก็มีการออกนโยบาย มาตรการช่วยเหลือเยียวยาอยู่พอสมควร และจากผลสำรวจของ DDproperty ได้สะท้อนมุมมองดังต่อไปนี้   "มาตรการด้านที่อยู่อาศัย" คนไทยมีความเชื่อมั่นต่อตลาดอสังหาฯ ลดลง จากแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อสภาพตลาดที่อยู่อาศัย Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุดที่มีผู้เข้าร่วมฯ กว่า 1,000 คน พบดัชนีความเชื่อมั่นอสังหาฯ ลดลงจากไตรมาสแรก จากเดิม 48 จุด ลงลงมาอยู่ที่ 43 จุด สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนมีความพึงพอใจต่อตลาดอสังหาฯ น้อยลง เพราะมีความไม่แน่นอนสูง โดยกว่าร้อยละ 75 ชะลอการซื้อขายออกไป บ้างก็ไม่กล้าลงทุน นอกจากนี้ยังมองว่าได้รับความช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐน้อย และราคาที่อยู่อาศัยอาจมีแนวโน้มลดลงใน 1-5 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งจะขออธิบายขยายความให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นใน 3 ประเด็น ดังต่อไปนี้ 1.) ระดับความพึงพอใจโดยรวมของคนไทยและความสามารถในการจับจ่ายของคนไทยยังคงลดลง หากพิจารณาความพึงพอใจต่อสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในรอบปัจจุบันพบว่า ความพึงพอใจของผู้บริโภคลดลงเล็กน้อย โดยลดลงจากร้อยละ 54 ในการสำรวจรอบก่อน เหลือร้อยละ 51 ในการสำรวจรอบนี้ สอดคล้องไปกับความสามารถในการจ่ายที่ลดลงด้วย โดยส่วนใหญ่มองว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ยังแพงเกินไปในสถานการณ์ปัจจุบัน 2.) คนไทยจำนวนมากมองว่าอัตราดอกเบี้ยสูงเกินไป ส่วนการรับรู้ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบ้านในสถานการณ์ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่มองว่า อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านยังอยู่ในระดับสูงถึงร้อยละ 68 โดยส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90 มองว่า ภาครัฐยังไม่ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนในเรื่องนี้อย่างเพียงพอ 3.) คนไทยคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ราคาที่อยู่อาศัยจะมีการปรับตัวลง ทางด้านราคา คนไทยส่วนใหญ่มองว่า ราคาอสังหาฯ ยังค่อนข้างแพงเกินไปถึงร้อยละ 60 แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมองว่าตนเองยังสามารถซื้อได้ถึงร้อย 57 ด้วยรายได้ที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน รวมทั้งยังคาดการณ์ว่าราคาที่อยู่อาศัยในอีก 1-5 ปีข้างหน้า ราคาจะปรับลดลงอีก "มาตรการด้านที่อยู่อาศัย" มาตรการใดบ้าง ที่คนไทยอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือ แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการออกนโยบายช่วยเหลือด้านประชาชนไปบ้างแล้วบางมาตรการ เช่น โครงการบ้านล้านหลัง โดยมีการเพิ่มวงเงินกู้ จากเดิม 1 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 1.2 ล้านบาท, มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างร้อยละ 90, ผ่อนปรนมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) รวมถึงลดค่าโอน ค่าจดจำนอง แต่จากผลการสำรวจพบว่า คนไทยถึง 4 ใน 5 ไม่ค่อยพึงพอใจกับนโยบายของภาครัฐในเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ โดยพบว่า มาตรการที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมา หลัก ๆ แล้วสามารถจำแนกได้เป็นดังนี้
  • ร้อยละ 91  คาดหวังให้รัฐบาลลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ทั้งแก่ผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกและผู้ที่มีบ้านอยู่แล้ว
  • ร้อยละ 34 ลดการชำระเงินดาวน์
  • ร้อยละ 30 ลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก
รองลงมาต้องการให้ภาครัฐช่วยในเรื่องการขยายเวลาการชำระสินเชื่อให้นานขึ้น, หยุดการคำนวณดอกเบี้ยชั่วคราวเป็นเวลา 3-6 เดือน, หยุดการจ่ายค่าผ่อนบ้านเป็นเวลา 3-6 เดือน, ลดสัดส่วนเกณฑ์พิจารณาเงินกู้ต่อมูลค่าบ้าน (LTV) ให้ต่ำลง และลดค่าภาษีอากรแสตมป์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่มีความแน่นอน และคนไทยส่วนใหญ่ยังมองว่าราคาที่อยู่อาศัยอยู่ในเกณฑ์ที่สูง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ ด้วยความช่วยเหลือจากภาครัฐในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความช่วยเหลืออื่นๆ ผ่านมาตรการต่างๆ ที่จะเข้ามาสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงเงินกู้และซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ต้องจับตาดูการเปลี่ยนแปลงต่อไปอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ขณะที่กำลังรอนโยบายขับเคลื่อนของทางภาครัฐ ทางฝั่งของผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยเองก็ได้นำเสนอโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้ซื้อ นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ 2563 มาจนถึงปัจจุบัน หากมองในแง่ของผู้บริโภคที่มีความพร้อมทางการเงินก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะได้ซื้ออสังหาฯ ในราคาที่ถูกลง และได้ของแถมคุ้มค่ามากขึ้น DDproperty.com เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่ง ที่รวบรวม ทิปส์ในการซื้อขายอสังหาฯ และรีวิวโครงการใหม่ ทั้งไทยและอังกฤษ ไว้กว่า 10,000 บทความ อ่านเพิ่มเติม: William Heinecke เผยดัน ไมเนอร์ฯ เสริมเแกร่งการเงิน
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine