“พร้อมเพย์” จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญใน Thailand 4.0 - Forbes Thailand

“พร้อมเพย์” จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญใน Thailand 4.0

FORBES THAILAND / ADMIN
11 May 2017 | 11:49 AM
READ 5298
ในช่วงอายุที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยพัฒนาได้ทำให้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิตคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์มือถือเป็นไปอย่างแพร่หลาย การซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน และนวัตกรรมทางการเงินออนไลน์พัฒนาอย่างก้าวกระโดด  

โฉมใหม่บริการทางการเงินทั่วโลก

จากการศึกษาของ World Economic Forum พบว่า พัฒนาการของนวัตกรรมทางการเงินที่ก้าวกระโดด จะทำให้บริการทางการเงินเปลี่ยนโฉมไปในอนาคตอันใกล้นี้ โดยหนึ่งในนวัตกรรมทางการเงินที่จะมีบทบาทอย่างมากและทำให้การใช้เงินสดลดลงคือ ช่องทางการรับจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือและการใช้เงินในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งภาพรวมการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในหลายประเทศได้มีการนำระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว และประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย เช่น นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก เป็นต้น ขณะที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เช่น มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย อียิปต์ ได้เริ่มใช้ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์มาแล้วระยะหนึ่งโดยภาครัฐได้มีนโยบายส่งเสริมที่เป็นรูปธรรมผ่านการสร้างแรงจูงใจในหลายรูปแบบ เช่น ประชาชนสามารถรับเงินอุดหนุนสวัสดิการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ รวมถึงการขยายช่องทางเข้าถึงการให้บริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง  

National e-Payment

บริการทางการเงินทั่วโลกกำลังเริ่มเปลี่ยนโฉมไปสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในภาคการเงิน (Financial Technology หรือ FinTech) ที่เติบโตมากขึ้น ทำให้ตั้งแต่ปี 2558 กระทรวงการคลังได้เร่งผลักดันนโยบาย National e-Payment เพื่อปฏิรูปและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของไทยและอำนวยความสะดวก ลดต้นทุน เพิ่มความว่องไวและความปลอดภัยให้การดำเนินธุรกรรมทางการเงิน อันจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจไทยในยุค Digital Economy และ Thailand 4.0 ทั้งนี้พร้อมเพย์ (PromptPay) เป็นโครงการหนึ่งในยุทธศาสตร์ National e-Payment ซึ่งเป็นความพยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการโอนเงินหรือชำระเงิน จากการโอนเงินหรือชำระเงินปกติในปัจจุบันที่ต้องใช้หมายเลขบัญชีธนาคาร ซึ่งมีตัวเลขหลายหลัก ทำให้ยากต่อการจดจำและการสื่อสาร โดยพร้อมเพย์ เป็นทางเลือกใหม่ที่ต่อยอดจากการบริการโอนเงินที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น internet banking หรือ mobile banking รวมทั้ง ATM ทำให้การรับและโอนเงินสะดวก ว่องไว เพราะเพียงใช้หมายเลขบัตรประชาชนหรือโทรศัพท์มือถือก็สามารถโอนเงินและรับโอนเงินได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับระบบการโอนเงินประเภทต่างๆ ที่มีให้บริการอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนั้น ระบบดังกล่าวยังเป็นช่องทางการรับและโอนเงินที่ประหยัดค่าธรรมเนียมได้มากที่สุดในขณะนี้ คือ หากโอนเงินให้กับผู้รับเงินต่างธนาคารและอยู่ในระบบพร้อมเพย์ ไม่เกิน 5,000 บาท จะไม่เสียค่าธรรมเนียม และสามารถโอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โครงสร้างค่าธรรมเนียมนี้มีส่วนสำคัญที่จะช่วยจูงใจให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้บริการให้มาใช้พร้อมเพย์ แทนการใช้เงินสดและเช็ค  

เสียงตอบรับพร้อมเพย์

นับตั้งแต่เปิดให้บริการพร้อมเพย์ระหว่างบุคคลเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 ถือว่าได้รับผลตอบรับดีทั้งจากผู้ให้บริการ ซึ่งมีความพร้อมและผู้ใช้บริการให้ความสนใจอย่างดี สะท้อนจากการลงทะเบียนที่เพิ่มขึ้นขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 22 ล้าน ID และประชาชนได้เริ่มเปลี่ยนมาโอนเงินผ่านพร้อมเพย์มากขึ้น โดยเฉลี่ยจำนวนรายการรับจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์มีถึงวันละ 15,000 รายการต่อวัน และคาดว่าปริมาณการโอนจะเพิ่มสูงขึ้นต่อไป
(Photo Credit: pakistankakhudahafiz.com)
นอกจากนี้ กรมสรรพากร ได้เริ่มการคืนภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์สำหรับปีภาษี 2559 แล้ว โดยผู้เสียภาษีที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชน และได้รับการอนุมัติคืนภาษี จะได้รับเงินคืนสะดวกและรวดเร็วขึ้นกว่าระบบเดิมที่จ่ายเงินคืนภาษีผ่านการออกเช็ค โดยกรมสรรพากรตั้งเป้าในระยะยาวว่าผู้รับเงินคืนภาษีทั้งหมดจะรับบริการผ่านระบบพร้อมเพย์ ดังนั้น ผลที่ได้รับจึงเป็นที่น่าพอใจโดยกว่า 60% ของผู้ขอคืนภาษีได้ย้ายมาใช้ระบบพร้อมเพย์ ยิ่งไปกว่านั้น ระบบพร้อมเพย์ยังได้รับการนำไปใช้ประโยชน์ใน การจ่ายเงินสวัสดิการและการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ซึ่งจะช่วยให้การจ่ายเงินสวัสดิการถูกต้องตรงตัว ผู้รับสวัสดิการได้รับเงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยและรวดเร็ว โดยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นมา กรมบัญชีกลางได้เริ่มจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดผ่านระบบพร้อมเพย์เพิ่มเติมจากการจ่ายเงินในรูปแบบเดิม โดยผู้ได้รับสวัสดิการกว่า 24,000 รายจะได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดจากระบบนี้ ซึ่งในระยะต่อไปจะขยายการจ่ายเงินสวัสดิการและเงินอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันผ่านระบบพร้อมเพย์ เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยความพิการ เป็นต้น
(Photo Credit: Credit Union Times)
ทั้งนี้ การพัฒนาระบบสวัสดิการสังคมตามแนวทางนี้ร่วมกับระบบการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลังที่จะมีการออกบัตรสวัสดิการภาครัฐให้แก่ผู้มีรายได้น้อย จะช่วยให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐที่ครอบคลุมครบวงจรมากขึ้น ทำให้การออกแบบนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น  

พร้อมใช้สำหรับนิติบุคคล

หลังจากที่บริการพร้อมเพย์ระหว่างบุคคลได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในระยะต่อไปจึงเป็นการขยายการให้บริการสำหรับนิติบุคคล ซึ่งนิติบุคคลสามารถรับโอนเงินได้โดยใช้เลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลักแทนการใช้เลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร และสามารถผูกกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันได้ 1 บัญชีกับ 1 ธนาคาร โดยบริการนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกการรับเงินจากประชาชนและนิติบุคคลด้วยกัน นอกจากนี้ ผู้โอนจะมีค่าใช้จ่ายลดต่ำลง ลดความซ้ำซ้อนในการมีบัญชีหลายธนาคารเพื่อรับเงินค่าบริการต่างๆ จากลูกค้า ทำให้การทำธุรกิจมีความคล่องตัว ลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยบริการนี้ได้เริ่มเปิดรับลงทะเบียนแล้วตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2560 และพร้อมให้บริการโอนเงินพร้อมเพย์นิติบุคคลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ตามความพร้อมของแต่ละธนาคาร โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารที่เลือกใช้ ทั้งนี้ การลงทะเบียนไม่เสียค่าใช้จ่ายและสามารถลงทะเบียนได้กับทุกธนาคารที่เปิดให้บริการและไม่มีกำหนดปิดรับลงทะเบียน ดังนั้น บริการพร้อมเพย์ จะเป็นก้าวสำคัญในการพลิกโฉมระบบการชำระเงินของประเทศ ซึ่งจะช่วยลดการใช้เงินสด เพิ่มความรวดเร็ว ถูกต้อง และสามารถตรวจสอบรายการย้อนหลังได้ เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาประเทศไทยตามแนว Digital Economy และ Thailand 4.0 ได้เป็นอย่างดี   พรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง